อาเซียน-เออีซี

เปลี่ยนสัญญาเช่าบ้านเป็นเงิน! สิงคโปร์ขยายโครงการรับซื้อจากวัยเกษียณ-หวังให้มีรายได้ใช้สอย

AFP PHOTO / Roslan RAHMAN

สเตรทส์ไทม์ส รายงาน รัฐบาลสิงคโปร์เปิดโครงการให้ผู้สูงอายุที่เป็นเจ้าของที่พักอาศัยของการเคหะแห่งชาติทุกประเภท รวมทั้ง “แฟลตเฮ้าส์” ขนาด 5 ห้องนอน และแบบ “แมนชั่นหรูหรา” สามารถขายสัญญาเช่าบางส่วนคืนให้กับรัฐบาลสิงคโปร์ เพื่อหารายได้สำหรับค่าใช้จ่ายในวัยเกษียณ แม้ว่าก่อนหน้านี้โครงการดังกล่าวจะจำกัดเฉพาะแฟลตขนาด 4 ห้องนอนและเล็กกว่านั้น

“ลอเรนซ์ หว่อง” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาแห่งชาติ ตั้งข้อสังเกตว่า มีผู้สูงอายุที่ชอบอาศัยในบ้านเพื่อผู้สูงวัย หรือชอบที่จะมีบริเวณบ้านกว้างขวาง เพื่อรองรับสมาชิกครอบครัวจำนวนมากเมื่อถึงเวลามาเยี่ยมเยียน “โครงการจะเป็นประโยชน์กับคนสิงคโปร์จำนวนมาก”

โครงการนี้เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2009 แต่ที่ผ่านมายังมีผู้ให้ความสนใจไม่มากนัก จนถึงวันที่ 30 เดือนพฤศจิกายน 2017 มีรายานจำนวนผู้เข้าร่วมโครงการนี้ประมาณ 2,500 ครอบครัว ซึ่งโดยเฉลี่ยนได้รับเงินจำนวน 146,000 ดอลลาร์

“ยูจีน ลิม” ผู้บริหารระดับสูงของ ERA Reality กล่าวว่า รัฐบาลได้รับฟังเสียงจากภาคส่วนอุตสาหกรรมและสาธารณะ เพื่อนำมาปรับปรุงโครงการให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งการให้สร้างรายได้ที่มีประโยชน์เช่นนี้ก็ควรค่ายิ่งที่คนสิงคโปร์ทุกคนจะได้รับ “เจ้าของแฟลตขนาดใหญ่เองก็มีโอกาสที่จะหารายได้จากการขายสัญญาเช่า โดยไม่จำเป็นต้องขายบ้านที่พวกเขาอยู่อาศัยมากว่าครึ่งค่อนชีวิต”

ทั้งนี้ ลอเรนซ์ หว่อง ยังพยายามหาแนวทางให้ผู้เช่าแฟลตระยะสั้นสามารถกู้ยืมเงินจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพกลาง (Central Provident Fund : CPF) โดยไม่ให้กระทบต่อการออมสำหรับช่วงวัยเกษียณ นอกจากนี้ยังระบุว่าการปรับปรุงสภาพคล่องของตลาดรีเซลล์สำหรับแฟลตเก่าจะช่วยให้ผู้สูงอายุย้ายไปยังที่อยู่อาศัยที่มีขนาดเล็กลง

ปัจจุบัน กองทุน CPF สามารถกู้ยืมได้เฉพาะกรณีซื้อแฟลตเก่า ที่มีสัญญาเช่าเหลือไม่ถึง 60 ปี เจ้าของที่อยู่อาศัยสามารถใช้เงินกองทุน CPF ได้ในกรณีที่อายุของตนกับจำนวนปีที่เหลืออยู่ในสัญญาเช่ามีอย่างน้อย 80 ปี แต่ในกรณีที่สัญญาเช่าเหลือไม่ถึง 30 ปี จะไม่สามารถใช้เงินกองทุน CPF ได้

“เงื่อนไขเหล่านี้มีเพื่อให้แน่ใจว่าผู้ซื้อจะซื้อบ้านเพื่อการอยู่อาศัยจริงๆ ไม่ใช่ว่าเพื่อการออมสำหรับวัยเกษียณ” ลอเรนซ์ หว่อง กล่าว