เหลืออีกแค่วันสองวันฟุตบอลโลก 2018 ก็จะเปิดสนามดวลแข้งกันแล้ว สตาร์ลูกหนังจาก 32 ประเทศจะไปรวมตัวกันอยู่ที่รัสเซีย เช่นกันกับคนชอบดูฟุตบอลจากทั่วทุกสารทิศที่จะเดินทางเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในมหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่นี้
ส่วนคนที่ไม่ได้เดินทางไปชมเกมถึงถิ่นเจ้าภาพ ก็นั่งจดจ้องหน้าจอกันไป ก่อนจะได้เพลิดเพลินกับเกมการปะทะฝีเท้าระดับโลก นี่คือ fact น่าสนใจที่ “ประชาชาติธุรกิจ” คัดมาให้อ่านกันเป็นการอุ่นเครื่องรอฟุตบอลโลกเปิดสนาม
1.มาสคอตประจำการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งนี้เป็นหมาป่าลากเลื่อน สัตว์ที่มีความสำคัญต่อการดำรงชีวิตของผู้คนในดินแดนขั้วโลกเหนือ ชื่อ Zabivaka (ซาบิวากา) แปลว่า “the one who scores” หรือ “ผู้ทำประตู” ซึ่งชื่อนี้ได้รับการโหวตสูงสุดจากคนรัสเซีย มีคะแนนโหวตมากกว่า 1 ล้านเสียง เป็นสถิติจำนวนคนเข้าร่วมตั้งชื่อมาสคอตมากที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก ส่วนแคแร็กเตอร์ Zabivaka ออกแบบโดย Ekaterina Bo-charova นักศึกษาจาก Tomsk State University
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
2.เพลงประจำการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งนี้ ชื่อเพลง “Live It Up” โปรดิวซ์โดย ดิปโล ดีเจ.ระดับโลกขวัญใจคอเพลง EDM ขับร้องโดย นิคกี้ แจม นักร้องชายชาวอเมริกันเชื้อสายเปอร์โตริโก โดยมี วิล สมิธ นักแสดง-แรปเปอร์ผิวสีชื่อดัง และ อีรา อิสเตรฟี นักร้องสาวชาวโคโซโว ร่วมฟีเจอริ่ง ซึ่งนักร้องทั้ง 3 คนจะขึ้นเวทีแสดงในนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกในวันที่ 15 กรกฎาคม
3.ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ฟุตบอลโลกจัดขึ้นใน 2 ทวีป เนื่องจากรัสเซียเป็นประเทศที่มีพื้นที่ใหญ่มาก กินพื้นที่ทั้งทวีปยุโรปและเอเชีย โดย 11 เมืองที่เป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกครั้งนี้ 10 เมืองอยู่ในทวีปยุโรป และ 1 เมืองอยู่ในทวีปเอเชีย คือ Ekaterinburg
4.เป็นครั้งแรกที่ฟุตบอลโลกออกกฎใช้ FAN ID เพื่อความปลอดภัยเพื่อความสะดวก และตัดปัญหาการขายตั๋วโก่งราคา ใครที่จะเข้าชมฟุตบอลโลกครั้งนี้ต้องลงทะเบียนระบุตัวตน แล้วฟีฟ่าจะออก FAN ID ให้ใช้แทนวีซ่าเข้าประเทศรัสเซียได้เลย และทุกคนต้องแสดง FAN ID นี้คู่กับตั๋วเข้าชมการแข่งขัน หากมีตั๋วแต่ไม่มี FAN ID ก็ไม่สามารถเข้าสนามได้
5.เมืองเจ้าภาพที่อยู่ตะวันออกสุดคือ Ekaterinburg และเมืองที่อยู่ตะวันตกสุด คือ Kaliningrad อยู่ห่างกันเป็นระยะทางมากกว่า 1,543 ไมล์ (2,483 กิโลเมตร) ซึ่งเทียบเท่าระยะทางจากมอสโก เมืองหลวงของรัสเซีย ไปลอนดอน เมืองหลวงของอังกฤษ ใช้เวลาเดินทางด้วยเครื่องบิน 3 ชั่วโมง 50 นาที แต่ก็ยังน้อยกว่าฟุตบอลโลก 2014 ที่บราซิล ซึ่งระยะทางจากเมืองเจ้าภาพที่อยู่เหนือสุดไปเมืองเจ้าภาพที่อยู่ใต้สุด เป็นระยะทางมากถึง 2,000 ไมล์
