รมต.ต่างประเทศไทย ร่วมเวทีประชุม “ASEM” ส่งเสริมความร่วมมือระหว่าง “ยุโรป”

เมื่อวันที่ 20 พ.ย.ที่ผ่านมา นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้เข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศเอเชีย – ยุโรป (ASEM Foreign Ministers’ Meeting) ครั้งที่ 13 ณ กรุงเนปยีดอ เมียนมา ภายใต้หัวข้อ “การเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนเพื่อสันติภาพและการพัฒนาที่ยั่งยืน” (Strengthening Partnership for Peace and Sustainable Development)

โดยมีประเด็นหารือร่วมกันได้แก่ การส่งเสริมความร่วมมือเพื่อสันติภาพและการพัฒนาที่ยั่งยืน, การส่งเสริมพลวัตการดำเนินงานและความเชื่อมโยงของอาเซมในทศวรรษที่ 3

การประชุมครั้งนี้ นางออง ซาน ซู จี ที่ปรึกษาแห่งรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเมียนมา เป็นเจ้าภาพและเป็นประธานการประชุมฯ โดยมีผู้เข้าร่วม ได้แก่ รัฐมนตรีต่างประเทศหรือผู้แทนระดับสูงของ 51 ประเทศ จากทวีปเอเชียและทวีปยุโรป รวมทั้งผู้แทนระดับสูงด้านการต่างประเทศและนโยบายความมั่นคงของสหภาพยุโรป และเลขาธิการอาเซียน

การหารือมีขึ้นเพื่อการเพิ่มบทบาทของ “อาเซม” ในการเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนเพื่อสันติภาพและการพัฒนาที่ยั่งยืน ท่ามกลางการเผชิญกับความท้าทายใหม่ เช่น การเปลี่ยนแปลงสู่ยุคดิจิทัล สถานการณ์ความมั่นคงในภูมิภาคและระดับโลก รวมถึงพลวัตการขับเคลื่อนความเชื่อมโยงระหว่างเอเชียและยุโรปในสามเสาหลักของอาเซม ได้แก่ เสาหลักด้านการเมือง เสาหลักด้านเศรษฐกิจ และเสาหลักด้านสังคมและวัฒนธรรม

ที่ประชุมได้สนับสนุนวาระการดำเนินการเพื่อส่งเสริมความร่วมมือในสาขาที่สมาชิกอาเซมให้ความสำคัญ อาทิ การพัฒนาที่ยั่งยืนภายใต้กรอบเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน การส่งเสริมความเชื่อมโยงในทุกมิติ การสนับสนุนอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม การอำนวยความสะดวกด้านการค้าการลงทุน การศึกษา การบริหารจัดการภัยพิบัติ การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และพลังงานทดแทน รวมทั้งความร่วมมือทางทะเล การโยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติ การต่อต้านการก่อการร้าย และความมั่นคงทางไซเบอร์ เป็นต้น

สำหรับการประชุมในครั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้กล่าวส่งเสริมสันติภาพและการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยเห็นว่า สันติภาพที่ยั่งยืนย่อมมาจากการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยประเทศไทยได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาอย่างยั่งยืนและครอบคลุม และเน้นการเเก้ไขที่ต้นเหตุของปัญหา ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดความขัดแย้งและความไม่สงบ นอกจากนี้ ไทยยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาคนและสังคม และย้ำว่า การพัฒนาให้เกิดความสงบและการพัฒนาที่ยั่งยืนจำเป็นต้องเน้นที่ “คน” เป็นหลัก หากประชาชนมีชีวิตที่ดี ประเทศจะมั่นคงและมั่งคั่ง

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้เสนอให้นำหลักของความยั่งยืน (sustainability) มาใช้ใน 3 เสาหลักของอาเซมในทุกมิติ ทั้งด้านการเมือง โดยให้เพิ่มช่องทางการหารือเพื่อเสริมสร้างความเข้าใจระหว่างกันให้มากขึ้น (more dialogues for more understanding)

ด้านเศรษฐกิจ ให้มีการพัฒนาความเชื่อมโยงและการส่งเสริมความร่วมมือในการปรับปรุงระเบียบและกฎเกณฑ์ต่าง ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการค้าและการลงทุน (more connectivity and coordination on rule and regulations on trade and investment)

และด้านสังคม/วัฒนธรรม ให้ผลักดันแนวทางการเติบโตอย่างสมดุล โดยคำนึงถึงการรักษาสภาพแวดล้อมและสังคม โดยยึดถือประชาชนเป็นหลัก (more balanced growth with environmental and social protection with people-centered)

นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศยังได้พบหารือทวิภาคีกับหัวหน้าคณะผู้แทนระดับรัฐมนตรีประเทศสมาชิกอาเซม ได้แก่ สหภาพยุโรป เยอรมนี สวีเดน ฮังการี จีน เอสโตเนีย โปรตุเกส และสหราชอาณาจักร เพื่อกระชับความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างกันในกรอบอาเซม และความสัมพันธ์ทวิภาคี รวมทั้งได้พบกับเยาวชนไทย 2 ราย ซึ่งได้รับการคัดเลือกให้เข้าร่วมโครงการ Model ASEM (การจำลองสถานการณ์การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซม) ครั้งที่ 8 ร่วมกับเยาวชนจากประเทศสมาชิกอาเซมอื่น ๆ อีก 51 ประเทศ ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมคู่ขนานของการประชุมระดับผู้นำและรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซม จัดโดยมูลนิธิเอเชีย – ยุโรป (Asia-Europe Foundation) เป็นประจำทุกปี