“อองซาน ซูจี” ไม่เข้าร่วมประชุมสมัชชาใหญ่ยูเอ็นปีนี้ ท่ามกลางกระเเสกดดันเหตุรุนเเรงในรัฐยะไข่

AFP

“อองซาน ซูจี” ยกเลิกกำหนดการเข้าร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ในช่วงปลายเดือนนี้ ท่ามกลางกระเเสกดดันจากสถานการณ์ความรุนเเรงในรัฐยะไข่

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า โฆษกทำเนียบรัฐบาลเมียนมา ออกเเถลงการณ์ระบุว่า นางออง ซาน ซูจี มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ยกเลิกกำหนดการเข้าร่วมประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ ( ยูเอ็นจีเอ ) ที่นครนิวยอร์ก ในช่วงปลายเดือนนี้ โดยกำหนดให้นายเฮนรี แวน เตียว รองประธานาธิบดีเมียนมานำคณะเจ้าหน้าที่รัฐบาลเข้าร่วมการประชุมแทน

ข่าวระบุว่า สถานการณ์รุนแรงในรัฐยะไข่ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 400 คนตั้งแต่ปลายเดือนส.ค.ที่ผ่านมา และชาวโรฮีนจามากกว่า 370,000 คน เดินเท้าลี้ภัยข้ามพรมแดนไปยังบังกลาเทศ ก่อให้เกิดกระเเสนานาประเทศกดดันต่อรัฐบาลของนางอองซาน ซูจี

อีกทั้งยังมีการเรียกร้องบนเว็บไซต์ Change.org ที่เพิ่มความกดดันให้เรียกคืนรางวัลโนเบลสันติภาพของนางซูจี ที่เคยได้รับรางวัลในปี 2534 เนื่องจากความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับชนกลุ่มน้อยมุสลิมโรฮีนจามากขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งไม่มีการแก้ไขปัญหาใดๆ จากรัฐบาลเมียนมา

ขณะที่องค์กรที่กำกับดูแลการพิจารณารางวัลโนเบลสันติภาพ ยืนยันว่ารางวัลที่มอบให้กับนางซูจี จะไม่สามารถเรียกคืนได้ตามที่กระแสชาวเน็ตเรียกร้อง

ก่อนหน้านี้ นายถิ่น ลินน์ เอกอัครราชทูตเมียนมาประจำสหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) เปิดเผยต่อกรณีที่รัฐบาลเมียนมาถูกกล่าวหา “กวาดล้างทางชาติพันธุ์” ต่อชาวโรฮีนจาในรัฐยะไข่ ต่อที่ประชุมคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนยูเอ็น ว่าเป็นข้อกล่าวหาที่บิดเบือน และรัฐบาลเมียนมาจะไม่เพิกเฉยต่อความโหดร้ายที่เกิดขึ้นในรัฐยะไข่

นอกจากนี้ เอกอัครราชทูตเมียนมาประจำยูเอ็น ได้ประท้วงพระดำรัสของเจ้าชายเซอิด ราอัด เซอิด อัล-ฮุสเซ็น แห่งจอร์แดน ข้าหลวงใหญ่แห่งสำนักงานสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ( โอเอชซีเอชอาร์ ) ที่ทรงมีพระดำรัสว่า สถานการณ์ในรัฐยะไข่คือตัวอย่างชัดเจนของการกวาดล้างทางชาติพันธุ์ อีกทั้งยังคงปฏิเสธที่จะให้เจ้าหน้าที่นานาชาติลงพื้นที่เพื่อสำรวจสถานการณ์จริง