สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เมื่อวันที่ 6 กันยายนที่ผ่านมา ศาลอาญาระหว่างประเทศ(ไอซีซี) ที่ตั้งอยู่ที่กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ แถลงว่าศาลมีขอบเขตอำนาจตามกฎหมายที่จะสอบสวนดำเนินคดีต่อการใช้กำลังขับไล่ชาวโรฮีนจาออกนอกประเทศของกองทัพเมียนมาที่อาจจะเป็นไปในรูปคดีของการก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ
โดยในการประชุมหารือก่อนการพิจารณาคดีของไอซีซีในวันดังกล่าว ที่ประชุมลงมติด้วยเสียงส่วนใหญ่เห็นว่าศาลอาจจะใช้อำนาจศาลต่อกรณีที่มีการกล่าวหาว่ามีการเนรเทศชาวโรฮีนออกจากประเทศเมียนมาไปยังบังกลาเทศ
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
ทั้งนี้มีชาวโรฮีนจา ชนกลุ่มน้อยที่ถือเป็นคนไร้สัญชาติในเมียนมาถึงราว 700,000 คน ต้องอพยพหนีภัยความรุนแรงในรัฐยะไข่ของเมียนมาเข้าไปหลบในประเทศบังกลาเทศ หลังจากถูกกองทัพเมียนมาใช้กำลังปราบปรามอย่างรุนแรงนับตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่ผ่านมา
ด้านนายอาดิลูร์ เราะห์มาน ข่าน รองประธานสหพันธ์นานาชาติเพื่อสิทธิมนุษยชน แสดงความเห็นต่อท่าทีล่าสุดของไอซีซีที่มีต่อวิกฤตโรฮีนจาว่า การตัดสินใจดังกล่าวของไอซีซีเป็นการให้ความหวังที่มีอยู่ริบหรี่สำหรับความยุติธรรมต่อชาวโรฮีนจาที่พวกเขายังคงประสบชะตากรรมอันยากลำบากในประเทศบังกลาเทศที่เป็นผลสืบเนื่องจากอาชญากรรมเลวร้ายดังกล่าว
ด้านรัฐบาลเมียนมาปฏิเสธที่จะให้ความเห็นใดๆแก่เอเอฟพีที่ติดต่อไปเพื่อสอบถามความเห็นเกี่ยวกับท่าทีล่าสุดนี้ของไอซีซี
ที่มา มติชนออนไลน์