“เมียนมา” เผยสอบปากคำ 2 นักข่าวรอยเตอร์ ใกล้เสร็จแล้ว เตรียมให้มีทนาย-พบญาติได้อีกไม่นาน

Reuters journalists Wa Lone (L) and Kyaw Soe Oo, who are based in Myanmar, pose for a picture at the Reuters office in Yangon, Myanmar December 11, 2017. Picture taken December 11, 2017. REUTERS/Antoni Slodkowski

รัฐบาลเมียนมา เผยความคืบหน้ากรณีจับกุม 2 ผู้สื่อข่าวจากรอยเตอร์ ฐานครอบครองเอกสารสำคัญเกี่ยวกับความมั่นคงว่า ตำรวจกำลังเร่งสอบปากคำซึ่งใกล้จะเสร็จเเล้ว โดยจากนั้นจะเริ่มกระบวนการทางศาลได้

นายจ่อ เตย์ โฆษกของนางออง ซาน ซู จี ที่ปรึกษาแห่งรัฐของเมียนมา เปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่าการสอบปากคำผู้สื่อข่าวดังกล่าวใกล้เสร็จสิ้นเเล้ว ซึ่งหลังจากนี้ทั้งสองคนจะสามารถมีทนายเเละจะได้พบครอบครัวได้ในอีกไม่นาน

เขาบอกอีกว่ากระทรวงมหาดไทยเมียนมาระบุว่าสองนักข่าวถูกควบคุมตัวอยู่ในนครย่างกุ้ง เเละยืนยันว่ามีไม่การสอบปากคำอย่างผิดกฎหมาย อีกทั้งทั้งสองยังมีสุขภาพเเข็งเเรงดี

เมื่อถามว่าตำรวจเคารพสิทธิมนุษยชนของทั้งคู่หรือไม่ นายจ่อ เตย์ตอบว่า “ตำรวจรับปากเขาแล้วว่าจะทำตามกฎหมาย”

สำหรับการควบคุมตัว นายว้า โล่น วัย 31 ปี และนายจ่อ โซ โอ วัย 27 ปี ผู้สื่อข่าวท้องถิ่นของสำนักข่าวรอยเตอร์ เมื่อวันที่ 12 ธ.ค.ตามกฎหมายความลับทางราชการ ซึ่งบังคับใช้ตั้งแต่ปี 2466 ในช่วงอาณานิคม ฐานลักลอบถือครองเอกสารลับราชการ เกี่ยวกับสถานการณ์ในรัฐยะไข่ และมีเจตนาแจกจ่ายข้อมูลให้กับสื่อต่างประเทศอีกหลายแห่ง

ทั้งนี้ นอกจากนักข่าวสองรายนี้ ทางการเมียนมายังจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจอีก 2 ราย คือร้อยตำรวจโทโม ยานนาย และสิบตำรวจเอก คิน หม่อง ลิน ถูกควบคุมตัว ฐานกระทำผิดตามกฎหมายฉบับเดียวกัน

ขณะที่รัฐบาลหลายประเทศและกลุ่มสิทธิตำหนิเมียนมาและเรียกร้องให้ปล่อยตัวพวกเขาโดยทันที โดยสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำกรุงย่างกุ้ง ออกแถลงการณ์แสดง “ความวิตกกังวลอย่างยิ่ง” และเรียกร้องให้หน่วยงานรัฐอนุญาตให้มีการเข้าเยี่ยมผู้สื่อข่าวที่ถูกจับกุม เเละสำนักงานผู้แทนสหภาพยุโรป ( อียู ) ประจำเมียนมา ที่ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย

“ประชาธิปไตยจะบรรลุผลสำเร็จได้ ก็ต่อเมื่อนักข่าวสามารถทำงานได้อย่างเสรี เราเรียกร้องให้รัฐบาลเมียนมาชี้แจงเกี่ยวกับการจับกุมครั้งนี้ และอนุญาตให้เข้าพบนักข่าวได้ทันที” แถลงการณ์สถานทูตสหรัฐในย่างกุ้งระบุ

 

ที่มา Myanmar says probe of two Reuters journalists almost finished, court case to follow