บอลโลก ไม่มีพลิก ไม่มีปาฏิหาริย์! “แจ็คกี้” มั่นใจเยอรมันป้องกันแชมป์

กีฬาฟุตบอล เป็นกีฬาที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ใหญ่ก็พลาดได้ เล็กก็สร้างปาฏิหาริย์ได้ สถานการณ์พลิกได้แทบจะตลอดเวลา ที่ผ่านมามีเทพนิยายมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นในการแข่งขันฟุตบอลหลาย ๆ ถ้วย ซึ่งความไม่แน่นอนนี่เองที่เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของกีฬาลูกหนังที่ทำให้คนทั่วโลกหลงใหล แต่จากสถิติแล้ว การพลิกล็อกหรือปาฏิหาริย์ไม่เกิดขึ้นในการแข่งขัน “ฟุตบอลโลก” มหกรรมการแข่งขันกีฬาลูกหนัง ซึ่งชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าใหญ่ที่สุดในโลก
 
แจ็คกี้-อดิสรณ์ พึ่งยา ผู้ประกาศข่าวกีฬา คอลัมนิสต์ ผู้บรรยายฟุตบอลชื่อดังจากช่อง 7 เป็นคนหนึ่งที่เชื่อมั่นและบอกกับเราว่า ฟุตบอลโลกไม่มีพลิกล็อก และทุกทีมที่เป็นแชมป์ฟุตบอลโลกคือทีมที่เก่ง
 
ในช่วงบอลโลกนี้ แม้ว่ามีงานชุกสุด ๆ รับงานเพิ่มขึ้นเท่าตัว แต่แจ็คกี้ก็ยังแบ่งเวลามาพูดคุยวิเคราะห์แง่มุมต่าง ๆ ของฟุตบอลโลกครั้งนี้กับเรา
 
และนี่คือบทสนทนาว่าด้วยมุมมองและการวิเคราะห์ประเด็นต่าง ๆ เกี่ยวกับฟุตบอลโลกครั้งนี้
 
Q : คิดว่าทีมไหนจะได้แชมป์
 
ผู้สันทัดกรณีเขาจัดอันดับเยอรมัน บราซิล ฝรั่งเศส สเปน อาร์เจนตินา นอกนั้นก็เป็นโปรตุเกส เบลเยียม ที่มีโอกาสสอดแทรกขึ้นมา นอกจากนั้นอยู่นอกสายตา ถ้าถามทรรศนะผมก็ยังคิดว่าเยอรมันมีโอกาสจะเป็นแชมป์มากที่สุด ในฟุตบอลสมัยใหม่ ยังไม่มีทีมไหนป้องกันแชมป์ได้เลย ผมคิดว่าเยอรมันน่าจะมีโอกาสป้องกันแชมป์ได้ ด้วยตัวผู้เล่น โค้ช วิธีการเล่นของเขาค่อนข้างแน่นอน ส่วนบราซิลน่าจะเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวที่สุด
 
เพราะสมบูรณ์กว่า 4 ปีที่แล้วเยอะ ฝรั่งเศสดี ความสามารถนักเตะดี แต่ขาดประสบการณ์ในระดับสูง ถ้าเทียบเยอรมันกับบราซิล นักเตะฝรั่งเศสอาจจะเป็นรองนิดนึง ต้องพีกสุด ๆ ถึงจะสู้ได้
 
Q : อะไรเป็นปัจจัยสำคัญที่สุด เป็นจุดตัดสินแชมป์
 
ตัวจริงน่าจะใกล้ ๆ กัน แต่ศักยภาพที่ม้านั่งสำรองจะเห็นความต่าง บราซิลมีผู้เล่นสำรองที่ดี เยอรมันก็มีศักยภาพ แต่ฝรั่งเศสนี่ไม่แน่ใจ ยังเป็นรองอยู่ ถ้าเล่นไปแล้วมันสูสีกัน หรือเกมไม่ดี โค้ชจะต้องเลือกส่งผู้เล่นสำรองที่เขาคิดว่าจะลงมาพลิกเกมได้
 
