ฝรั่งเศสฉลุยรอบ 16 ทีม! “เอ็มบัปเป้” ซัดชัย 1-0 ส่ง “เปรู” ตกรอบทีมที่ 4

Soccer Football - World Cup - Group C - France vs Peru - Ekaterinburg Arena, Yekaterinburg, Russia - June 21, 2018 France's Kylian Mbappe in action REUTERS/Damir Sagolj
การแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซีย ประจำวันที่ 21 มิถุนายน คู่ที่สองของวัน “ตราไก่” ฝรั่งเศส พบกับ เปรู ในเกมเตะกลุ่มซี ที่เยคาเทรินเบิร์ก อารีน่า เมืองเยคาเทรินเบิร์ก ประเทศรัสเซีย
นัดแรกของ ฝรั่งเศส เอาชนะ ออสเตรเลีย 2-1 ส่วนเปรู แพ้ เดนมาร์ก 0-1

ดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์ กุนซือทีมตราไก่ จัดทีมในระบบ 4-3-3 อูโก้ โยริส (ประตู), บ็องฌาแม็ง ปาวาร์, ราฟาเอล วาราน, ซามูเอล อุมติตี้, ลูคัส เอร์นานเดซ, ปอล ป๊อกบา, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, แบลส มาตุยดี้, อองตวน กรีซมันน์, คีเลียน เอ็มบัปเป้, โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์

เปรู ของริคาร์โด้ กาเรก้า จัดทีมในระบบ 4-2-3-1 : ผู้รักษาประตู เปรโด กัลเลส, ลุยส์ อัดวินคูล่า, อัลแบร์โต้ โรดริเกซ, คริสเตียน รามอส, มิเกล ตราอูโค่, เปโดร อากีโน่, โยชิมาร์ โยตุน , อันเดร การ์รินโญ่, คริสเตียน กูเอว่า, เอดิซอน ฟลอเรส และเปาโล เกร์เรโร่

เริ่มเกมครึ่งแรก ทั้งสองทีมเปิดเกมรุกใส่กันอย่างสนุก เปรูอาศัยสไตล์การทำชิ่งตามช่องสไตล์บอลละตินเข้าสู้กับความหนักหน่วง และต่อบอลที่แม่นยำของฝรั่งเศส นาทีที่ 11 ฝรั่งเศสชวดได้ประตูนำ ป๊อกบา ยิงไกล 30 หลาบอลถากเสาสองไปอย่างหวุดหวิด

ผ่าน 20 นาทีแรก ฝรั่งเศสเริ่มดีกว่าอย่างชัดเจน แต่จากจังหวะโต้กลับ นาที 30 เปรูพลาดประตูขึ้นนำอย่างน่าเสียดาย เมื่อ เปาโล เกร์เรโร่ ได้จังหวะแตะหลบ ซามูเอล อุมติตี้ กองหลังฝรั่งเศสก่อนจะตะบันไปติดเซฟของ อูโก้ โยริส

นาที 32 ป๊อกบา เปิดบอลมาหน้าประตู เอ็มบัปเป้ แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเอียงตัวตอกบอล คล้อยหลังอีกแค่นาทีเดียว ฝรั่งเศส ออกนำ 1-0 ได้สำเร็จ จากจังหวะที่เอ็มบัปเป้ พุ่งเข้าชาร์จบอลที่หน้าปากประตูโล่งๆ พร้อมกับทำสถิติใหม่เป็นกองหน้าที่อายุน้อยที่สุดในวัยเพียง 19 ปี 183 วัน ที่ซัดประตูในนามทีมชาติฝรั่งเศสเมื่อลงเล่นในเวิลด์คัพแซงหน้า ดาวิด เทรเซเก้ต์ ที่ทำไว้เมื่อตอนอายุ 20 ปี 246 วัน

ท้ายครึ่งแรกฝรั่งเศสโหมบุกอีกระลอกและได้ลุ้นประตูที่สองหลายจังหวะ แต่ยังยิงเพิ่มไม่ได้จบครึ่งแรกตราไก่ออกนำ 1-0

ครึ่งหลังเปรูเป็นฝ่ายเขี่ยบอล พร้อมกับปรับแผนเปลี่ยน 2 ตำแหน่ง ถอด โยชิมาร์ โยตุน ออกแล้วส่ง เจฟเฟอร์ซอน ฟาร์ฟัน ลงมาแทน อีกตำแหน่งถอด อัลแบร์โต้ โรดริเกซ ออกแล้วส่ง อันเดร์ซอน ซานตามาเรีย ลงมาแทน

นาทีที่ 49 เปรู เกือบได้ประตูตีเสมอ เปโดร อากีโน่ ส่องไกล 30 หลาบอลพุ่งชนสามเหลี่ยมคานบนออกหลังไป

เปรู พยายามดิ้นรนหนีการตกรอบด้วยการหวังประตูตีเสมอให้ได้จากเกมนี้ พยายามต่อบอลเร็ว สั้นตามช่องโจมตีฝรั่งเศส แต่ทีมตราไก่ยังแพคเกมรับแน่น

นาทีที่ 73 ฟาร์ฟัน ได้เอี้ยวตัวยิงจากเกือบสุดเส้นฝั่งซ้ายบอลพุ่งชนหน้าต่างชวดตีเสมอไปอีกช็อต นาทีที่ 74 ฝรั่งเศส ถอดเอ็มบัปเป้ ออกแล้วส่ง อุสมาน เดมเบเล่ ลงมาแทน

จบเกมฝรั่งเศสเอาชนะไป 1-0 ทะลุเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายแน่นอนแล้ว ขณะเดียวกันจากชัยชนะนัดนี้ของทีมตราไก่ส่งเปรู ตกรอบแบบ 100 เปอร์เซนต์แล้ว ซึ่งถือเป็นทีมที่ 4 ที่ตกรอบแบ่งกลุ่มต่อจาก โมร็อกโก, ซาอุดีอาระเบีย และอียิปต์

นัดสุดท้ายรอบแบ่งกลุ่ม เตะพร้อมกัน 2 คู่ วันที่ 26 มิถุนายน ฝรั่งเศส จะพบกับ เดนมาร์ก อีกคู่ ออสเตรเลีย พบ เปรู เวลา 21.00 น.

 

ที่มา มติชนออนไลน์​