ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดเงินสะพัดช่วงบอลโลก 6.7 พันล้าน ธุรกิจอาหาร-เครื่องดื่มรับอานิสงส์สูงสุด

AFP PHOTO / Halldor KOLBEINS

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่าในช่วงการแข่งขันกีฬาฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซียระหว่างวันที่ 14 มิถุนายน-15 กรกฎาคมนี้ จะเกิดกิจกรรมการใช้จ่ายหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไทยเพิ่มขึ้นมากกว่าช่วงเวลาปกติที่ไม่ได้มีการจัดการแข่งขันฟุตบอล เนื่องจากแฟนฟุตบอลบางกลุ่มจะมีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นในระหว่างการชมการแข่งขันฟุตบอล

จากผลสำรวจกลุ่มผู้ตอบแบบสอบถามที่จะรับชมการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลกในครั้งนี้ พบว่า กลุ่มตัวอย่างที่มีแผนจะใช้จ่าย อาทิ การซื้ออาหารและเครื่องดื่ม การไปรับชมการแข่งขันในสถานที่ที่มีการเปิดให้รับชมการแข่งขัน การซื้อเสื้อทีมฟุตบอล และไปรษณียบัตรชิงโชค เป็นต้น คิดเป็นสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 96.0 ขณะที่กลุ่มตัวอย่างที่ไม่มีแผนที่จะใช้จ่ายคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 4.0 โดยคาดว่ากิจกรรมดังกล่าวจะทำให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในธุรกิจจำหน่ายสินค้าอุปโภคและบริโภค เช่น อาหาร เครื่องดื่ม เสื้อผ้า อุปกรณ์กีฬา ของที่ระลึก เป็นมูลค่าประมาณ 6,685 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเฉลี่ยประมาณร้อยละ 5.0 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาปกติของมูลค่าตลาดสินค้าอุปโภคและบริโภคที่เกี่ยวเนื่อง

สำหรับสินค้าและธุรกิจที่คาดว่าจะได้รับอานิสงส์โดยตรงจากกีฬาฟุตบอลโลกคือ ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ธุรกิจร้านอาหารและธุรกิจฟาสต์ฟู้ดเดลิเวอรี่ อุปกรณ์กีฬา เสื้อผ้าและรองเท้า ขณะที่ธุรกิจที่ไม่ได้รับแรงหนุนจากมหกรรมกีฬาฟุตบอลโลกโดยตรง ก็จะใช้จังหวะนี้ในการโปรโมตสินค้า จัดกิจกรรมการส่งเสริมการขาย เช่น การจัดให้มีการทายผลฟุตบอลโลก เพื่อชิงรางวัล และแจกของสมนาคุณ เป็นต้น

กลุ่มธุรกิจที่น่าจะได้รับผลบวกจากการแข่งขันฟุตบอลโลกมากที่สุดคือ กลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ที่คาดว่าจะมียอดจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มเป็นมูลค่าประมาณ 5,265 ล้านบาท แยกรายละเอียดเป็น กลุ่มอาหาร ทั้งผู้ผลิตอาหาร ร้านอาหาร สถานประกอบการ บริการส่งอาหาร จะมีเม็ดเงินกระจายไปยังธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอาหารประมาณ 3,015 ล้านบาท ส่วนกลุ่มเครื่องดื่มและธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเครื่องดื่ม คาดว่าจะมีมูลค่าประมาณ 2,250 ล้านบาท

ส่วนกลุ่มธุรกิจเสื้อฟุตบอล อุปกรณ์กีฬาที่เกี่ยวเนื่องกับฟุตบอล และสินค้าที่ระลึก คาดว่ายอดจำหน่ายจะอยู่ที่ประมาณ 910 ล้านบาท

ด้านกลุ่มการส่งชิงโชคทายผลฟุตบอลโลกช่องทางดั้งเดิมยังได้รับความนิยม แต่รูปแบบการทายผลในยุคดิจิทัลมาแรงขึ้น คาดว่าการใช้จ่ายเพื่อลุ้นโชคทายผลฟุตบอลโลกในปีนี้น่าจะมีมูลค่าประมาณ 510 ล้านบาท

นอกจากนี้ศูนย์วิจัยกสิกรไทยยังประเมินว่า การถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งนี้ น่าจะมีผู้รับชมในไทยประมาณ 10.96 ล้านคน ซึ่งคึกคักกว่าครั้งที่ผ่านมา เนื่องจากมีปัจจัยหนุน อาทิ การถ่ายทอดสดผ่านฟรีทีวีดิจิทัลทั้ง 64 นัด ช่วงระยะเวลาของการแข่งขันที่เอื้อต่อการรับชมของคนไทย และทีมที่เข้าแข่งขันในศึกฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่ประเทศรัสเซียมีฐานแฟนบอลเป็นคนไทยจำนวนมาก