ประธานประเทศ “สปป.ลาว” เรียกร้องบริษัทจีนเพิ่ม “แรงงานคนลาว” ในโครงการรถไฟลาว-จีน

โครงการรถไฟลาว-จีน ซึ่งเริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2016 ที่ผ่านมา ขณะที่ในเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา รัฐบาลสปป.ลาว ระบุความคืบหน้าว่า โครงการก่อสร้างรถไฟลาวจีน มีความคืบหน้าไปแล้วราว 60% โดยเฉพาะการเจาะอุโมงค์ลอดภูเขาขนาดใหญ่สำเร็จไปแล้ว 1 แห่ง จากทั้งหมดที่ต้องขุดเจาะ 10 อุโมงค์ด้วยกัน

ทั้งนี้ ที่ผ่านมามีข้อเรียกร้องอย่างต่อเนื่องจากประชาชนชาวลาว ทั้งจากกลุ่มคนที่ได้รับผลกระทบจากการต้องเวนคืนที่ดิน, ปัญหาสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงข้อเรียกร้องเกี่ยวกับ “แรงงาน” ที่แรงงานชาวลาวยังเสียเปรียบอยู่ เนื่องจากส่วนใหญ่บริษ๋ัทก่อสร้างโครงการของจีน ได้นำเข้าแรงงานจีนเข้ามาแทน

วีโอเอ ภาษาลาว รายงานว่า นายบุนยัง วอละจิด ประธานประเทศสปป.ลาว ได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจเยี่ยมโครงการก่อสร้างที่นครหลวงเวียงจันทน์ เมื่อสัปดาห์ก่อน พร้อมใช้โอกาสในครั้งนี้เรียกร้องบริษัทจีนให้ใช้แรงงานชาวลาวมากขึ้น

โดยในปัจจุบันจำนวนแรงงานชาวลาวที่ทำงานในโครงการก่อสร้างรถไฟลาว-จีน มีจำนวนเพียง 4,500 คน จากจำนวนแรงงานทั้งหมดกว่า 30,000 คน ที่ทำงานในโครงการก่อสร้างดังกล่าวนี้

นักวิเคราะห์ชาวลาว องค์กรแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ดินสปป.ลาว กล่าวว่า คำเรียกร้องของประธานประเทศนับว่าเป็นสัญญาณที่ดีว่า ทางการสปป.ลาวให้ความสนใจความเดือดร้อนของประชาชน หลังจากที่เรียกร้องมานานเกือบ 2 ปีอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่หน่วยงานต่างๆ ของสปป.ลาว พยายามช่วยพัฒนาศักยภาพของบุคคลากรในประเทศ ให้เป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานมากขึ้น เพราะหากเทียบประสิทธิภาพของแรงงานชาวลาวกับเพื่อนบ้านหลายประเทศ เช่น เวียดนาม กัมพูชา และเมียนมา กลับกลายเป็นที่ต้องการของตลาดมากกว่า