ที่มาของภาพ, EPA
ชื่อของ ฮิวจ์ โอเลียรี กำลังเป็นที่สนใจของชาวอังกฤษ หลังจากนางลิซ ทรัสส์ ภรรยาของเขาได้ก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษ
ที่ผ่านมา นายโอเลียรี ซึ่งมีอาชีพนักบัญชีมักยืนอยู่เบื้องหลังคอยสนับสนุนการทำงานการเมืองของภรรยา แต่ตอนนี้เขาคงต้องทำความคุ้นชินกับการเป็นบุคคลสาธารณะให้มากขึ้น
การเป็นสามีของผู้นำหญิงคนที่ 3 ของอังกฤษ ทำให้หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่เขาจะถูกนำไปเปรียบเทียบว่าเหมือนกับอดีต “สุภาพบุรุษหมายเลขหนึ่ง” เช่น นายฟิลิป เมย์ คู่ชีวิตของอดีตนายกรัฐมนตรี เทรีซา เมย์ ที่มักไม่ค่อยตกเป็นข่าวมากนัก
ความเหมือนกันระหว่างนายโอเลียรีกับนายเมย์ไม่ได้มีเพียงเท่านี้ เพราะพวกเขาเคยใช้ชีวิตช่วงวัยเด็กเหมือนกันที่เมืองเฮสเวลล์ ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของอังกฤษ
อดีตเพื่อนบ้านของครอบครัวโอเลียรีให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์เดอะไทมส์ถึงความทรงจำเกี่ยวกับสุภาพบุรุษหมายเลขหนึ่งของอังกฤษว่าเป็น “เด็กชายผู้มุ่งมั่น เงียบ ๆ แต่ก็น่ารัก”
ในช่วงมหาวิทยาลัยนายโอเลียรีเข้าศึกษาด้านคณิตเศรษฐศาสตร์ที่วิทยาลัยเศรษฐศาสตร์และรัฐศาสตร์แห่งลอนดอน หรือ แอลเอสอี
แรกพบ
ความรักในคณิตศาสตร์ของเขาอาจดึงดูดความสนใจของนางทรัสส์ ซึ่งมีบิดาเป็นนักคณิตศาสตร์ อีกทั้งยังมีความสนใจในศาสตร์แขนงนี้เป็นพิเศษ
ทั้งสองได้รู้จักกันในงานประชุมพรรคคอนเซอร์เวทีฟที่เมืองแบล็กพูล ในปี 1997 โดยนางทรัสส์เคยให้สัมภาษณ์ไว้กับนิตยสารยู (You) เมื่อปี 2019 ว่า “เขาชวนฉันไปเล่นสเก็ตน้ำแข็ง แล้วเขาก็ล้มข้อเท้าเคล็ด”
อุบัติเหตุครั้งนั้นไม่ได้ทำให้นายโอเลียรีถอดใจ และทั้งคู่ก็เดินหน้าสานสัมพันธ์กันต่อไป ก่อนที่จะจูงมือกันเข้าประตูวิวาห์ในอีก 3 ปีต่อมา และมีบุตรสาวด้วยกัน 2 คน
สามีผู้ให้อภัย
นอกจากเรื่องคณิตศาสตร์แล้ว นายโอเลียรียังมีความสนใจเรื่องการเมืองเหมือนภรรยา และเคยเป็นสมาชิกสภาเทศบาลกรีนิช ทางตอนใต้ของกรุงลอนดอนในปี 1998, 2002 และ 2006
แต่อาจพูดได้ว่าอาชีพบนเส้นทางการเมืองของนายโอเลียรีไม่ประสบความสำเร็จเท่ากับภรรยาของเขา และในปี 2006 ชีวิตคู่ของพวกเขาก็เผชิญกับมรสุมครั้งใหญ่ เมื่อมีการเปิดโปงว่านางทรัสส์แอบมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับนายมาร์ก ฟิลด์ เพื่อนสมาชิกพรรคคอนเซอร์เวทีฟ เป็นเวลา 18 เดือน ก่อนที่จะยุติลงในปี 2005
ที่มาของภาพ, Conservative Party
เรื่องอื้อฉาวครั้งนี้ ทำให้สมาชิกคอนเซอร์เวทีฟพยายามขับนางทรัสส์ออกจากพรรคตอนที่เธอได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนพรรคลงสมัครรับเลือกตั้งชิงเก้าอี้ ส.ส.ในมลฑลนอร์ฟอล์ก ขณะที่นายฟิลด์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รับผิดชอบภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก รวมถึงไทยก็ต้องจบชีวิตสมรสที่ยาวนาน 12 ปี
ในตอนนั้น นางทรัสส์ กล่าวว่า “ดิฉันเสียใจอย่างยิ่งเกี่ยวกับ [ความสัมพันธ์] ครั้งนั้น มันเป็นความผิดพลาดที่ดิฉันได้ทำลงไป และตัวดิฉันกับสามีมองว่ามันเป็นเรื่องในอดีตที่เราได้ก้าวข้ามมาแล้ว”
นางทรัสส์ย้อนมองถึงเรื่องนี้ในปี 2019 ว่า เป็นเหตุการณ์ที่ยากลำบากมากสำหรับชีวิตคู่ของพวกเขา
“มันยากมากแต่…ฉันเลือกที่จะอยู่ต่อ [ในชีวิตคู่] และไม่ยอมปล่อย…ฉันพยายามอย่างมาก มากจริง ๆ และฉันก็เอาชนะมันมาได้อย่างขาวสะอาด”
“อันที่จริง ถึงมันจะไม่ใช่ประสบการณ์น่ารื่นรมย์ที่ต้องเผชิญ แต่มันก็ทำให้ฉันแข็งแกร่งขึ้นหลังจากนั้น เพราะฉันต้องต่อสู้ [เพื่อกอบกู้ชีวิตคู่]”
เมื่อถูกถามว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ชีวิตคู่ของเธอกับสามีแข็งแกร่งขึ้นหรือไม่
“ฉันคิดว่ามันเป็นคนละเรื่องกัน แต่ตอนนี้ฉันมีความสุขกับชีวิตแต่งงานมาก”
นางทรัสส์ชื่นชอบการใช้โซเชียลมีเดียอย่างอินสตาแกรม แต่ก็มักโพสต์ภาพถ่ายของตัวเองเป็นส่วนใหญ่ แต่ในปี 2019 เธอได้โพสต์ภาพถ่ายกับสามีขณะไปร่วมงานแห่งหนึ่ง พร้อมกับข้อความว่า “รักชีวิตฉัน #สุขสันต์วันวาเลนไทน์”
ที่มาของภาพ, Instagram
…..
ข่าว บีบีซี ไทย ที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ ประชาชาติธุรกิจ เป็นความร่วมมือของสององค์กรข่าว
