“สหรัฐ” ทุ่ม 3.7 พันล้าน ลงทุนอินโด-แปซิฟิก ชน “จีน”

Alex Wong/Getty Images/AFP

สหรัฐอเมริกาส่งสัญญาณนโยบาย”มุ่งเอเชีย” อีกครั้ง เป็นสัญญาณที่ชัดเจนครั้งแรกหลัง “โดนัลด์ ทรัมป์” ขึ้นรับตำแหน่งปลายปี 2016 และประกาศถอนตัวจากข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (TPP) ทันที

นโยบายมุ่งเอเชียของสหรัฐ ได้รับการขับเคลื่อนอย่างเข้มข้นใน ยุคบารักโอบามา ก่อนที่จะค่อย ๆ จางไป เมื่อทรัมป์ชูนโยบาย “อเมริกาเฟิรสต์” เพื่อลดขาดดุลการค้าและสร้างงานภายในประเทศ มากกว่าผูกมิตรสัมพันธ์นานาชาติ

แต่ดูเหมือนว่า อเมริกาเริ่มจะมองเห็นแล้วว่า ตัวเองกำลังตกขบวนการพัฒนาของภูมิภาคที่เติบโตเร็วที่สุดของโลก และมีประชากรเยาว์วัยอีกจำนวนมหาศาล ความชัดเจนดังกล่าวเกิดขึ้น

เมื่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแห่งสหรัฐ “ไมก์ ปอมเปโอ”กล่าวปราศรัยใน “อินโด-แปซิฟิก บิสซิเนส ฟอรัม” จัดโดยหอการค้าสหรัฐ ณ กรุงวอชิงตัน เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า

“สหรัฐอเมริกาจะเดินหน้าหาพันธมิตรในภูมิภาคดังกล่าว และพร้อมจะโปรยเงินการค้าการลงทุนเพิ่มขึ้นในเอเชีย โดยปราศจากการครอบงำชาตินั้น ๆ ในฐานะเมืองขึ้น”

“ปอมเปโอ” ได้เรียกร้องให้ประเทศในภูมิภาคดังกล่าวรักษาความเสรีและเปิดกว้าง พร้อมเผยแผนจัดตั้งกองทุนความร่วมมือทางเศรษฐกิจ มูลค่า 113.5 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 3.7 พันล้านบาท เพื่อขยายกรอบการค้าและการลงทุนในประเทศพันธมิตร โดยเล็งประเทศตลาดเกิดใหม่ในเอเชียเน้นพัฒนาด้านเทคโนโลยี การส่งออกสินค้าจากสหรัฐมายังเอเชีย และพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะด้านพลังงาน

เขากล่าวว่า นี่คือความต้องการในการแสวงหา “หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ ไม่ใช่การแสวงหาเมืองขึ้น” 

นักวิเคราะห์ทั่วเอเชียตั้งข้อสังเกตว่าการประกาศนโยบายใหม่เกิดขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยปอมเปโอขึ้นปราศรัยโดยใช้คำว่า “อินโด-แปซิฟิก” ในชื่องานบิสซิเนส ฟอรัม ชื่อเดียวกัน โดยไม่เมนชั่น “เอเชีย-แปซิฟิก” เพราะนั่นหมายความรวมถึงจีนไปด้วย

ซึ่ง “อินโด-แปซิฟิก” เป็นความร่วมมือที่เกิดขึ้นหลายปีก่อนที่สหรัฐ-อินเดีย-ญี่ปุ่นจับมือกันคานอำนาจจีนที่ทุ่มเงินมหาศาลกับโครงการวันเบลต์วันโรด

ทั้งนี้ ปอมเปโอมีกำหนดเดินสายเยือนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 3 ประเทศ วันที่ 1-5 สิงหาคมนี้