ฟุตบอลโลกปี 1966 ที่ประเทศอังกฤษเป็นเจ้าภาพ ถูกจดจำในแง่หนึ่งว่า เป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่ทีมชาติอังกฤษได้เป็นแชมป์ฟุตบอลโลก
อีกแง่หนึ่งคือ เป็นปีที่ฟุตบอลโลกมีเรื่องราวที่ไม่น่าเชื่อ (และไม่น่าเกิด) เกิดขึ้น นั่นก็คือ ถ้วยฟุตบอลโลกหาย !!
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- อย. เตือนอย่าซื้อผลิตภัณฑ์ CDS มาทาน อันตรายถึงชีวิต
- แห่ขายที่ดินพ่วงโรงงาน เอกชนถอดใจ-สินค้าจีนตีตลาด
เรื่องมีอยู่ว่า ในช่วง 3 เดือนกว่า ๆ ก่อนฟุตบอลโลกจะเปิดการแข่งขัน ถ้วยฟุตบอลโลกยุคนั้นที่ชื่อว่า ถ้วยจูลส์ ริเมต์ (Jules Rimet Cup) ซึ่งจัดแสดงอยู่ในเซนทรัลฮอล เวสต์มินสเตอร์ กรุงลอนดอน ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนาตลอด 24 ชั่วโมง แต่ยังไม่มากพอ จึงทำให้เกิดเหตุ…
เมื่อวันที่ 20 มีนาคม โจรได้ถือจังหวะที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเผลอ เข้าไปขโมยถ้วยฟุตบอลโลก เกิดเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โตยิ่งกว่าระดับชาติ อังกฤษระดมตำรวจฝีมือดีมาตามล่าหัวขโมยและนำถ้วยฟุตบอลโลกกลับคืนมาให้ได้ และมีการประกาศมอบเงินรางวัลจำนวนหลายพันปอนด์สำหรับผู้ที่นำถ้วยมาคืนได้
หนึ่งวันต่อมา มีผู้ชายที่อ้างว่าชื่อ “แจ็คสัน” ส่งจดหมายถึง โจ เมียร์ส (Joe Mears) ประธานสมาคมฟุตบอลอังกฤษ ณ ขณะนั้น เรียกค่าไถ่ถ้วยฟุตบอลโลกเป็นเงิน 15,000 ยูโร โดยให้ไปที่จุดนับพบในวันที่ 25 มีนาคม เมื่อได้รับเงินแล้วเขาจะส่งถ้วยกลับขึ้นให้ในวันถัดไป
เมื่อทราบข้อเสนอ ตำรวจได้ซ้อนแผนเพื่อจับกุมคนร้าย และจับกุมชาย ณ จุดนับพบได้ เขามีมีชื่อจริงว่า เอ็ดเวิร์ด เบตชลีย์ (Edward Betchley) แม้จะจับตัวได้ แต่เขาอ้างว่าเขาเป็นเพียงตัวกลางที่โดนว่าจ้างให้มาดำเนินการด้วยเงิน 500 ปอนด์
สรุปว่าเหตุการณ์ ณ จุดนับพบวันนั้น ยังไม่มีใครพบถ้วยฟุตบอลโลกที่โดนขโมยไป
เย็นวันเดียวกันนั้น มีโทรศัพท์แจ้งว่าถ้วยฟุตบอลโลกอยู่ในกระเป๋าสีน้ำตาลวางอยู่ที่สถานีรถไฟ Charing Cross แต่ปรากฏว่าเป็นแค่เบาะแสลวง
จนกระทั่งในคืนวันที่ 27 มีนาคม เดวิด คอร์เบตต์ (David Corbett) จูงสุนัขพันธุ์คอลลี่ลายทางชื่อว่า พิคเกิลส์ (Pickles) ออกไปเดินเล่นที่ถนน Beulah Hill ในย่าน Upper Norwood ทางตอนใต้ของลอนดอน ขณะที่เดิน ๆ อยู่เจ้าพิคเกิลส์มันเข้าไปดมอะไรบางอย่างใต้พุ่มไม้ คอร์เบตต์จึงเข้าไปดูว่ามันดมอะไร เขาพบกระดาษหนังสือพิมพ์ห่ออะไรบางอย่าง เขาหยิบขึ้นมา ฉีกกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ปลายด้านหนึ่งออก เห็นว่าของข้างในนั้นเป็นทอง แต่ก็ยังไม่รู้ว่าคืออะไร ก็เลยดูที่ด้านล่าง หมุนวนดู เห็นคำว่า Brazil 1962 ถึงได้ร้องอ๋อว่ามันคือถ้วยฟุตบอลโลก จากนั้นเขาก็แจ้งตำรวจ
…เหตุการณ์นี้ทำให้เจ้าพิคเกิลส์ สุนัขธรรมดา ๆ กลายเป็นฮีโร่และโด่งดังขึ้นมาในทันที หลังจากนั้นมันได้แสดงหนังแสดงละครหลายเรื่อง
หลังจากได้ถ้วยกลับขึ้นมา ถ้วยก็ถูกเก็บรักษาไว้อย่างปลอดภัย จนกระทั่งเปิดการแข่งขัน และจบลงด้วยการที่ทีมชาติอังกฤษคว้าแชมป์ในบ้าน
ส่วนเจ้าพิคเกิลส์เสียชีวิตใน 1 ปีต่อมา ศพของมันถูกฝังในสวนหลังบ้าน และปลอกขอถูกนำไปจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์ฟุตบอลแห่งชาติ ในเมืองแมนเชสเตอร์
ผ่านฟุตบอลโลก 1966 ไปด้วยดี แต่เรื่องวุ่น ๆ ของถ้วยจูลส์ ริเมต์ ยังไม่จบแค่นั้น เมื่อ 4 ปีต่อมา ถ้วยจูลส์ ริเมต์ ต้องเป็นของทีมชาติบราซิลอย่างถาวร ตามกฎที่ว่าถ้าทีมไหนเป็นแชมป์ครบ 3 สมัยจะได้ถ้วยไปครองถาวร ซึ่งทีมชาติบราซิลคว้าแชมป์สมัยที่ 3 ได้ในปี 1970
ต่อมาในปี 1983 ถ้วยซึ่งวางจัดแสดงอยู่ที่สำนักงานสมาพันธ์ฟุตบอลบราซิล โดนขโมยไปอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่มีฮีโร่อย่างครั้งก่อน จนถึงทุกวันนี้ ผ่านมา 35 ปีแล้ว ยังไร้ร่องรอย ไร้เบาะแส
