เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า สองผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอินโดนีเซียทำการอภิปรายแสดงวิสัยทัศน์กัน ซึ่งมีการถ่ายทอดทางโทรทัศน์ไปทั่วประเทศเมื่อค่ำวันที่ 17 กุมภาพันธ์ โดยต่างฝ่ายต่างชูนโยบายให้อินโดนีเซียพึ่งพาตนเองด้านพลังงานด้วยการส่งเสริมการใช้พลังงานชีวภาพ โดยเฉพาะน้ำมันปาล์ม เพื่อลดการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงราคาสูงจากต่างประเทศ
โดยประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ที่ต้องการรักษาเก้าอี้ไว้เป็นสมัย 2 กล่าวว่าหากตนชนะเลือกตั้ง รัฐบาลของตนมีแผนเดินหน้าต่อโครงการบี100 ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงที่สกัดจากน้ำมันปาล์มทั้งหมด หลังจากในปีที่แล้วรัฐบาลได้ผลักดันการใช้น้ำมันไบโอดีเซลชนิดบี20
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเล็ต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
“เราหวังว่า 30% ของผลผลิตปาล์มทั้งหมดจะนำไปเป็นเชื้อเพลิงชีวภาพ แผนนี้เป็นที่ชัดเจนที่จะทำให้เราไม่ต้องพึ่งพาการนำเข้าน้ำมัน” นายวิโดโดกล่าว
ในประเด็นด้านพลังงานนี้ นายพลปราโบโว สุเบียนโต คู่แข่งเห็นพ้องด้วยกับความสำคัญของการพึ่งพาตนเองด้วยเชื้อเพลิงชีวภาพ โดยนายสุเบียนโตกล่าวว่าหากตนได้รับเลือกตั้ง จะส่งเสริมให้ใช้น้ำมันปาล์ม น้ำตาลมะพร้าว มันสำปะหลัง และเอทานอลจากกากน้ำตาล
อย่างไรก็ตามนายสุเบียนโตไม่ได้ให้รายละเอียดถึงแผนการส่งเสริมเชื้อเพลิงชีวภาพของตนเองที่ชัดเจน แต่ทีมหาเสียงของนายสุเบียนโตเสนอแผนการว่าจะใช้ที่ดินเสื่อมโทรมในการปลูกปาล์มเพื่อนำมาใช้ผลิตเชื้อเพลิงต่อไป
สำหรับการเลือกตั้งประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดีอินโดนีเซียครั้งนี้จะมีขึ้นในวันที่ 17 เมษายนนี้ วันเดียวกับการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาอินโดนีเซีย ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศ
ที่มา มติชนออนไลน์