ภาพบรรยากาศ ต่างชาติเข้าไทยวันแรกคึกคัก ประยุทธ์อยู่ “สกอตแลนด์” ประชุม COP26 สั่ง “อนุทิน” ดูความเรียบร้อย
วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้เป็นวันแรกที่ประเทศไทยประกาศเปิดประเทศอย่างเป็นทางการ เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ รวมทั้งขับเคลื่อนเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศหลังจากที่ได้รับผลกระทบจาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มาเกือบ 2 ปี
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- กีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เสียชีวิต อายุ 56 ปี
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า จากการเปิดประเทศเพื่อรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากประเทศต่าง ๆ ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก โดยท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมีนักท่องเที่ยวจากสายการบินต่างประเทศต่าง ๆ ทยอยเดินทางเข้าไทย โดยเที่ยวบินแรกที่เดินทางเข้าไทย คือเที่ยวบิน ที่ NH 805 เดินทางจากสนามบินโตเกียวนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น พร้อมผู้โดยสาร 43 คน เป็นคนไทย 32 คน และชาวต่างชาติอีก 11 คน โดย ทั้งหมดถูกตรวจคัดกรองโรคโควิด-19 อย่างเข้มข้น
เจ้าหน้าที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิปฏิบัติงานด้วยความรัดกุมสวมชุด PPE อำนวยความสะดวก ตรวจสอบเอกสารและคัดกรองผู้โดยสารตามแนวทางป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 อย่างเข้มงวด โดยวันนี้จะมีทั้งหมด 61 เที่ยวบินที่เป็นเที่ยวบินโดยสารส่วนใหญ่เป็นเที่ยวบินจากยุโรปเป็นหลัก
ขณะที่จำนวนผู้โดยสารเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 2,300 คนและคนไทยเดินทางกลับจากต่างประเทศอีกบางส่วนรวมมีคนเดินทางเข้าประเทศประมาณ 3,000 คน รวมวันที่ 1-5 พ.ย.นี้ มีสายการบินต่างชาติทั่วโลกที่จะทำการบินเข้า และออกประเทศไทย มีทั้งหมด 27 สายการบิน มีผู้โดยสารรวม 15,230 คน
เมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางมาถึงลงจากเครื่องบินจะต้องผ่านจุดวัดอุณหภูมิ จากนั้นทำการแสดงเอกสารให้สาธารณสุขตรวจสอบ ทั้งการผ่านระบบ COE กับ QR CODE ในด่าน Thailand Pass ประกอบด้วยเอกสารรับรองการฉีดวัคซีน กรรมธรรม์ประกันภัย ผลการตรวจหาเชื้อ RT-PCR ภายใน 72 ชั่วโมง เอกสารการจองที่พัก AQ หรือที่พักตามมาตรฐาน SHA+
จากนั้นจึงไปทำการผ่านด่าน ตม. ตรวจคนเข้าเมือง รับสัมภาระ และผ่านศุลกากร ไปยังจุดนัดพบ ขณะเดียวกันนักท่องเที่ยวจะต้องทำการติดตั้งแอปพลิเคชัน “หมอชนะ” และตรวจหาเชื้อแบบ RT-PCR และพำนักอยู่ในโรงแรม หากผลออกมาไม่ติดเชื้อ จึงจะสามารถเดินทางออกจากโรงแรมได้ แต่หากตรวจพบว่าติดเชื้อ จะให้เข้าสู่ระบบการรักษาทันที
เที่ยวบินแห่เข้า “ภูเก็ต” มากกว่า 11 เที่ยวบิน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ททท.สำนักงานภูเก็ต พร้อมด้วยท่าอากาศยานภูเก็ต ตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ต ร่วมต้อนรับเที่ยวบินแรกแตะรันเวย์สนามบินภูเก็ต จากสวิตเซอร์แลนด์ สายการบิน Edelweiss ที่กลับมาทำการบินหลังจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
โดยนำนักท่องเที่ยว 227 คน ด้วยเครื่องบิน Airbus 340 บินสู่ภูเก็ตเรียบร้อยแล้ว โดยผู้โดยสารที่เดินทางมาและได้รับวัคซีนครบโดส จะเข้ารับการตรวจ RT-PCR 1 ครั้ง และสามารถท่องเที่ยวในประเทศไทยได้ทันที