อีกองค์ประกอบหนึ่งก็คือโค้ชเอง โค้ชอาจไม่ใช้ผู้เล่นสำรอง แต่อาจจะพลิกแพลงปรับอะไรที่ทำให้ทีมเขามีโอกาส ซึ่งโยอาคิม เลิฟ โค้ชเยอรมันมีประสบการณ์มากกว่าบราซิล ตีตี้ โค้ชบราซิลเขามีประสบการณ์ระดับสโมสรมาก มีผลงานชัดเจนในประเทศและทวีปอเมริกาใต้ แต่ประสบการณ์คุมทีมชาติเป็นรอง เลิฟอยู่กับฟุตบอลโลกมาตั้งแต่ 2006 เป็นผู้ช่วยเจอร์เกน คลินสมันน์ เลิฟค่อนข้างเขี้ยว เขารู้ว่า
 
ณ สถานการณ์นี้ควรทำอะไร เป็นสิ่งที่ทำให้ผู้สันทัดกรณียังมองเยอรมัน และอีกอย่างเยอรมันเป็นชาติที่คุณเชื่อเขาได้ มาตรฐานสูง ไม่มีชาติไหนในโลกที่เคยไปได้แชมป์บนแผ่นดินอเมริกาใต้ แต่เยอรมันทำได้ เขาอาจจะเป็นชาติแรกที่ป้องกันแชมป์ในฟุตบอลสมัยใหม่ นอกซะจากพระเจ้าจะให้เป็นทีมอื่น
 
Q : โปรตุเกส อาจจะมีปาฏิหาริย์แบบยูโร 2016 หรือเปล่า
 
บอลโลกมันไม่เหมือนยูโร ทุกคนจะบอกว่าความต่างก็คือ แค่เราเพิ่มบราซิล อาร์เจนตินา อุรุกวัยเข้าไป แต่มันก็แปลก ไม่มีทีมชาติเกรดบีเป็นแชมป์ ซึ่งโปรตุเกสถือเป็นทีมเกรดบี บอลโลกมันพลิกยาก แปลกนะยูโรยังเคยมีกรีซ เดนมาร์ก โปรตุเกส เป็นแชมป์ พลิกล็อกเฉยเลย แต่ฟุตบอลโลก ทีมที่เป็นแชมป์คือทีมที่เก่ง ไม่มีเทพนิยาย แชมป์แต่ละชาติ ความสามารถล้วน ๆ ขนาดฮอลแลนด์ที่ว่ามีความสามารถมาก ๆก็ยังไม่เคยได้แชมป์ฟุตบอลโลก เพราะมีทีมที่เก่งกว่า อิตาลีนี่ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว พอถึงทัวร์นาเมนต์ใหญ่เขาเล่นได้เลย เหมือนเป็นนักแสดงที่เวลาได้เล่นหนังใหญ่ ๆ รับบทดี ๆ แล้วทำได้เลย สุดยอดเลย
 
Q : องค์ประกอบอื่น อย่างเรื่องวิทยาศาสตร์การกีฬาน่าจะเท่ากันแล้ว ไม่มีใครด้อย หรือคิดว่ามีองค์ประกอบไหนที่ใครยังด้อยอยู่ไหม
 
ไม่มีแล้ว มันเรียนรู้กันได้หมดแล้ว เทคโนโลยีมันเท่ากัน สิ่งที่จะไม่เท่ากันก็คือ 8-9 เดือนที่ผ่านมา นักเตะแต่ละคนเล่นไม่เท่ากัน ใครเล่นมามากน้อยขนาดไหนมันก็มีผลนะ เพราะแข่งเพิ่มอีกเกือบเดือน โดยเฉพาะชาติใหญ่ ๆ นักเตะส่วนใหญ่ก็เป็นตัวหลักของสโมสร เล่นมา 8-9 เดือน ร่างกายจะไหวไหม มันก็เตรียมอะไรไม่ได้แล้ว นอกจากพักฟื้นอย่างเดียว แล้วไปวัดกันที่ประสบการณ์ในสนาม และการทำทีมของโค้ช
 
