
ตอนนี้ต้องเรียกว่า “ถนนทุกสายและคนทุกเชื้อชาติมุ่งสู่รัสเซีย” เพราะฟุตบอลโลก 2018 มหกรรมกีฬาที่มวลมนุษยชาติรอคอยกำลังจะเปิดสังเวียนดวลแข้งกันแล้ว
รัสเซีย ประเทศเจ้าภาพฟุตบอลโลกครั้งนี้ เป็นประเทศที่มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดในโลก กินพื้นที่ 2 ทวีป ทั้งเอเชียและยุโรป เมืองที่เป็นเจ้าภาพฟุตบอล 10 เมืองอยู่ในทวีปยุโรป และอีก 1 เมืองอยู่ในทวีปเอเชีย ซึ่งทั้ง 11 เมืองล้วนอยู่ในซีกตะวันตกของประเทศ ถือเป็นเพียงเศษเสี้ยวหนึ่งของพื้นที่ประเทศเท่านั้น แต่ถึงอย่างนั้น ถ้ารวมพื้นที่และระยะทางของเมืองทั้งหมดที่เป็นเจ้าภาพการแข่งฟุตบอลโลกครั้งนี้ ก็ยังเป็นพื้นที่ใหญ่มากอันดับต้น ๆ ในบรรดาประเทศที่เคยเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก
ระยะห่างระหว่างเมืองเจ้าภาพฟุตบอลโลกที่อยู่ตะวันออกสุดคือ Ekaterinburg และเมืองที่อยู่ตะวันตกสุด คือ Kaliningrad มีระยะทางมากกว่า 1,543 ไมล์ (ประมาณ 2,483 กิโลเมตร) เทียบเท่าระยะทางจากมอสโก เมืองหลวงของรัสเซีย ไปลอนดอน เมืองหลวงของอังกฤษเลยทีเดียว แต่ก็ยังน้อยกว่าฟุตบอลโลก 2014 ที่บราซิล ซึ่งระยะทางจากเมืองเหนือสุดไปเมืองใต้สุดเป็นระยะทางมากถึง 2,000 ไมล์ (ประมาณ 3,219 กิโลเมตร)
เพื่ออุ่นเครื่องรอฟุตบอลโลกเปิดสนาม “ประชาชาติธุรกิจ” ได้รวบรวมข้อมูลและรูปภาพสวย ๆ ของสนามแข่งขันมาให้ดูกัน
ภาพรวมคร่าว ๆ ฟุตบอลโลก 2018 นี้ ใช้สนามแข่งขัน 12 สนาม ใน 11 เมือง จำนวนที่นั่งเฉลี่ย 49,300 ที่นั่ง สนามที่ใหญ่ที่สุดคือ Luzhniki Stadium ในมอสโก ความจุ 81,000 ที่นั่ง ส่วนสนามที่เล็กที่สุดคือ Kaliningrad Stadium ในเมือง Kaliningrad ความจุ 35,212 ที่นั่ง
1.Luzhniki Stadium
เมือง Moscow
ความจุ 81,000 ที่นั่ง


Luzhniki Stadium สนามที่ใหญ่ที่สุด เป็นสนามกีฬาแห่งชาติของรัสเซีย อยู่ในเมืองหลวง มอสโก สนามนี้ใช้แข่งขัน 7 นัด เป็นรอบแบ่งกลุ่ม 4 นัด รอบ 16 ทีม 1 นัด รอบรองชนะเลิศ 1 นัด และเป็นสนามที่สำคัญที่สุดเพราะเป็นสนามที่ใช้แข่งขันนัดเปิดทัวร์นาเมนต์ในวันที่ 14 มิถุนายน และนัดชิงชนะเลิศ วันที่ 15 กรกฎาคม
2.Spartak Stadium
เมือง Moscow
ความจุ 42,000 ที่นั่ง


อีกหนึ่งสนามในเมืองหลวง สนามนี้คนดูบอลยุโปรคุ้นชื่อ เพราะเป็นสนามเหย้าของสโมสรสปาร์ตัก มอสโก สนามนี้ใช้แข่งขัน 5 นัด เป็นเกมรอบแบ่งกลุ่ม 4 นัด และรอบ 16 ทีม 1 นัด
3.Saint Petersburg Stadium
เมือง Saint Petersburg
ความจุ 67,000 ที่นั่ง


เป็นสนามที่ทำเลที่ตั้งสวยงามมาก โอบล้อมด้วยทะเล สนามนี้เพิ่งเปิดใช้เมื่อปี 2017 สร้างเพื่อรองรับการเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกครั้งนี้นี่เอง โดยสร้างบนพื้นที่เดิมของ Kirov Stadium สนามเหย้าของสโมสรเซนิต เซนต์ปีเตอร์สเบิร์กที่ปิดไปเมื่อปี 2006 สนามใหม่นี้ใช้เป็นสนามเหย้าใหม่ของเซนิตด้วย ในฟุตบอลโลกครั้งนี้ ใช้แข่งขัน 7 นัด เป็นรอบแบ่งกลุ่ม 4 นัด รอบ 16 ทีม 1 นัด รอบรองชนะเลิศ 1 นัด และนัดชิงที่ 3
4.Ekaterinburg Arena
เมือง Ekaterinburg หรือ Yekaterinburg
ความจุ 45,000 ที่นั่ง