6.อิตาลี ทีมแชมป์โลก 4 สมัย ตกรอบคัดเลือกไม่ได้เข้าแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ปี 1958 หรือ 60 ปีมาแล้ว ซึ่งพวกเขาเป็นทีมแชมป์โลกทีมเดียวที่ไม่ได้เข้าแข่งขันฟุตบอลโลกในครั้งนี้
7.ทีมชาติโปรตุเกสมีลุ้นเป็นทีมที่ 4 ที่คว้าแชมป์ยูโรและฟุตบอลโลกติดต่อกัน หลังจากที่พวกเขาเป็นแชมป์ฟุตบอลยูโร 2016 ก่อนหน้านี้มี 3 ทีมที่ทำสถิตินี้ได้แล้ว คือ เยอรมนีตะวันตก (ยูโร 1972, บอลโลก 1974)ฝรั่งเศส (บอลโลก 1998, ยูโร 2000) สเปน (ยูโร 2008, บอลโลก 2010)
8.ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 17 ที่ทีมชาติเยอรมนีได้เข้าแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายติดต่อกัน จากการเข้าแข่งขันทั้งหมด 19 ครั้ง แต่ยังน้อยกว่าทีมชาติบราซิลที่ได้เข้าแข่งขันครบทั้ง 21 ครั้ง
9.เป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกันที่ คาร์ลอซ เคย์รอซ คุมทีมเข้าแข่งขันฟุตบอลโลก โดยเป็นครั้งที่ 2 ในการคุมทีมชาติอิหร่าน ส่วนผลงานการคุมทีมที่ดีที่สุดของเขาคือ การคุมทีมชาติโปรตุเกสเข้าถึงรอบ 16 ทีม เมื่อปี 2010 ก่อนจะตกรอบด้วยน้ำมือสเปน แชมป์ฟุตบอลโลกปีนั้น
10.โยอัคคิม เลิฟ คุมทีมชาติเยอรมนีเข้าแข่งขันรายการเมเจอร์เป็นครั้งที่ 6 ซึ่งใน 5 ครั้งที่ผ่านมาเขาพาทีมเข้าถึงรอบรองชนะเลิศทุกครั้ง โดยจบอันดับที่ 2 ในยูโร 2008, อันดับ 3 ฟุตบอลโลก 2010, รอบรองชนะเลิศ ยูโร 2012, แชมป์ฟุตบอลโลก 2014, รอบรองชนะเลิศยูโร 2016
11.ไอซ์แลนด์ และ ปานามา ได้เข้าแข่งขันในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายเป็นครั้งแรก ซึ่งทีมล่าสุดที่เข้าแข่งขันครั้งแรกแล้วสามารถผ่านรอบแบ่งกลุ่มเข้ารอบ 16 ทีม คือ สโลวะเกีย เมื่อปี 2010
12.คริสเตียโน โรนัลโด ซูเปอร์สตาร์ทีมชาติโปรตุเกส คือนักเตะที่มีส่วนร่วมกับการทำประตูมากที่สุดในการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกโซนยุโรป โดยทำได้ 15 ประตู กับ 3 แอสซิสต์
13.ออสการ์ วอชิงตัน ตาบาเรซ โค้ชทีมชาติอุรุกวัย คุมทีมเข้าร่วมแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 มากกว่าโค้ชคนอื่น ๆ ที่คุมทีมเข้าแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งนี้
14.ยังไม่มีกรุ๊ปไหนที่ถูกยกเป็น “group of death” อย่างเป็นเอกฉันท์ เพราะว่าทีมใหญ่ทีมดังไม่กระจุกอยู่ในกรุ๊ปเดียวกันมากนัก ดูรายชื่อแล้วมีหลายกรุ๊ปที่สูสีกัน ทั้งกรุ๊ปเอฟ ที่ประกอบด้วย เยอรมนี เม็กซิโก สวีเดน เกาหลีใต้ กรุ๊ปบี ที่ประกอบด้วย โปรตุเกส สเปน โมร็อกโก อิหร่าน และกรุ๊ปดี ประกอบด้วย อาร์เจนตินา ไอซ์แลนด์ โครเอเชีย ไนจีเรีย
15.บราซิล แชมป์โลก 5 สมัย เป็นเต็ง 1 รองลงมาคือเยอรมนี ซึ่งก่อนหน้านี้ครองตำแหน่งเต็งแชมป์ร่วมกันมานาน แต่พอวันใกล้ ๆ เปิดสนามทีมแซมบ้า-บราซิลแซงอินทรีย์เหล็กขึ้นเป็นเต็งเดี่ยวไปแล้ว