Q : มองว่ายุคนี้บอลยุโรปกับอเมริกาใต้ยังต่างกันมากไหมในเรื่องสไตล์
 
ก็ยังมีความต่างอยู่ เพราะว่าฟุตบอลอเมริกาใต้ยังเน้นความสามารถเฉพาะตัว เขามีการพัฒนาศาสตร์ เพราะโค้ชทั่วโลกต้องผ่านการอบรมไลเซนส์เหมือนกัน เป็นแบบสากล แต่ยังผสมผสานจุดเด่นของเขาคือความสามารถเฉพาะตัว ซึ่งเขามีมากกว่าฝั่งยุโรป ส่วนระบบ การโอเปอเรต การออร์แกไนซ์ ฝั่งยุโรปมีมากกว่า มันก็สะท้อนให้เห็นความแตกต่างของกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วกับกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา อเมริกาใต้กำลังพัฒนา ส่วนประเทศพัฒนาแล้ว เขายึดติดกับระบบ ไม่ยึดติดตัวบุคคล
 
เขามีรูปแบบ มีมาตรฐาน ซึ่งมันสะท้อนออกมาในฟุตบอลด้วย อย่างกรณีที่ตัดชื่อเลรอย ซาเน่ แชมป์พรีเมียร์ลีกของแมนซิตี้ สื่อเยอรมันก็เฉย ๆ ไม่เดือดร้อนเพราะเขามีระบบของเขาอยู่แล้ว
 
Q : การพัฒนาฟุตบอลสมัยใหม่ไปในแบบสากล โค้ชต้องอบรมหลักสูตรเดียวกัน ในอนาคตมันจะทำให้สูญเสียเสน่ห์ สูญเสียอัตลักษณ์ของแต่ละชาติไหม
 
ชาติใหญ่ไม่เสียนะ เขายังมีตัวตน มีอัตลักษณ์ของเขาอยู่ เยอรมันแน่นอนว่าเล่นฟุตบอลมีวินัย สู้ เล่นตามแผน ส่วนทีมในอเมริกาใต้ เขาเอาจุดเด่นของยุโรปมาใช้ คือเรื่องระบบ การเล่นเป็นทีม แต่ individual เขาก็ไม่ทิ้งอยู่แล้ว เนย์มาร์อยากเลี้ยงหลบสาม เขาก็ไม่ว่า ชาติใหญ่ ๆ ไม่น่าเสียตัวตน เขาไม่มีทางทิ้งอัตลักษณ์ เขาอาจจะปรับรายละเอียด แต่ภาพกว้าง ๆ ตัวตนเขายังเหมือนเดิม ชัดเจน เราดูก็รู้ว่านี่คือ บราซิล อาร์เจนตินา เยอรมัน ฝรั่งเศส สเปน อิตาลีนี่ยิ่งชัด เขาเล่นอย่างนี้มาตั้งนานแล้ว แต่ชาติเล็กหลายชาติเน้นผลการแข่งขัน เอาแท็กติกมาจำกัดความสามารถนักฟุตบอล
 
Q : อังกฤษกับโค้ชเซาธ์เกตเป็นไงบ้าง
 
(หัวเราะก่อนตอบ) ครั้งสองครั้งที่ผ่านมา เวลาพูดถึงแชมป์ฟุตบอลโลก ไม่มีใครพูดถึงอังกฤษเลย นักเตะประสบการณ์น้อย เล่นแต่ในพรีเมียร์ลีก ขีดเส้นว่าเต็มที่น่าจะรอบ 8 ทีมสุดท้าย แต่ถ้าทะลุไปรอบรองนี่แห่กันทั้งประเทศแน่นอน ลงเครื่องคงมีขบวนมาต้อนรับ
 
Q : คิดว่าสไตล์การเล่นของอังกฤษชุดนี้น่าเบื่อไหม
 
เขาพัฒนาขึ้นนะ เพราะมีการเรียนรู้ศาสตร์ฟุตบอลแบบนานาชาติ นักฟุตบอลได้รับการสอนแบบภาคพื้นยุโรปมากขึ้น ทำให้การเล่นพัฒนาขึ้นกว่าเดิม แต่มันก็ยังไม่สุด ไม่รู้ว่าตัวตนเอกลักษณ์เขาคืออะไร เมื่อก่อนเรารู้ว่าบอลอังกฤษคือการวิ่ง สปิริต บอลโยนออกปีก แต่พอเขาปรับมาเล่นบอลกับพื้นคล้าย ๆ ฝรั่งเศส แต่ยังไม่ถึงสเปน จะเป็นแบบไหนดี ยังกั๊ก ๆ อยู่ ยังหาตัวตนไม่ได้ กำลังพัฒนาตามทีมใหญ่ ๆ
 
