สิงคโปร์สั่งประหารชีวิตผู้ต้องหาคดีค้ายาเสพติดชาวมาเลเซียด้วยวิธีการแขวนคอ ท่ามกลางเสียงเรียกร้องจากสหประชาชาติเเละนักเคลื่อนไหวสิทธิมนุษยชน เนื่องจากผู้ต้องหากำลังอยู่ระหว่างการอุทธรณ์กับศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ
สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ( ป.ป.ส. ) ของสิงคโปร์ ออกแถลงการณ์ว่าเจ้าหน้าที่เรือนจำกลางได้ประหารชีวิตนายปราบาการัน ศรีวิจายัน อายุ 29 ปี ชายสัญชาติมาเลเซีย ด้วยการแขวนคอ เมื่อช่วงเช้าของวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น โดยผ่านกระบวนการทางกฎหมายอย่างครบถ้วนและมีทนายความเป็นตัวแทนตลอดกระบวนการ
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- รักษาการอธิบดี DSI เปิดเงื่อนไข “ขนย้ายกากแคดเมียม” เข้าข่ายเป็นคดีพิเศษหรือไม่
นายศรีวิจายันถูกจับกุมเมื่อปี 2555 พร้อมของกลางเป็นเฮโรอีนน้ำหนัก 22.24 กรัม ในรถของเขาขณะขับจากมาเลเซีย เเละถูกสกัดจับที่ด่านเข้าสิงคโปร์ โดยทางการสิงคโปร์ชี้ว่าเฮโรอีนปริมาณดังกล่าว มีจำนวนมากพอที่ผู้ติดยาเสพติด 265 คนจะเสพได้นาน 1 สัปดาห์
โดยผู้ต้องหาชาวมาเลเซียรายนี้ ถูกศาลฎีกาพิพากษาประหารชีวิตเมื่อปี 2557 เเละตลอดช่วงเวลา 2 ปีกว่าที่ผ่านมาของการรอรับโทษประหาร เขาได้ยื่นเรื่องอุทธรณ์ต่อศาลทั้งในสิงคโปร์และในมาเลเซียเเต่ถูกปฎิเสธ รวมถึงศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ( ไอซีเจ ) ในกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์เเลนด์ ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณา
ด้านสำนักงานสิทธิของสหประชาชาติ ขอให้สิงคโปร์ ทบทวนเเละเลื่อนการประหารชีวิตไปก่อนจนกว่าเรื่องอุทธรณ์จะเสร็จสิ้น โดยขอประณามการประหารชีวิตดังกล่าว
ขณะที่องค์กรนิรโทษกรรมสากล ระบุต่อกรณีนี้ว่า การไต่สวนไม่เป็นธรรมเพราะทางการสิงคโปร์ไม่ดำเนินการสอบสวนต่อและไม่เรียกพยานปากสำคัญมาให้การ
ทั้งนี้ สิงคโปร์ มาเลเซียและอินโดนีเซียเป็นประเทศที่มีกฎหมายปราบการค้ายาเสพติดที่เข้มงวดและรุนแรงเป็นลำดับต้นๆ ของโลก เเม้จะมีของกลางในปริมาณน้อยก็ตาม อีกทั้งยังใช้โทษ “แขวนคอ” เพื่อประหารชีวิตผู้ต้องหาคดีฆาตกรรมและยาเสพติด ตั้งแต่สมัยเป็นอาณานิคมอังกฤษดำเนินมาถึงปัจจุบัน