‘โปรตุเกส’ พ่าย ‘อุรุกวัย’ 1-2 ตกรอบ 16 ทีม

Uruguay's forward Edinson Cavani (R) heads the ball to open the scoring for his team during the Russia 2018 World Cup round of 16 football match between Uruguay and Portugal at the Fisht Stadium in Sochi on June 30, 2018. / AFP PHOTO / Odd ANDERSEN / RESTRICTED TO EDITORIAL USE - NO MOBILE PUSH ALERTS/DOWNLOADS

การแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ประจำวันที่ 30 มิถุนายน เป็นการแข่งขันรอบ 16 ทีมสุดท้าย คู่ที่สอง เป็นการพบกันระหว่าง “จอมโหด” อุรุกวัย พบกับ “ฝอยทอง” โปรตุเกส ที่ฟิชต์ สเตเดียม เมืองโซชิ ประเทศรัสเซีย

อุรุกวัย ภายใต้การคุมทัพของ ออสการ์ ตาบาเรซ จัดทีม 11 คนแรก ประกอบด้วย เฟร์นานโด มุสเลร่า (ประตู), โฮเซ่ มาร์เรีย คิมิเนซ, ดีเอโก้ โกดิน, โรดริโก้ เบนตันกูร์, นาฮิตัน นานเดซ, หลุยส์ ซัวเรซ, ลูคัส ตอร์ไรร่า, มาติอาส เวซิโน่, ดีเอโก้ ลักซัลต์, เอดินสัน คาวานี่, มาร์ติน คาเซเรส

โปรตุเกส ของ แฟร์นานโด ซานโต๊ส จัดทีม 11 คนแรก ประกอบด้วย รุย ปาทริซิโอ (ประตู), เปเป้, ราฟาเอล เกร์เรโร่, โชเซ่ ฟอนเต้, คริสเตียโน่ โรนัลโด้, เชา มาริโอ, แบร์นาโด้ ซิลวา, วิลเลียม คาร์วัลโญ่, ริคาร์โด้ เปไรร่า, กอนซาโล่ กูเอเดส, เอเดรียน ซิลวา

ผลงานในการเจอกันที่ผ่านมา 2 ทีมนี้เจอกันมาเพียง 2 ครั้งเท่านั้น และเป็นเกมอุ่นเครื่องทั้งหมด โดยโปรตุเกสไม่เคยแพ้ ชนะ 1 กับเสมอ 1 ครั้ง

เริ่มเกมครึ่งแรก โปรตุเกสเริ่มต้นอย่างตั้งอกตั้งใจ เกมรุกวูบวาบ และได้ทักทายก่อนจังหวะแรก ในนาทีที่ 5 จากการสับไกยิงนอกกรอบของ โรนัลโด้ แต่บอลไปตรงตัว เฟร์นานโด มุสเลร่า ประตูทีมจอมโหด

นาทีที่ 6 การประสานงานของ 2 คู่หูอย่าง ซัวเรส และคาวานี่ ก็เป็นผลพาทีมอุรุกวัยขึ้นนำ 1-0 เริ่มจากคาวานี่ วางบอลข้ามฟากจากขวาไปซ้ายให้ซัวเรซเอาบอลลง และเปิดย้อนกลับมาหน้าประตูที่เสาสอง บอลเข้าหัวคาวานี่ โหม่งเต็มๆ ตุงตาข่ายแบบสวยสดงดงามชนิดไร้ที่ติ

นาทีที่ 10 โชเซ่ ฟอนเต้ กองหลังโปรตุเกสลอยโขกบอลในเขตโทษบ้างแต่บอลไม่ตรงกรอบ

โปรตุเกสโหมบุกหนักเพื่อหวังทวงประตูคืน แต่อุรุกวัยก็เน้นรับแน่นและโต้กลับได้ลุ้นหลายๆ จังหวะเช่นกัน แต่จบครึ่งแรกอุรุกวัยนำ 1-0

ครึ่งหลังโปรตุเกสโหมบุกหนัก และนาทีที่ 55 โปรตุเกสมาตีเสมอ 1-1 จากการลอยโขกอย่างสวยงามของ เปเป้ กองหลังจอมโหดที่เติมขึ้นมาสูง

หลังจากได้ประตูออกนำ โปรตุเกสยังโหมบุกหนักต่อเนื่อง โดยอาศัยความคล่องของ แบร์นาโด้ ซิลวา และโรนัลโด้ คอยปั่นป่วนแนวรับทีมอุรุกวัย

นาทีที่ 63 อุรุกวัย แซงขึ้นนำอีกครั้ง 2-1 จากการที่เบนตันกูร์ ไหลบอลถวานพานให้คาวานี่เอี้ยวตัวปั่นไซด์โป้งเสียบเสาสองอย่างงดงาม

นาที 64 โปรตุเกส ปรับแผนใหม่ ถอดเอเดรียน ซิลวา ออกแล้วส่ง ริคาร์โด้ กวาเรสม่า ลงมาแทน

นาทีที่ 70 คาวานี่ เจ็บที่น่องซ้ายต้องร้องขอให้ทีมงานเปลี่ยนตัวออก อุรุกวัยส่ง คริสเตียน สตัวนี่ ลงมาแทน ขณะที่โปรตุเกส ส่งกองหน้าลงมาเพิ่ม อันเดร ซิลวา ลงมาแทน กอนซาโล่ กูเอเดส

นาที 79 อุรุกวัย ถอด นาฮิตัน นานเดซ ออก แล้วส่ง คาร์ลอส ซานเชซ ลงมาแทน

ท้ายเกมโปรตุเกสโหมเกมรุกเฮือกสุดท้าย แต่ไม่สามารถทวงประตูตีเสมอได้ จบเกมอุรุกวัยชนะ 2-1 ทำให้อุรุกวัย ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายไปเจอกับ ฝรั่งเศส ที่เอาชนะ อาร์เจนติน่า  4-3 ในคืนวันที่ 6 กรกฎาคม เวลา 21.00 น.

ที่มา:มติชนออนไลน์