เขาเพิ่งปรับโครงสร้าง รื้อระบบใหม่ ปรับพื้นฐาน ในช่วง 10 ปี มันก็ต้องใช้เวลา แต่มันก็เห็นผลนะ 10 ปีที่ผ่านมา อังกฤษเน้นกับเยาวชนมาก ตอนนี้ทีมเยาวชนอังกฤษเป็นแชมป์ฟุตบอลโลกรุ่นอายุ 17 และ 20 ปี ซึ่งเด็กอังกฤษชุดเยาวชนเล่นบอลสนุกกว่าชุดใหญ่ ต้องดูว่าหลังจากนี้จะดีขนาดไหน ฟุตบอลโลก 4 ปีข้างหน้าน่าจะขึ้นมา สมาคมฟุตบอลอังกฤษก็ตั้งเป้าไว้ว่าจะเข้ารอบรองชนะเลิศ
 
Q : มองว่ากรุ๊ปไหนเป็นกรุ๊ปออฟเดทบอลโลกครั้งนี้
 
พอมันจัดเป็นทีมวางเนี่ยชาติใหญ่มันกระจายกัน ถ้าถามถึงกรุ๊ปออฟเดท น่าจะเป็นกรุ๊ปที่ทีมมาตรฐานใกล้เคียงกัน ในทรรศนะผมคิดว่ากลุ่ม H โปแลนด์ โคลอมเบีย เซเนกัล ญี่ปุ่น คือ 4 ทีมนี้มันแพ้ชนะกันได้หมดเลยไม่รู้ว่าจะออกหน้าไหน เมื่อก่อนมันเป็นกรุ๊ปออฟเดทเป็นแบบชาติใหญ่ ๆ เจอกัน แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แบบนั้น กรุ๊ปสุดท้ายนี่ค่าเฉลี่ยมันเท่ากัน อาจจะต้องลุ้นนัดสุดท้ายทุกทีม เราไม่ได้มองที่ชื่อ แต่เรามองที่มาตรฐานใกล้กัน
 
Q : ทีมเล็ก ๆ ที่ต้องจับตามอง…มีไหม
 
ก็มองทีมจากทวีปแอฟริกา ด้วยประสบการณ์นักเตะเขามาเล่นในยุโรป เซเนกัล ไนจีเรีย อียิปต์ น่าจะ 2-3 ชาตินี้ที่มีสิทธิ์ทะลุถึงรอบ 8 ทีม ส่วนทีมจากเอเชีย นักฟุตบอลมีประสบการณ์จริง แต่เล่นทีมเล็ก ๆ เต็มที่ก็คงแค่ผ่านรอบแบ่งกลุ่ม เกาหลีใต้อยู่ในกรุ๊ปเยอรมันก็เหนื่อยหน่อย
 
Q : แต่ละทัวร์นาเมนต์จะมีนักเตะที่ฉายแสงขึ้นมาแล้วค่าตัวพุ่งกระฉูด คิดว่าหลังจากบอลโลกสถิติค่าตัวจะขึ้นไปอีกเท่าไหร่ จับตามองใครเป็นพิเศษไหม
 
ตอนนี้มี 3 คนหลัก ๆ อยู่แล้ว เนย์มาร์ เมสซี โรนัลโด้ ยกเขาไว้บนหิ้งละกัน ไม่ต้องไปแตะ ทีนี้กลุ่มนักเตะที่จะขึ้นมา อย่างเอเดน อาซาร์ จะไปถึงพรมแดนของ 3 คนนี้มั้ย ก็มีสิทธิ์ถ้าฟอร์มดี หรืออย่างคีเลียน เอ็มบัปเป้ ทีมชาติฝรั่งเศส คนนี้ก็ได้รับการยอมรับ หรืออย่างอองตวน กรีซมันน์ ศูนย์หน้าฝรั่งเศส ก็มีโอกาสถ้าฟอร์มดี เยอรมันมีติโม แวร์เนอร์ น่าจะเป็นศูนย์หน้าตัวหลัก ถ้ายิงเยอะ ๆ ก็ไม่แน่ หลัก ๆ มองที่อาซาร์, เอ็มบัปเป้, กรีซมันน์ เพราะพวกนี้จ่อย้ายทีมอยู่แล้ว