ซาอุฯเฉือนอียิปต์ 2-1 ซิวอันดับ 3 กลุ่มเอ

Soccer Football - World Cup - Group A - Saudi Arabia vs Egypt - Volgograd Arena, Volgograd, Russia - June 25, 2018 Saudi Arabia's Salman Al-Faraj scores their first goal from the penalty spot REUTERS/Darren Staples

“เศรษฐีน้ำมัน” ซาอุดีอาระเบีย ประตูชัยช่วงท้ายเกมเฉือนชนะ “ฟาโรห์” อียิปต์ 2-1 ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 รอบแรก กลุ่มเอ นัดสุดท้าย ที่วอลโกกราด อารีนา เมืองวอลโกกราด ในวันที่ 25 มิถุนายน

11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
ซาอุดีอาระเบีย (4-2-3-1) : ผู้รักษาประตู ยัสเซอร์ อัล-โมไซเลม / กองหลัง (ขวาไปซ้าย) ยาสเซอร์ อัล-ชาห์รานี, โอซามา ฮาวซาวี (กัปตันทีม), โมฮัมเหม็ด อัล-เบรอิก, โมทาซ ฮาวซาวี / กองกลางตัวรับ อับดุลลาห์ โอเทฟ, ซัลมาน อัล-ฟาราย / กองกลางตัวรุก ฮุสเซน อัล-โมกาห์วี, ซาเล็ม อัล-ดาวซารี, ฮัตตัน บาเฮบรี / กองหน้า ฟาฮัด อัล-มูวัลลาด

อียิปต์ (4-4-2) ผู้รักษาประตู เอสซาม เอล-ฮาดารี (กัปตันทีม) / กองหลัง (ขวาไปซ้าย) อาเหม็ด ฟาธี, อาลี กาเบอร์, อาเหม็ด เฮกาซี, โมฮาเหม็ด อับเดล-ชาฟี / มิดฟิลด์ตัวรับ โมฮาเหม็ด เอลเนนี, ทาเร็ก ฮาเหม็ด / มิดฟิลด์ตัวรุก มาห์มูด ฮัสซัน, อับดัลลาห์ เอล-ซาอิด / กองหน้า มาร์วาน มอห์เซน, โมฮัมเหม็ด ซาลาห์

เกมนี้ เอสซาม เอล-ฮาดารี นายทวารกัปตันทีมอียิปต์ ทำสถิติเป็นผู้เล่นอายุมากที่สุดที่ลงสนามในฟุตบอลโลก ด้วยอายุ 45 ปี กับ 161 วัน

ช่วงต้นเกมทั้งสองฝ่ายต่างก็พยายามเปิดเกมบุกใส่กัน แต่เป็นซาอุดีอาระเบียที่มีโอกาสยิงมากกว่า แต่ยังไม่เข้ากรอบ จนกระทั่งนาทีที่ 22 กลายเป็นอียิปต์ที่ได้ประตูออกนำก่อน จากจังหวะสวนกลับ และเป็นซาลาห์หลุดเดี่ยวไปกระดกข้ามหัว ยัสเซอร์ อัล-โมไซเลม เป็นประตูให้อียิปต์ออกนำ 1-0

ถัดมาเพียง 2 นาที อียิปต์น่าได้ประตูหนีเป็น 2-0 จากจังหวะหลุดเดี่ยวของซาลาห์อีกครั้ง แต่คราวนี้เจ้าตัวชิพออกนอกประตูไปเสียเอง

นาทีที่ 33 จังหวะบุกของอียิปต์ มาห์มูด ฮัสซัน ทำชิ่งกับซาลาห์ ก่อนหลุดเข้าไปยิงบอลข้ามคานไปเพียงเล็กน้อย

นาทีที่ 37 ซาอุฯได้โอกาสตีเสมอจากจังหวะที่ ซาเล็ม อัล-ดาวซารี เปิดกลับมาตรงกรอบเขตโทษให้ ซัลมาน อัล-ฟาราย ยิงแต่ติดบล็อกของ อาเหม็ด เฮกาซี ออกไป

นาทีที่ 39 ซาอุดีอาระเบียได้จุดโทษจากจังหวะที่ อาเหม็ด ฟาธี ถูกจับแฮนด์บอล แต่ฟาฮัด อัล-มูวัลลาด ยิงไปติดเซฟของเอล-ฮาดารี ชวดโอกาสตีเสมออย่างน่าเสียดาย

จากนั้นซาอุฯพยายามบุกอย่างหนัก แล้วช่วงทดเวลาบาดเจ็บ มาได้จุดโทษอีกครั้ง ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ซึ่งผู้ตัดสินใช้วีเออาร์ตัดสินอยู่นาน ก่อนจะให้เป็นจุดโทษครั้งที่สอง คราวนี้ ซัลมาน อัล-ฟาราย เป็นคนสังหารบ้าง และไม่พลาด เป็นประตูตีเสมอ 1-1 และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลังซาอุดีอาระเบียเป็นฝ่ายครองบอลบุกได้มากกว่า จนมามีโอกาสได้ประตูขึ้นนำ 2 จังหวะติดๆ กันในนาทีที่ 69 จากฮุสเซน อัล-โมกาห์วี และ มูฮันนาด อัสซิรี แต่ว่านายทวารอียิปต์ยังเซฟไว้ได้ทั้งหมด ทำให้สกอร์ยังคง 1-1

จากนั้นทั้งสองฝ่ายต่างพยายามเปิดเกมรุกแลกกัน จนช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ซาอุฯมาได้ประตูชัย จากการยิงของซาเล็ม อัล-ดาวซารี ทำให้ซาอุดีอาระเบีย เอาชนะ อียิปต์ 2-1

 

 

 

 

 

 

ที่มา มติชนออนไลน์