สเตฟาน ดูจาร์ริก โฆษกสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ระบุเมื่อวันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมาว่า แม้บังกลาเทศจะแสดงออกถึงความมีน้ำใจอันน่าทึ่งในการช่วยเหลือผู้ลี้ภัยชาวโรฮีนจาจากเมียนมา แต่ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ลี้ภัยจากความขัดแย้งจะสามารถมีที่พักพิงที่ปลอดภัยไม่ว่าพวกเขาจะไปที่ไหนก็ตาม
ท่าทีดังกล่าวของยูเอ็นมีขึ้นหลังนายชาฮิดูล ฮาเก รัฐมนตรีต่างประเทศบังกลาเทศ ระบุกับที่ประชุมคณะมนตรีแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แสดงออกว่าบังกลาเทศจะไม่รับผู้ลี้ภัยชาวเมียนมาอีกต่อไป
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- อะไรทำให้ “ทองคำ” แพง สงคราม หรือการเก็งกำไร ?
โดยนายฮาเกตั้งคำถามว่า เวลานี้บังกลาเทศกำลังต้องชดใช้กับการแสดงออกถึงความเห็นอกเห็นใจกับการกดขี่ชนกลุ่มน้อยของประเทศเพื่อนบ้านอยู่หรือไม่ และว่า บังกลาเทศจะไม่อยู่ในสถานะที่สามารถรับผู้ลี้ภัยจากเมียนมาได้อีกต่อไป
ทั้งนี้มีชาวมุสลิมโรฮีนจาราว 740,000 คนที่อาศัยอยู่ในค่ายผู้ลี้ภัยบริเวณชายแดนประเทศบังกลาเทศ หลังจากรัฐบาลพม่ากวาดล้างชาวโรฮีนจาในรัฐยะไข่ เมื่อปี 2017 ที่ผ่านมา การดำเนินการซึ่งยูเอ็นระบุว่าเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชนกลุ่มน้อย
ที่มา มติชนออนไลน์