Ekaterinburg Arena สนามกีฬาเก่าแก่ เปิดใช้ตั้งแต่ปี 1957 หรือ 61 ปีมาแล้ว ชื่อเดิมคือ Central Stadium ได้รับการรีโนเวตครั้งใหญ่เมื่อปี 2007 แล้วเสร็จปี 2011 และเมื่อปี 2015 ได้เริ่มปรับปรุงอีกครั้งเพื่อรองรับการเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกครั้งนี้ ซึ่งจะใช้แข่งขัน 4 นัด เป็นการแข่งขันในรอบแบ่งกลุ่มทั้ง 4 นัด
5.Kazan Arena
เมือง Kazan
ความจุ 45,000 ที่นั่ง


Kazan Arena อีกหนึ่งสนามที่คุ้นชื่ออยู่หน่อย ๆ เพราะเป็นสนามเหย้าของสโมสรรูบิน คาร์ซาน เปิดใช้เมื่อปี 2013 นอกจากเป็นสนามฟุตบอลแล้ว เมื่อปี 2015 สนามนี้เคยเป็นสนามแข่งขันกีฬาทางน้ำชิงแชมป์โลก ซึ่งพื้นที่สนามฟุตบอลถูกปรับเปลี่ยนเป็นสระว่ายน้ำ 2 สระ สำหรับฟุตบอลโลกครั้งนี้จะใช้แข่งขัน 6 นัด เป็นรอบแบ่งกลุ่ม 4 นัด รอบ 16 ทีม 1 นัด และรอบ 8 ทีม 1 นัด
6.Fisht Stadium
เมือง Sochi
ความจุ 48,000 ที่นั่ง


Fisht Stadium หรือ Fisht Olympic Stadium เปิดใช้เมื่อปี 2013 เพื่อใช้เป็นสนามแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวเมื่อปี 2014 ในฟุตบอลโลกครั้งนี้จะใช้แข่งขัน 6 นัด เป็นรอบแบ่งกลุ่ม 4 นัด รอบ 16 ทีม 1 นัด และรอบ 8 ทีม 1 นัด
7.Rostov Arena
เมือง Rostov-on-Don
ความจุ 45,000 ที่นั่ง


นี่ก็อีกสนามใหม่ที่เพิ่งเปิดใช้ในปีนี้ การออกแบบสนามได้รับแรงบันดาลใจมาจากเคอร์แกน (kurgan) คือเนินดินหรือเนินกองหินเหนือหลุมศพนักรบยุคโบราณ ซึ่งพบได้ในภูมิภาคนั้น สนามนี้จะใช้แข่ง 5 นัด เป็นเกมในรอบแบ่งกลุ่ม 4 นัด และรอบ 16 ทีมอีก 1 นัด
8.Nizhny Novgorod Stadium
เมือง Nizhny Novgorod
ความจุ 45,000 ที่นั่ง


สนามนี้ใหม่เอี่ยม กลิ่นสียังไม่ทันจาง เพิ่งเปิดใช้ปีนี้นี่เอง เป็นสนามเหย้าของสโมสรเอฟวี โอลิมปิเยทส์ นิชนี นอฟโกรอด โดยก่อสร้างใหม่แทนที่สนามฟุตบอลเก่าแก่ Lokomotiv Stadium ที่รื้อถอนลง สนามนี้จะใช้แข่งขัน 6 นัด รอบแบ่งกลุ่ม 4 นัด รอบ 16 ทีม 1 นัด และรอบ 8 ทีม 1 นัด
9.Samara Arena
เมือง Samara
ความจุ 45,000 ที่นั่ง


Samara Arena หรือ Cosmos Arena เป็นสนามเหย้าของสโมสรคริลย่า โซเวตอฟ ที่สร้างแทน Metallurg Stadium เป็นอีกหนึ่งสนามที่เพิ่งเปิดใช้ปีนี้ จะใช้แข่งขัน 6 นัด เป็นเกมรอบแบ่งกลุ่ม 4 นัด รอบ 16 ทีม 1 นัด และรอบ 8 ทีม 1 นัด
10.Mordovia Arena
เมือง Saransk
ความจุ 45,000 ที่นั่ง


Mordovia Arena หรือ Saransk Stadium ก็เพิ่งเปิดใช้ปีนี้เช่นกัน สนามนี้เริ่มก่อสร้างตั้งแต่ปี 2010 แต่เนื่องจากขาดงบประมาณ การก่อสร้างจึงล่าช้า เพิ่งแล้วเสร็จ ฟุตบอลโลกครั้งนี้จะใช้แข่งขัน 4 นัด เป็นเกมในรอบแบ่งกลุ่มทั้ง 4 นัด
11.Volgograd Arena
เมือง Volgograd
ความจุ 45,000 ที่นั่ง


Volgograd Arena อีกหนึ่งสนามที่สร้างใหม่เพื่อรองรับการเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก เพิ่งเปิดใช้ปีนี้ และจะเป็นสนามเหย้าแห่งใหม่ของสโมสรโรเตอร์ โวลโกกราด สำหรับฟุตบอลโลก จะใช้แข่งขัน 4 นัด เป็นเกมในรอบแบ่งกลุ่มทั้ง 4 นัด
12.Kaliningrad Stadium
เมือง Kaliningrad
ความจุ 35,212 ที่นั่ง


Kaliningrad Stadium สนามนี้ก็สร้างใหม่เพื่อรองรับการเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก เพิ่งเปิดใช้ปีนี้ โดยจะใช้แข่งขัน 4 นัด เป็นเกมในรอบแบ่งกลุ่มทั้ง 4 นัด