เศรษฐีแดนหมีขาวแห่ลี้ภัยดูไบ หนี้พิษตะวันตกคว่ำบาตรรัสเซีย

(Photo by GIUSEPPE CACACE / AFP)

รัสเซียสมองไหล ดูไบรับอานิสงส์คว่ำบาตรมหาเศรษฐี-สตาร์ตอัพแดนหมีขาวแห่ย้ายไปยูเออี ยอดขายอสังหาฯหรูพุ่งเท่าตัว

5 พฤษภาคม 2565 บีบีซีรายงานว่า นครดูไบของสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ (UAE) กำลังเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญของบรรดามหาเศรษฐีแดนหมีขาวชาวรัสเซีย ที่ต่างเดินทางออกจากประเทศเพื่อหนี้พิษคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจที่ชาติตะวันตกลงโทษรัสเซียกรณีรุกรานยูเครน

บีบีซีระบุถึงแหล่งข่าวในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ในดูไบระบุว่า ยอดการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในดูไบของชาวรัสเซียเพิ่มขึ้น 67% ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2022 ประกอบกับสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์เป็นเพียงไม่กี่ชาติที่สงวนท่าทีสนับสนุนหรือคัดค้านต่อการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อรัสเซีย

ขณะเดียวกันยังพบว่า ช่วงที่ผ่านมารัฐบาลยูเออีได้ออกวีซ่าแก่พลเมืองรัสเซียที่ไม่ได้ถูกขึ้นบัญชีดำจำนวนมาก ในขณะที่ชาติอื่น ๆ ได้จำกัดโควตาการออกวีซ่าให้แก่พลเมืองรัสเซีย

Virtuzone บริษัทที่ปรึกษาด้านการประกอบธุรกิจในดูไบ เผยว่า มีลูกค้าชาวรัสเซียเพิ่มขึ้นอย่างมากที่เข้ามาขอคำปรึกษาด้านการจัดตั้งบริษัทหรือดำเนินธุรกิจในยูเออี “บริษัทเราได้ให้คำปรึกษาแก่ลูกค้าชาวรัสเซียเพิ่มขึ้นถึง 5 เท่า นับตั้งแต่สงครามปะทุ” จอร์จ โฮเยจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกล่าว “พวกเขากังวลเกี่ยวกับการล่มสลายทางเศรษฐกิจที่กำลังจะเกิดขึ้น นั่นคือเหตุผลหลักที่พวกเขาย้ายมาที่นี่เพื่อรักษาความมั่งคั่งของพวกเขา”

REUTERS/Karim Sahib/File Photo

การหลั่งไหลเข้ามาของชาวรัสเซียได้หนุนความต้องการวิลล่าและอพาร์ตเมนต์หรูทั่วทั้งเมือง Modern Living นายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งหนึ่ง เผยว่า ราคาอสังหาริมทรัพย์ในเมืองใหญ่อย่างนครดูไบและนครอาบูดาบีพุ่งสูงขึ้น เนื่องจากชาวรัสเซียที่เดินทางถึงดูไบเพื่อต้องการซื้อบ้าน ขณะเดียวกัน เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าแดนหมีขาว บริษัทได้ว่าจ้างนายหน้าอสังหาฯที่สามารถสื่อสารภาษารัสเซียจำนวนมาก เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น

ติเอโก คาลดาส ผู้บริหาร Modern Living กล่าวว่า ชาวรัสเซียที่มาซื้ออสังหาฯในยูเออี ไม่ใช่เพื่อการลงทุน แต่เพื่อการอยู่อาศัยอย่างถาวร หลายคนมองว่าดูไบคือบ้านหลังที่สองของพวกเขา

ภาวะสมองไหล

การแห่ย้ายออกจากประเทศของชาวรัสเซีย ไม่เพียงแค่บรรดามหาเศรษฐีผู้มีฐานะเท่านั้น แต่ผลจากการคว่ำบาตรยังทำให้รัสเซียกำลังเกิดภาวะ “สมองไหล” แรงงานมีทักษะ บริษัทข้ามชาติ และสตาร์ตอัพของรัสเซียหลายแห่งต่างก็เตรียมแผนย้ายพนักงานของตนไปยังสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ด้วยเช่นกัน

Fuad Fatullev เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง WeWay ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีบล็อคเชนที่มีสำนักงานอยู่ในรัสเซีย และยูเครน เผยว่า นับตั้งแต่หลังสงครามปะทุ เขาและหุ้นส่วนได้ย้ายพนักงานหลายร้อยคนไปดูไบ

