นายอันโตนิโอ กูแตร์เรสเลขาธิการสหประชาชาติออกมาเตือนว่าความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับชาวโรฮีนจาในพม่ากำลังจะกลายเป็นฝันร้ายด้านมนุษยธรรม เพราะถือเป็นภาวะฉุกเฉินทางด้านผู้ลี้ภัยที่เกิดขึ้นในเวลาอันรวดเร็วที่สุดในโลก
นายกูแตร์เรสเรียกร้องให้พม่ายุติปฏิบัติการทางทหาร พร้อมกับขอให้เปิดทางสำหรับการส่งมอบความช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรมเข้าไปในภูมิภาคทันที
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- อย. เตือนอย่าซื้อผลิตภัณฑ์ CDS มาทาน อันตรายถึงชีวิต
- แห่ขายที่ดินพ่วงโรงงาน เอกชนถอดใจ-สินค้าจีนตีตลาด
เลขาธิการสหประชาชาติ กล่าวว่าได้รับรายงานว่า ผู้ลี้ภัยหลักเป็นผู้หญิง เด็ก และคนชรา ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นว่ามีการใช้ความรุนแรง และการละเมิดสิทธิมนุษยชน การล่วงละเมิดทางเพศ รวมถึงการยิงและการใช้ทุ่นระเบิดกับพลเรือน
“ความล้มเหลวต่อการจัดการแก้ไขปัญหาความรุนแรงที่เกิดขึ้นอย่างเป็นระบบ อาจส่งผลให้ชาวโรฮีนจาอีกกว่า 250,000 คนกลายเป็นผู้ไร้ถิ่นฐานเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต”นายกูแตร์เรสระบุ
ทั้งนี้นับตั้งแต่เกิดความรุนแรงครั้งล่าสุดในรัฐยะไข่เมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน มีชาวโรฮีนจาที่อพยพออกจากรัฐยะไข่เพื่อหนีภัยความรุนแรงแล้วถึงกว่า 500,000 คน
ขณะที่เจ้าหน้าที่ของสหประชาชาติที่คอยปฎิบัติภารกิจให้ความช่วยเหลือถูกบังคับให้เดินทางออกจากพื้นที่รัฐยะไข่เมื่อกองกำลังทหารพม่าได้เริ่มต้นปฏิบัติการตอบโต้และกวาดล้างกองกำลังติดอาวุธชาวโรฮีนจาที่ได้ทำการโจมตีเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ดังกล่าว
ที่มา มติชนออนไลน์