คอลัมน์ DATA
ศูนย์พยากรณ์และสารสนเทศพลังงาน สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) รายงานเปรียบเทียบราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงในภูมิภาคเดือน ก.พ. 2561 กับเดือน ม.ค. 2560 พบว่าราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง จากความกังวลปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐอเมริกาที่มีแนวโน้มปรับขึ้นต่อเนื่องและเร็วกว่าที่คาดไว้ หลังราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นเหนือระดับ 50 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ซึ่งเป็นจุดคุ้มทุน ส่วนน้ำมันดิบจากหินชั้นดินดาน (shale oil) ในสหรัฐ ผู้ผลิตปรับเพิ่มแท่นขุดเจาะอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่ากลุ่มโอเปกยังคงเดินหน้าปรับลดการผลิต จากความร่วมมือในการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปกที่เพิ่มขึ้น และปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของเวเนซุเอลาที่มีแนวโน้มลดลงจากผลกระทบของวิกฤตทางเศรษฐกิจ ฯลฯ ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มปรับตัวลดลง
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- หุ้นไทยดิ่งหนัก ตลาดหลักทรัพย์ออก Statement ชี้แจง
- เปิดไทม์ไลน์ลูกค้าซิตี้แบงก์ต้องรู้! ก่อนโอนย้ายบัญชีมาเป็น “ยูโอบี” 21 เม.ย.นี้
สำหรับราคาน้ำมันเบนซินในภูมิภาคปรับตัวลดลง จากปริมาณการผลิตในภูมิภาคเอเชียที่อยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะจากจีนและอินเดียที่เข้ามาในตลาด ในขณะเดียวกันยังถูกกดดันจากปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังทั่วโลกปรับตัวสูงขึ้น ถึงแม้ว่าตลาดจะได้รับแรงหนุนจากแรงซื้อของอินโดนีเซีย ญี่ปุ่น และศรีลังกา ส่วนราคาน้ำมันดีเซลในภูมิภาคลดลง จากอุปสงค์ที่ทรงตัวและอุปทานที่อยู่ระดับสูง โดยถูกกดดันจากอุปทานของประเทศ อินเดียและตะวันออกกลางที่เข้าสู่เอเชีย หลังจากส่งออกสินค้าไปยังตะวันตกไม่ได้เพราะไม่คุ้ม
สอดคล้องกับราคาน้ำมันเบนซินและดีเซลในกลุ่มอาเซียนที่ลดลง ยกเว้นลาว และอินโดนีเซีย ที่เพิ่มขึ้น และบรูไนราคาคงเดิม โดยสิงคโปร์ปรับราคาลดลงถึง 1.61 บาท/ลิตร และไทยลดลง 0.90 บาท/ลิตร ด้านราคาดีเซลในอาเซียนปรับตัวลดลง ยกเว้นลาวและอินโดนีเซียที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น