การประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ครั้งที่ 33 ที่ประเทศสิงคโปร์ ภายใต้แนวคิดหลัก “Resilient and Innovative” นายกรัฐมนตรี ลี เซียนลุง ได้เรียกร้องให้ประเทศสมาชิกอาเซียนให้ความสำคัญกับการเปิดตลาดภายในภูมิภาคอย่างจริงจัง
ในการประชุมที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 12-15 พฤศจิกายนนี้ นอกจากจะมีเหล่าผู้นำอาเซียนแล้ว ยังมีผู้นำประเทศคู่เจรจาของอาเซียน ได้แก่ ออสเตรเลีย จีน เกาหลีใต้ รัสเซีย ญี่ปุ่น
- เรือสิงคโปร์ชนสะพานในสหรัฐ มีประวัติไม่ดีมาก่อน เรารู้อะไรแล้วบ้างตอนนี้ ?
- หุ้นกู้ออกใหม่ 12 บริษัทแห่ขายเดือน เม.ย.นี้ จ่ายดอกเบี้ยสูงสุด 7.40%
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 1 เมษายน ย้อนหลัง 10 ปี
อินเดีย สหรัฐอเมริกา และนิวซีแลนด์ รวมทั้งผู้นำจากภาคีภายนอก ได้แก่ “แคนาดา” ในฐานะประธาน G7 “ชิลี” ในฐานะประธานความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (APEC) และกรรมการจัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)
“แชนเนลนิวส์เอเชีย” รายงานว่า ในระหว่างการปราศรัยต่อที่ประชุมด้านธุรกิจภายในอาเซียนก่อนการประชุมหลัก นายกฯลีเรียกร้องให้ประเทศสมาชิกอาเซียน ให้ความสำคัญกับ “การเปิดตลาดเสรี” ภายในให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น มุ่งสร้างความเชื่อมโยงระหว่างกันและกัน และที่สำคัญ จะต้องยอมรับกับการแข่งขันในตลาดที่จะรุนแรงมากขึ้น เพราะเป็นกลไกโดยปกติที่ต้องเกิดขึ้นตามมา
“การประชุมสุดยอดธุรกิจและการลงทุนของอาเซียน” ถือเป็นกรอบการเจรจาก่อนการประชุมหลักร่วมกับภาคีอื่น ๆ จากทั่วโลก นายลีกล่าวว่า รัฐบาลแต่ละประเทศยังยึดติดอยู่กับการปกป้องผลประโยชน์ภายใน และคำนึงถึงผลประโยชน์ของทั้งภูมิภาคน้อยกว่าที่ควรจะเป็น
หนึ่งในคำกล่าวต่อผู้นำอาเซียนย้ำว่า “ยิ่งตลาดแบบบูรณาการเปิดกว้างมากขึ้นเท่าไหร่ ทั้งข้อกฎหมายและสภาพแวดล้อมทางธุรกิจจะยิ่งเอื้อต่อการลงทุนจากต่างประเทศมากเท่านั้น นั่นหมายถึงส่วนแบ่งของอาเซียนจะเพิ่มขึ้น และจะได้รับผลประโยชน์มหาศาลร่วมกัน”
ท่ามกลางความไม่แน่นอนของ “สงครามการค้า” ระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกา ขณะที่ผลการเลือกตั้งกลางเทอมเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน ไม่ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงต่อนโยบายกีดกันทางการค้ามากนัก ดังนั้น ความเสี่ยงจะยังคงอยู่และเกิดขึ้นกับประเทศคู่ค้าทั่วโลก หากแต่สมาชิกอาเซียนผนึกกำลังให้เข้มแข็ง เราจะช่วยกันลดทอนความเสี่ยงจากวิกฤตนี้ได้
นายกฯสิงคโปร์ยกตัวอย่างจากการค้าการลงทุนระหว่างเวียดนามและสิงคโปร์ ในช่วงที่ผ่านมาถือว่ามีการเติบโตอย่างโดดเด่น
หากสมาชิกสามารถก้าวข้ามอุปสรรคทางการค้าได้สมบูรณ์ อาเซียนจะมีศักยภาพที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม ฉะนั้น เราต้องรวมกันเป็นหนึ่งเดียว เพื่อช่วยกันรับมือจากแรงกดดันทางการเมืองภายนอกที่มากระทบ “การค้าแบบพหุภาคี”