ในระหว่างเปิดงานการประชุมสุดยอด ASEAN Business and Investment 2019 หรือ ABIS 2019 วันที่ 2 ในวันนี้ (3 พ.ย.62) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ระบุถึงวัตถุประสงค์และเศรษฐกิจดิจิทัลที่มองว่า ประเทศสมาชิกอาเซียนต้องให้ความสำคัญมากขึ้น
โดยระบุว่า ผมขอชื่นชมประเทศอาเซียนที่พยายามผลักดันนโยบายสู่ “อาเซียน 4.0” หรืออาเซียนในยุคดิจิทัล ภายใต้จุดยืนร่วมเดียวกัน และปฏิเสธไม่ได้ถึงความเปลี่ยนแปลงสู่ยุคการติดต่อสื่อสารที่ไร้พรมแดน ในโลกแห่งดิจิทัล
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- รักษาการอธิบดี DSI เปิดเงื่อนไข “ขนย้ายกากแคดเมียม” เข้าข่ายเป็นคดีพิเศษหรือไม่
รวมไปถึงความเสี่ยงของการถูกแทนที่ด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และหุ่นยนต์ในชาติอาเซียน ซึ่งนับวันยิ่งเพิ่มความน่ากังวลมากขึ้น
สิ่งที่น่าเป็นห่วงทั้งหลายที่ผมกล่าวมา ทำให้เราต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการค้า การบริการ การบริโภค และการผลิต ซึ่งจะก่อให้เกิดธุรกิจรูปแบบใหม่ โดยเฉพาะการซิ้อขายสินค้าผ่านระบบออนไลน์
ทั้งนี้ เศรษฐกิจดิจิทัลในภูมิภาคอาเซียนได้ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2018 มีมูลค่าอยู่ที่ 7.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ จากปี 2017 ที่มีมูลค่าราว 5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ จากปัจจัยหลักๆ เช่น การขยายตัวของกลุ่มคนชนชั้นกลาง, ประชาชนเข้าถึงระบบอินเทอร์เน็ตที่กว้างขวางขึ้น และผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก (SMEs) ให้ความสำคัญในการใช้เครื่องมือดิจิทัลกับภาคธุรกิจมากขึ้น
นอกจากนี้ นายจุรินทร์ย้ำด้วยว่า เศรษฐกิจดิจิทัลในภูมิภาคขยายตัวอย่างต่อเนื่อง แต่ยังมีสัดส่วนน้อยเพียง 7% ของขนาดเศรษฐกิจนอาเซียน เทียบกับประเทศอื่น เช่น สหรัฐอเมริกา, สหภาพยุโรป (EU) และจีน ซึ่งอยู่ที่ 35%, 27%, 16% ตามลำดับ
ดังนั้นเศรษฐกิจในอาเซียนยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก โดยผลการศึกษาของนานาชาติที่ผ่านมา ทั้งกูเกิล, เทมาเส็ก โฮลดิ้งส์, เบน แอนด์ โค ที่ชี้ว่าในอีก 6 ปีข้างหน้า หรือในปี 2025 เศรษฐกิจดิจิทัลในอาเซียนจะเติบโตอีก 3 เท่า โดยจะมีมูลค่าแตะระดับที่ 2.4 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
รองนายกฯ ของไทย กล่าวทิ้งท้ายว่า เพื่อกรอบการพัฒนาไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัลของอาเซียน เราจะดำเนินงานเชิงบูรณาการร่วมกัน เช่น พัฒนาระบบการชำระเงิน, อำนวยความสะดวกทางการค้า, พัฒนาทักษะของบุคลากร โดยจะเน้นที่การพัฒนาทักษะที่มีอยู่ และสร้างทักษะที่ขาดขึ้นมาใหม่ รวมไปถึงการปรับปรุงระบบของภาคธุรกิจต่างๆ ในอาเซียน