จังหวัดภูเก็ต นำร่องเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวนานาชาติ โดยวันนี้ มีเที่ยวบินเข้ามาจังหวัดภูเก็ต กว่า 11 เที่ยวบิน และจะเพิ่มจำนวนมากขึ้น ตั้งแต่วันที่ 5 พฤศจิกายน 2564 เป็นต้นไป
นักท่องเที่ยวที่เดินทางจาก 63 ชาติ ที่ได้รับอนุมัติจาก ศบค. และได้รับวัคซีนครบถ้วน จะสามารถเดินทางมาท่องเที่ยวภายใต้หลักเกณฑ์ “Test and GO” เพียงรับการตรวจ RT-PCR 1 ครั้ง และเมื่อได้รับผลสวอป ก็สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวต่อได้ทันที ทั้งในจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดอื่นๆ ทั่วประเทศไทย
นางสาวนันทาศิริ รณศิริ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานภูเก็ต กล่าวว่า ได้รับการประสานจาก ททท.สำนักงานแฟรงก์เฟิร์ตเรื่องเที่ยวบินดังกล่าว นักท่องเที่ยวจากสวิตเซอร์แลนด์และประเทศใกล้เคียงในภูมิภาคยุโรป กำลังให้ความสนใจและเลือกจังหวัดภูเก็ตเป็นจุดหมายในการเดินทางในช่วงฤดูหนาวนี้
เปิดประเทศวันแรก ประยุทธ์อยู่ “สกอตแลนด์”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (31 ต.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เดินทางไปเข้าร่วมประชุมการประชุมระดับผู้นำในการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (UNFCCC: COP) ครั้งที่ 26 ณ เมืองกลาสโกว์ สหราชอาณาจักร ระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม – 3 พฤศจิกายน 2564
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางว่า มีความจำเป็นต้องเดินทางไปปฏิบัติภารกิจต่างประเทศ ที่มีความสำคัญเกี่ยวกับด้านสิ่งแวดล้อม โดยมีนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศศ และนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมเดินทางไปด้วย เป็นการไปแสดงวิสัยทัศน์ หรือแถลงการณ์ที่จะกล่าวในที่ประชุมหลายสิบประเทศด้วยกัน เพื่อให้เห็นว่าประเทศไทยมีความพร้อมในความร่วมมือลดภาวะโลกร้อนและก๊าซเรือนกระจก
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวเสียดายที่วันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งเป็นวันเปิดประเทศ แต่ไม่ได้อยู่ ทั้งนี้ได้สั่งการกำชับกับทุกหน่วยงานที่รับผิดชอบให้ดีที่สุด สิ่งสำคัญที่สุดคือความร่วมมือของคนไทยทุกคนต้องมีส่วนร่วม เพราะมีการเคลื่อนไหวไปมา มีการประพฤติปฏิบัติตนตามวิถีของตนจึงต้องเตือนกันว่าเวลานี้ไม่ใช่วาระปกติจะสนุกสนานกันเลยเถิดไม่ได้
ฉะนั้นต้องมีกติกากันอยู่แล้ว รัฐบาลไม่ได้อยากไปห้ามอะไรต่าง ๆ เพียงแต่ถ้าไม่ทำก็จะเดือดร้อนกันอีก จะไปห้ามกันอย่างไรเศรษฐกิจก็จะเดินไม่ได้การท่องเที่ยวก็จะไม่ฟื้นตัวอะไรทำนองนี้ เชื่อว่าทุกคนทราบกันดีอยู่แล้ว ขอให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อยตนก็จะติดตามดู “ขอให้ประเทศไทยเจริญรุ่งเรืองต่อไปด้วยน้ำมือของคนไทยทุกคน เราต้องช่วยกันนะจ๊ะสวัสดีจ้ะ”
มอบ “อนุทิน-ศักดิ์สยาม” ดูความเรียบร้อย
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า ในวันพรุ่งนี้ 1 พฤศจิกายน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีสาธารณสุข ดูความเรียบร้อยของสถานที่/เส้นทางการเดินทางของนักท่องเที่ยวในภาพรวม
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมตรวจสอบความพร้อมมาตรการรองรับและติดตามการเข้า-ออก ของผู้โดยสารที่เดินทางมายังสนามบินสุวรรณภูมิ ตลอดจนสนามบินอื่นๆที่เปิดให้มีการบินเข้าจากต่างประเทศเข้ามา
