เป้าหมายใหญ่ “สิงคโปร์” ฮับพัฒนา “รถไร้คนขับ”

“สิงคโปร์” ประกาศเป้าหมายเมื่อหลายปีก่อนว่าต้องการเป็นศูนย์กลางการพัฒนายานยนต์ไร้คนขับเต็มรูปแบบ และหวังจะเป็นชาติแรกในเอเชียที่ใช้รถยนต์ไร้คนขับบนท้องถนน ซึ่งตั้งแต่ปี 2016 มีนักพัฒนายานยนต์อัจฉริยะในสิงคโปร์หลายแห่งที่เริ่มทดสอบใช้ระบบอัตโนมัติแล้ว

ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า สตาร์ตอัพจากทั่วโลกมารวมตัวกันอยู่ที่ศูนย์เทคโนโลยียานยนต์ไร้คนขับของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีนันยางของสิงคโปร์ เพื่อพัฒนาและทดสอบการใช้งานของรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยตัวเอง 

ซึ่งจุดเด่นของศูนย์ทดสอบแห่งนี้เป็นการสร้างสภาพแวดล้อมเสมือนจริงขนาดกว่า 5 เอเคอร์ ซึ่งจะมีทั้งถนนทดสอบที่เสมือนจริง สัญญาณไฟ ทางแยก ทางม้าลาย และพายุฝนจำลอง โดยทั้งหมดนี้ก็เพื่อทำให้รถยนต์ไร้คนขับสามารถใช้งานได้จริง

“ซูบรา เซอเรช” อธิบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีนันยาง กล่าวว่า รัฐบาลสิงคโปร์และมหาวิทยาลัยร่วมมือกัน เพื่อทดสอบระบบยานยนต์ไร้คนขับและรถยนต์พลังงานไฟฟ้ามาตั้งแต่ปี 2012 กล่าวด้วยว่า มหาวิทยาลัยถือเป็นสนามทดสอบระบบที่ดีที่สุดในเอเชีย นอกจากสตาร์ตอัพในสิงคโปร์ที่สนใจ บริษัทสัญชาติจำนวนมาก เช่น บริษัท 2getthere ผู้ผลิตยานยนต์ไร้คนขับจากเนเธอร์แลนด์ ก็ให้ความสนใจและร่วมมือในหลายโปรเจ็กต์อาทิ ในปี 2018 มหาวิทยาลัยนันยาง, ผู้ให้บริการระบบการขนส่งคมนาคมของสิงคโปร์ SMRT และบริษัท 2getthere นำร่องทดสอบให้บริการรถชัตเทิลบัสไร้คนขับสำหรับนักศึกษาและบุคลากรในมหาวิทยาลัยระยะทางสั้น 500 เมตร และคาดว่าปีนี้จะพัฒนาระบบให้สามารถวิ่งได้ระยะไกลมากขึ้นครอบคลุมพื้นที่ทั่วมหาวิทยาลัย และพื้นที่โดยรอบ

นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยได้ร่วมมือกับ “วอลโว่” ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของสวีเดน เพื่อพัฒนารถโดยสารประจำทางไร้คนขับพลังงานไฟฟ้าเพื่อให้บริการบนท้องถนนในสิงคโปร์ ภายในปี 2019 นี้ด้วย

ล่าสุด “MooVita” บริษัทสตาร์ตอัพน้องใหม่ของสิงคโปร์ มีเป้าหมายจะพัฒนาเทคโนโลยีพาหนะไร้คนขับ ภายใต้ชื่อว่า “MooAv” โดย นายดิลลิป ลิมบู ซีอีโอของ MooVita กล่าวว่า MooAv กำลังอยู่ในกระบวนการทดสอบระบบที่ศูนย์ทดสอบ คาดว่าจะสามารถทดลองใช้บนท้องถนนจริงได้ภายในปีนี้ หรือต้นปีหน้า

รายงานระบุด้วยว่า รัฐบาลสิงคโปร์ตระหนักถึงปัญหา “สังคมสูงอายุ” ที่กำลังรุนแรง โดยการพัฒนายานยนต์ไร้คนขับส่วนหนึ่งก็เพื่ออำนวยความสะดวกต่อคนกลุ่มนี้ในอนาคตทั้งนี้ นางโจเซฟีน เต๋า รัฐมนตรีกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ผลกระทบที่เกิดจากสังคมสูงอายุส่งผลให้อีกหนึ่งอาชีพประสบปัญหาขาดแคลนบุคลากรอย่างหนัก นั่นคือ พนักงานขับรถบัสโดยสาร ซึ่งประเมินว่าในปี 2022 อุตสาหกรรมรถบัสจำเป็นต้องจ้างพนักงานขับรถเพิ่มขึ้น 13% หรือราว 11,100 คน จากปัจจุบันที่ 9,800 คน

ปัจจุบันรัฐบาลสิงคโปร์อนุญาตให้เริ่มมีการใช้รถยนต์ไร้คนขับแล่นบนถนนแล้วในบางพื้นที่ โดยจำกัดความเร็วไว้ที่ 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และต้องมีผู้ขับขี่สำรองอยู่ในตัวรถด้วยเสมอ

ขณะที่ “Subodh Mhaisalkar” ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันวิจัยด้านพลังงาน กล่าวว่า “สิงคโปร์เป็นอีกหนึ่งเมืองที่มีโครงสร้างพื้นฐานที่ซับซ้อน หากการทดสอบยานยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติสำเร็จ สิงคโปร์จะกลายเป็นโมเดลให้กับอีกหลายประเทศที่ให้ความสำคัญของความอัจฉริยะนี้”

ทั้งนี้ เมื่อต้นปี “เคพีเอ็มจี” บริษัทให้คำปรึกษาชั้นนำของโลก เปิดเผยรายงานการจัดอันดับ “ประเทศที่เตรียมพร้อมเรื่องยานพาหนะขับเคลื่อนอัตโนมัติ ปี 2019″ ระบุว่า “สิงคโปร์” เป็นชาติที่มีความพร้อมในด้านดังกล่าว

เป็นอันดับ 2 ของโลก เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน รองจาก “เนเธอร์แลนด์” จากทั้งหมด 25 ประเทศทั่วโลกที่ทำการสำรวจ โดยดัชนีวัดผลมาจากองค์ประกอบหลายปัจจัย ได้แก่ นโยบายของรัฐบาล, แนวคิดที่คำนึงถึงเทคโนโลยียานยนต์ไร้คนขับ และความก้าวหน้าของเทคโนโลยีในประเทศโดยรวม เป็นต้น