“ไลฟ์สตรีม” กับวัยรุ่น

คอลัมน์ รู้จักอาเซียน
โดย มัธธาณะ รอดยิ้ม

ในยุคโลกที่หลายประเทศอยากจะเป็น 4.0 กับหลายประเทศก้าวสู่ 5.0 ไปเรียบร้อยแล้ว ธุรกิจอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นมาอย่างมากมายราวกับดอกเห็ดคงหนีไม่พ้นธุรกิจที่ผ่านแอปพลิเคชั่นโทรศัพท์สมาร์ทโฟน

คงปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่าในยุคสมัยที่ใคร ๆ ต่างก็ถือสมาร์ทโฟน เสมือนกับของจำเป็นขาดไม่ได้ในชีวิตประจำวัน กับอีกหนึ่งความสามารถของสมาร์ทโฟนที่ทำให้คนกลายเป็นดาราได้ใช้ชั่วพริบตากับฟีเจอร์การไลฟ์สตรีม ไม่ว่าจะผ่านเฟซบุ๊กหรือแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ

บีบีซีได้ทำรายงานไว้อย่างน่าสนใจถึงธุรกิจไลฟ์สตรีม ผ่านแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นบิงโกไลฟ์หรือบีไลฟ์ เพียงแค่ตลาดจีนเพียงที่เดียวเมื่อปีที่แล้ว ธุรกิจออนไลน์ประเภทนี้มีรายได้สูงถึง 5,000 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณกว่า 160,000 ล้านบาท

หนึ่งในคีย์สำคัญที่ทำให้ธุรกิจนี้เติบโตอย่างมากคือ “วัยรุ่น” อย่างที่นายเคนเนต ตัน ผู้บริหารของบีไลฟ์จากสิงคโปร์ที่เพิ่งจะเปิดตัวไปเมื่อปีนี้บอกว่า ผู้ใช้ส่วนใหญ่ที่เข้ามาออนไลน์มักจะเป็นกลุ่มวัยรุ่น

ด้วยข้อมูลจากสหประชาชาติที่ว่า ทวีปเอเชีย มีประชากรวัยรุ่นอายุราว 15-24 ปีกว่า 717 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 60 ของประชากรวัยรุ่นของโลกทั้งหมด อีกทั้งเอเชียยังเป็นมือถือขนาดใหญ่ที่ครองส่วนแบ่ง มีผู้ใช้ครึ่งหนึ่งของโลก โดยจีนและอินเดียครองสัดส่วนผู้ใช้มือถือมากที่สุดในเอเชีย ยังไม่นับอินโดนีเซียและเวียดนาม กับจำนวนประชากรวัยรุ่นที่เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างต่อเนื่อง

Advertisment

นอกจากนี้ วัยรุ่นยังเป็นกลุ่มที่ยอมจ่ายเพื่อซื้อฟังก์ชั่น หรือตัวเลือกอื่น ๆ ที่มีขายในแอปพลิเคชั่นไลฟ์สตรีม ไม่ว่าจะเป็นการซื้อดอกไม้ในแอปพลิเคชั่นเพื่อมอบให้ดาราเน็ตไอดอลที่ติดตาม หรือการจ่ายเงินเพื่อเข้าชม

ข้อมูลจากแอพส์ฟลายเยอร์ บริษัทที่ปรึกษาด้านข้อมูลโทรศัพท์เคลื่อนที่เผยว่า ปี 2559 มีผู้ใช้เงินจ่ายเงินซื้อของในแอปพลิเคชั่นเฉลี่ยที่ 0.50 ดอลลาร์ หรือราว ๆ 16 บาทต่อแอปพลิเคชั่น แต่หากแยกเป็นภูมิภาคแล้ว เอเชียครองสัดส่วนการจ่ายมากที่สุด โดยอยู่ที่ 0.70 ดอลลาร์ หรือประมาณกว่า 22 บาทต่อแอปพลิเคชั่น ส่วนยุโรปอยู่ที่เพียง 0.26 ดอลลาร์ หรือประมาณกว่า 8 บาทเท่านั้น

Advertisment

อีกหนึ่งประเด็นสำคัญที่ทำให้วัยรุ่นกลายเป็นกลุ่มผู้ใช้รายสำคัญคือ การติดต่อสื่อสารกับดาราเน็ตไอดอลได้โดยตรง ซึ่งต่างกับยูทูบเบอร์หรือเน็ตไอดอลบนยูทูบที่มักจะเป็นการสื่อสารเพียงด้านเดียว

และ “วัยรุ่น” ทุกคนเชื่อว่าต่างมีความคิด ความฝันที่ซักวันจะก้าวขึ้นมาเป็นดารา นักร้อง หรือคนมีชื่อเสียง ดังนั้นไลฟ์สตรีมจึงเป็นบันไดสำคัญที่เสริมให้วัยรุ่นเหล่านี้สามารถไขว่คว้าความฝันได้ อย่างการร้องเพลง หรือโชว์ความสามารถพิเศษ แม้กระทั่งการกินอาหารโชว์ก็สร้างชื่อได้เช่นกัน ไม่ใช่เพียงแค่การโชว์ความสามารถ หรือทำอะไรตลกขบขันเล่น ๆ เท่านั้น เน็ตไอดอลบางคนได้โอกาสจากหลายบริษัท หลายผลิตภัณฑ์ในการเป็นพรีเซ็นเตอร์โฆษณาไปในตัว

ไม่ใช่แค่ธุรกิจอย่างเดียว แต่การไลฟ์สตรีมยังเหมือนกับการหาช่องโอกาสให้วัยรุ่นได้ส่งเสียงดังขึ้น ภายใต้สังคมเอเชียที่ถือหลักเคารพผู้อาวุโสเป็นสำคัญ