เมื่อ 21 ก.ย. เอเอฟพีรายงานว่า สถานการณ์ในรัฐยะไข่ของพม่าตึงเครียดรอบใหม่ เมื่อกลุ่มชาวพม่ากว่า 300 คน ในเมืองซิตตเวบุกเข้าขัดขวางเรือของคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ หรือ ICRC ที่กำลังเดินทางไปมอบสิ่งของบรรเทาทุกข์จำนวน 50 ตันให้กับผู้อพยพชาวโรฮิงยาที่ทะลักข้ามแดนไปยังบังกลาเทศแล้ว 4 แสนคน ทำให้ตำรวจพม่าต้องเข้าปรามและสลายฝูงชนดังกล่าว
ม็อบกลุ่มนี้บังคับให้เจ้าหน้าที่กาชาดนำสิ่งของบรรเทาทุกข์ลงจากเรือดังกล่าว แม้พระสงฆ์พยายามช่วยห้ามปรามม็อบแล้วแต่ยากจะควบคุมได้ จนในที่สุดเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจลต้องเข้าระงับเหตุ แต่ก็ถูกม็อบขว้างปาระเบิดก้อนหินกับระเบิดเพลิงเข้าใส่จนบาดเจ็บไปหลายนาย
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- อย. เตือนอย่าซื้อผลิตภัณฑ์ CDS มาทาน อันตรายถึงชีวิต
- แห่ขายที่ดินพ่วงโรงงาน เอกชนถอดใจ-สินค้าจีนตีตลาด
ต่อมา น.ส.กราเซียลลา ไลเต พิกโกลี โฆษกสภากาชาดสากลแจ้งว่า ไม่มีทีมงานของกาชาดบาดเจ็บในเหตุการณ์นี้ และเดินหน้าภารกิจต่อไป
เหตุการณ์นี้ตอกย้ำถึงความยากลำบากในการช่วยเหลือชาวโรฮิงยา เพราะเพิ่งเกิดเหตุรถบรรทุกที่กาชาดและ ICRC ว่าจ้างไปส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์นั้นประสบอุบัติเหตุชนพลิกคว่ำ มีผู้เสียชีวิต 9 ราย บาดเจ็บ 10 คน
สำหรับสภาพความเป็นอยู่ของชาวโรฮิงยาในค่ายพักพิงตามแนวชายแดนบังกลาเทศนั้นแออัดและขาดแคลนปัจจัยในการดำรงชีวิต ไม่มีน้ำสะอาดและอาหาร ล่าสุด รัฐบาลซาอุดีอาระเบียส่งเต๊นท์ เสื่อ ผ้าห่มและอาหารไปช่วยผ่านการขนส่งทางอากาศแล้ว 100 ตัน
เอนาเยต ฮุสเซน เจ้าหน้าที่สาธารณสุขบังกลาเทศกล่าวว่าในบรรดาผู้อพยพชาวโรฮิงยาที่ถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลกว่า 14,000 คนนั้น 2,364 คนเป็นกลุ่มที่ถูกทำร้าย ทั้งจากกระสุนปืน กับระเบิด และอาวุธมีคม เช่นมีด
ที่มา ข่าวสดออนไลน์