นอกจากนี้ยังให้กระทรวงมหาดไทยร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข สอดส่องดูแลทุกภาคส่วนให้ปฏิบัติตามมาตรการผ่อนคลายกิจการ กิจกรรม ของ ศบค. เท่านั้น ซึ่งขณะนี้ ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดยังคงไม่อนุญาตให้มีการดื่ม/จำหน่ายแอลกอฮอล์ในร้านอาหารทั่วไป ในส่วนกรุงเทพมหานคร อนุญาตให้มีการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้เฉพาะร้านที่ผ่านมาตรฐาน SHA ของ ททท. และไม่เกินเวลา 21.00 น. เท่านั้น
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรียังขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัด 17 จังหวัดนำร่องท่องเที่ยว จัดทีมงานช่วยตรวจตราสถานประกอบการ ร้านค้า ตลาด ชุมชน ต้องปฏิบัติตามมาตรการ COVID Free Setting เพราะแม้จะมีการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวจากประเทศความเสี่ยงต่ำแบบไม่กักตัวหรือจำกัดพี้นที่เพิ่มเติม 63 ประเทศและพื้นที่ แต่รัฐบาลยังให้ความสำคัญสูงสุดในการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ในประเทศ เช่นเดียวกับประชาชนยังยึดหลักอนามัยส่วนบุคคลและดูแลตัวเองแบบครอบจักรวาล Universal Prevention
63 ประเทศเข้าไทยไม่ต้องกักตัว
นายธานี ทองภักดี ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการมาตรการการเดินทางเข้าออกประเทศ และการดูแลคนไทยในต่างประเทศ ลงนามในประกาศศูนย์ปฏิบัติการมาตรการการเดินทางเข้าออกประเทศและการดูแลคนไทยในต่างประเทศ (30 ต.ค.)
เรื่อง การกำหนดรายชื่อประเทศและพื้นที่ต้นทางที่อนุญาตให้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร สำหรับบุคคลประเภท (13) “ผู้ซึ่งได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้ามา ในราชอาณาจักร เพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจควบคู่กับความมั่นคงด้านสาธารณสุขตามแผนการเปิดประเทศ ของรัฐบาล”
ทั้งนี้ ได้มีการทบทวนรายชื่อประเทศและพื้นที่ต้นทางที่อนุญาตให้เดินทางเข้ามา ในราชอาณาจักรสำหรับบุคคลประเภท (13) โดยพิจารณาจากหลักเกณฑ์ของกระทรวงสาธารณสุข ประกอบกับ ปัจจัยด้านเศรษฐกิจ สังคม และสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในประเทศ และพื้นที่นั้น ๆ
จึงประกาศรายชื่อประเทศและพื้นที่ ต้นทางสำหรับบุคคลประเภท (13) ที่ผู้เดินทางจากประเทศและพื้นที่ดังกล่าวได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ดังนี้
-
- ออสเตรเลีย
- ออสเตรีย
- บาห์เรน
- เบลเยียม
- ภูฏาน
- บรูไนดารุสซาลาม
- บัลแกเรีย
- กัมพูชา
- แคนาดา
- ชิลี
- จีน
- โครเอเชีย
- ไซปรัส
- สาธารณรัฐเช็ก
- เดนมาร์ก
- เอสโตเนีย
- ฟินแลนด์
- ฝรั่งเศส
- เยอรมนี
- กรีซ
- ฮังการี
- ไอซ์แลนด์
- อินเดีย
- อินโดนีเซีย
- ไอร์แลนด์
- อิสราเอล
- อิตาลี
- ญี่ปุ่น
- คูเวต
- ลาว
- ลัตเวีย
- ลิทัวเนีย
- ลักเซมเบิร์ก
- มาเลเซีย
- มัลดีฟส์
- มอลตา
- มองโกเลีย
- เมียนมา
- เนปาล
- เนเธอร์แลนด์
- นิวซีแลนด์
- นอร์เวย์
- โอมาน
- ฟิลิปปินส์
- โปแลนด์
- โปรตุเกส
- กาตาร์
- โรมาเนีย
- ซาอุดีอาระเบีย
- สิงคโปร์
- สาธารณรัฐสโลวัก
- สโลวีเนีย
- ศรีลังกา
- สาธารณรัฐเกาหลี
- สเปน
- สวีเดน
- สวิตเซอร์แลนด์
- สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
- สหราชอาณาจักร
- สหรัฐอเมริกา
- เวียดนาม
- ฮ่องกง
- ไต้หวัน