คอลัมน์ รู้จักอาเซียน
โดย มัธธาณะ รอดยิ้ม
กัมพูชาหลังเสร็จสิ้นการเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์ ที่พรรคประชาชนกัมพูชา หรือพรรคซีพีพี กวาดที่นั่งไปได้ทุกเก้าอี้ในสภา125 ที่นั่ง
ชัยชนะอย่างถล่มทลายของ นายฮุน เซน นายกรัฐมนตรี ที่พากัมพูชากลับไปเหมือนช่วง 1976 ที่กัมพูชามีเพียงพรรคเดียวในการเป็นรัฐบาล ชัยชนะอย่างถล่มทลายไม่ใช่เพราะว่าโชคช่วย แต่มาจากความสามารถของฮุน เซน และเครือข่ายโดยแท้ในการสกัด ป้องปราม ปราบปราม กำจัด หรืออะไรก็ตามทีที่เข้าข่ายการใช้อำนาจเบียดเสียดคู่แข่งออกจากเวที
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
- ดร.วิวัฒน์ กรมดิษฐ์ ผู้อยู่เบื้องหลัง “บ้านกรมดิษฐ์” บ้านสวนลอยฟ้า
นับตั้งแต่ผลการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นเมื่อปีที่ผ่านมาบ่งชี้ว่า พรรคสงเคราะห์แห่งชาติ หรือพรรคซีเอ็นอาร์พี ของ นายเขม โสกาภายใต้การสนับสนุนของผู้ลี้ภัยการเมือง นายโสม รังสี เบียดได้ที่นั่งเพิ่ม จึงได้เห็นข่าวต่าง ๆ นานา ไม่ว่าจะเป็นการไล่จับนักการเมืองจากพรรคซีเอ็นอาร์พี ปิดสำนักข่าวหนังสือพิมพ์ เดอะแคมโบเดีย เดลี หรือกระทั่งใช้อำนาจลับแทรกแซง พนมเปญโพสต์ กับการโยกผู้ถือหุ้นเปลี่ยนหัวหน้าบรรณาธิการข่าว ยังไม่นับการจับเขม โสกา กลางบ้าน พร้อมยัดข้อหาสมคบคิดกับสหรัฐ เป็นสปาย และทรยศชาติ ปฏิบัติการกำจัดฝ่ายค้านจากฮุน เซนที่ค่อนข้างมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว และแนบเนียน
แน่นอนว่าต้องมีเครือข่ายที่ฮุน เซน ตั้งขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นบรรดาลูก ๆ อย่างลูกชายคนโต ซึ่งนอกจากจะมีตำแหน่งสูงในกองทัพ ยังเป็นหัวหน้าหน่วยต่อต้านการก่อการร้ายและ ฮุน มานิต น้องชายที่รั้งตำแหน่งหัวหน้าหน่วยข่าวกรอง กระทรวงกลาโหม ช่วยพ่อหาข่าวมากกว่านั้น บรรดาลูก ๆ ของฮุน เซนทั้งหมด 6 คนก็มีสายสัมพันธ์ แต่งงานกับลูก ๆ จากโครงข่ายนักการเมืองระดับสูง นักธุรกิจ ที่ต่างร่ำรวยจากนโยบายการพัฒนาประเทศของฮุน เซน ไม่ว่าจะเป็นทุนจากญี่ปุ่น เกาหลีใต้ หรือปัจจุบันจะเน้นไปที่จีนเป็นหลัก
ฮุน เซน ไม่เหมือนกับเผด็จการอื่น ๆ ที่มักจะใช้อำนาจในทิศทางที่ผิด จนทำให้ประเทศตกอยู่ในสภาวะลำบากยากแค้น แต่ฮุน เซน กลับพยายามขายภาพสร้างประเทศ และตอกย้ำประชาชนทุกเมื่อเชื่อวันว่า จะไม่มีทางกลับไปเหมือนยุคเขมรแดงครองเมืองอีกต่อไป พร้อมกับจะยัดเยียดความมั่งคั่ง สร้างงาน สร้างรายได้ให้กับประชาชนทุกคน
เหมือนเป็นตลกร้าย ชาวกัมพูชาก็ยังตกอยู่ในภาวะที่ยากจน ช่องว่างทางรายได้ที่ยังห่างหลายช่วงตัว มากกว่านั้น ตระกูลของ “ฮุน เซน” และเครือข่ายญาติพี่น้องที่กุมทุนทุกหัวหาด ทุกมุมถนนของกัมพูชากลายเป็นตระกูลที่มีอำนาจใหญ่คับฟ้า ยิ่งเสียกว่าราชวงศ์กัมพูชาเสียอีก