“สงครามส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อการปฏิบัติการของเรา เราไม่สามารถดำเนินต่อไปอย่างที่เราเป็น เนื่องจากเราต้องเคลื่อนย้ายผู้คนหลายร้อยคนออกจากยูเครนและรัสเซีย” Fuad หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งชาวรัสเซียกล่าว เขาเสริมว่า พวกเขาเลือกที่จะย้ายพนักงานไปยังสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เนื่องจากมีสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจและการเมืองที่ปลอดภัยในการดำเนินธุรกิจ

(Photo by Karim SAHIB / AFP)

ธุรกิจของรัสเซียกำลังย้ายออกไป เนื่องจากพวกเขาพบว่าการดำเนินการดังกล่าวยากอย่างไม่น่าเชื่อเนื่องจากการคว่ำบาตร ความท้าทายนั้นรุนแรงยิ่งขึ้นสำหรับบริษัทที่ติดต่อกับลูกค้าและแบรนด์ต่างประเทศ เนื่องจากบริษัทตะวันตกส่วนใหญ่ได้ตัดสัมพันธ์กับเอกชนในรัสเซีย

บริษัทระดับโลกอย่าง Goldman Sachs, JP Morgan และ Google ที่ปิดสำนักงานในรัสเซียช่วงก่อนหน้านี้ก็กำลังย้ายพนักงานบางส่วนไปยังดูไบ

นายฟาตุลลีย์กล่าวว่า “รัสเซียกำลังเจอภาวะสมองไหลอย่างแน่นอน ผู้คนจำนวนมากออกจากงานเพราะตอนนี้มีข้อจำกัดทางธุรกิจมากมาย”

อย่างไรก็ตาม ด้วยข้อจำกัดที่ธนาคารกลางรัสเซียสั่งห้ามไม่ให้แตะทุนสำรองต่างประเทศหลายพันล้านที่เก็บไว้ในธนาคารต่างประเทศ รวมถึงแบงก์เอกชนรัสเซียยังถูกตัดจากระบบชำระเงินตราระหว่างประเทศ หรือ SWIFT เพื่อปกป้องทุนสำรอง รัฐบาลรัสเซียได้ออกกฎหมายจำกัดเงินทุนและห้ามพลเมืองออกจากประเทศด้วยสกุลเงินต่างประเทศมากกว่า 10,000 ดอลลาร์

เงินดิจิทัลซื้ออสังหาฯ

ด้วยเหตุนี้จึงเป็นการยากที่จะโอนเงินสดเพื่อซื้ออสังหาฯในดูไบ ชาวรัสเซียจำนวนมากจึงเลือกชำระเงินเป็นสกุลเงินดิจิทัล ผู้ซื้อบางรายมีคนกลางที่จะรับการชำระเงินเป็นสกุลเงินดิจิทัล จากนั้นแปลงเงินดิจิทัลเป็นเงินสดผ่านคนกลางเพื่อซื้ออสังหาฯผ่านนายหน้า

หลายประเทศในแถบอ่าวอาหรับ รวมทั้งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และซาอุดีอาระเบีย ได้ปฏิเสธข้อเรียกร้องจากรัฐบาลตะวันตกให้กำหนดมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย

(Photo by Giuseppe CACACE / AFP)

สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นหนึ่งในสามประเทศ รวมทั้งจีนและอินเดียที่งดออกเสียงในการลงคะแนนเสียงของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติในเดือนกุมภาพันธ์ เพื่อประณามรัสเซียบุกยูเครน นอกจากนี้ ยังงดออกเสียงในการลงมติของสมัชชาใหญ่เมื่อวันที่ 7 เมษายนที่จะระงับรัสเซียจากคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ

อย่างไรก็ตาม การเพิ่มขึ้นของเงินทุนจากชาวรัสเซียส่งผลให้ล่าสุดสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ถูกจัดอยู่ใน “บัญชีสีเทา” ของหน่วยเฝ้าระวังอาชญากรรมทางการเงินระดับโลก หรือ Financial Action Task Force (FATF) นั่นหมายความว่า สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์แม้จะได้อานิสงส์จากคว่ำบาตร แต่ก็อาจเผชิญการตรวจสอบที่เข้มงวดขึ้นจากการต่อต้านการฟอกเงินและการจัดหาเงินทุนของผู้ก่อการร้าย ที่ผ่านมารัฐบาลยูเออียืนยันว่าได้ดำเนินมาตรการสำคัญเพื่อควบคุมการลงทุนขาเข้าทั้งร่วมมือกับ FATF อย่างใกล้ชิดในการตรวจสอบเงินสกปรกดังกล่าว