หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรปกล่าวว่า สหภาพยุโรปต้องมองคำขู่ของนายวลาดิเมียร์ ปูติน ที่เขาอาจจะใช้อาวุธนิวเคลียร์ในความขัดแย้งในยูเครน เป็นเรื่องจริงจัง
นายโจเซป บูร์เรลล์ กล่าวกับลีส ดูเซต ของบีบีซีว่า สงครามได้มาถึง “ช่วงเวลาอันตราย” แล้ว
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- เงื่อนไขปุ๋ยลดราคาเฟส 2 สูตรไหน-พืชชนิดใดบ้าง
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
คำกล่าวของเขาเกิดขึ้นขณะที่รัสเซียเริ่มระดมกำลังพลบางส่วน และพยายามที่จะผนวกรวมภูมิภาคในยูเครน 4 แห่งเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย
นายปูตินได้เผชิญกับความล้มเหลวหลายอย่างในสมรภูมิรบ โดยการบุกโต้กลับของยูเครนทำให้กองทัพของเขาต้องถอยร่น
“แน่นอน มันคือช่วงเวลาอันตราย เพราะกองทัพของรัสเซียถูกต้อนจนจนมุมแล้ว และปฏิกิริยาของปูตินที่ขู่ว่า จะใช้อาวุธนิวเคลียร์ มันแย่มาก” นายบูร์เรลล์กล่าว
7 เดือนหลังการยกทัพบุกยูเครน บรรดานักวิเคราะห์เห็นตรงกันว่า กองทัพของประธานาธิบดีปูตินกำลังตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ แต่เขากล่าวว่า ต้องมีการหา “ทางออกทางการทูต” ที่ “รักษาอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของยูเครนไว้”
“ไม่เช่นนั้น เราอาจจะยุติสงครามนี้ได้ แต่เราจะไม่ได้สันติภาพ และเราก็จะมีสงครามอีกครั้งหนึ่ง” เขากล่าว
ในการกล่าวต่อประชาชนทั่วประเทศซึ่งไม่ค่อยเกิดขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา นายปูติน กล่าวว่า ประเทศของเขา “มีอาวุธทำลายล้างหลากหลายชนิด” และจะ “ใช้ทุกวิถีทางที่เราทำได้” และระบุเพิ่มเติมว่า “ผมไม่ได้ขู่”
“เมื่อมีคนบอกว่า นี่ไม่ใช่คำขู่ คุณต้องมองมันอย่างจริงจัง” นายบูร์เรลล์ กล่าว
ในกล่าวครั้งเดียวกันนั้น ประธานาธิบดีปูตินประกาศว่า จะเรียกตัวชาวรัสเซีย 300,000 คน ที่เคยเข้ารับการฝึกทหาร ทำให้เกิดการประท้วงขึ้นหลายแห่ง และมีรายงานว่า ประชาชนได้พากันหนีออกจากประเทศเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกส่งไปแนวรบ
การประกาศนี้เกิดขึ้นหลังจากที่มีการบุกโต้กลับอย่างรวดเร็วซึ่งยูเครนระบุว่า ยึดพื้นที่กลับคืนมาจากกองทัพรัสเซียได้แล้วมากกว่า 8,000 ตร.กม.
ขณะนี้กำลังมีการจัดการลงประชามติในรูปแบบของตัวเองเพื่อเข้าร่วมกับรัสเซียในภูมิภาค 4 แห่งของยูเครนที่ถูกยึดครองอยู่ ยูเครนได้ประณามความพยายามในการผนวกรวมดินแดนเหล่านี้ และรายงานว่า ทหารรัสเซียกำลังไปรวบรวมบัตรลงคะแนนจากบ้านแต่ละหลัง ขณะที่สื่อรัสเซียรายงานว่า การที่ต้องให้คนลงคะแนนจากบ้านเช่นนี้เพราะเหตุผลด้านความปลอดภัย
“คุณต้องตอบเป็นคำพูด แล้วทหารก็จะใส่คำตอบนั้นลงในกระดาษและเก็บมันไว้” ผู้หญิงคนหนึ่งในเมืองเอเนอร์โฮดาร์กล่าวกับบีบีซี
ในเมืองแคร์ซอนทางใต้ เจ้าหน้าที่คุ้มกันชาวรัสเซียยืนอยู่พร้อมกับกล่องหย่อนบัตรลงประชามติที่กลางเมืองเพื่อคอยเก็บผลการลงประชามติของประชาชน
“การลงคะแนนส่วนตัวจะเกิดขึ้นต่างหากในวันที่ 27 ก.ย. นี้” ทาสส์ (Tass) รายงาน “ในวันอื่น ๆ การลงคะแนนจะจัดขึ้นตามชุมชนต่าง ๆ และการไปตามบ้านแต่ละหลัง”
ขณะที่ผู้หญิงคนหนึ่งในเมืองเมลิโตโปล กล่าวกับบีบีซีว่า “คนที่ให้ความร่วมมือ” ในท้องถิ่น 2 คน ได้มาที่บ้านของพ่อแม่เธอพร้อมกับทหารรัสเซีย 2 นาย เพื่อให้พวกเขาเซ็นชื่อในบัตรลงคะแนน
“พ่อของฉันเลือก ‘ไม่’ [หมายถึงไม่ต้องการเข้าร่วมกับรัสเซีย]” ผู้หญิงคนดังกล่าวเล่า “แม่ของฉันยืนอยู่ข้าง ๆ และถามว่า จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเลือก ‘ไม่’ พวกเขาบอกว่า ‘ไม่มีอะไรเกิดขึ้น'”
นอกจากนี้เธอยังบอกด้วยว่า มีบัตรลงคะแนนเพียงใบเดียวสำหรับ 1 ครัวเรือน ไม่ใช่บัตรหนึ่งใบต่อหนึ่งคน
ใน “การลงประชามติ” มีการถามอะไรบ้าง
- ใน “สาธารณรัฐประชาชน” โดเนตสก์และลูฮันสก์ ซึ่งไม่เป็นที่ยอมรับและเป็นการประกาศตั้งขึ้นเอง ประชาชนถูกถามว่า พวกเขา “สนับสนุนการรวมสาธารณรัฐของพวกเขากับรัสเซียเป็นสหพันธรัฐเดียวกันหรือไม่
- ในเมืองซาปอรีเชียและเมืองแคร์ซอน ประชาชนถูกถามว่า พวกเขา “เห็นชอบการแยกภูมิภาคออกจากยูเครน ก่อตั้งประเทศเอกราช และรวมเข้ากับรัสเซียเป็นสหพันธรัฐเดียวกันหรือไม่”
- ในลูฮันสก์และโดเนตสก์ มีการพิมพ์บัตรลงคะแนนเป็นภาษารัสเซียเท่านั้น
- ในเมืองซาปอรีเชียและแคร์ซอน บัตรลงคะแนนมีทั้งภาษายูเครนและภาษารัสเซีย
ที่มา : ทาสส์
นายบูร์เรลล์ ละเลยความกังวลที่ว่า จำนวนอาวุธของสหภาพยุโรปกำลังลดน้อยลง และกล่าวว่า สหภาพยุโรปต้องสนับสนุนความช่วยเหลือด้านการทหารต่อยูเครนต่อไป รวมถึงการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อประธานาธิบดีและพันธมิตรของเขา และดำเนินการทางการทูต
เขายอมรับว่า ราคาค่าพลังงานที่สูงขึ้นที่มาจากความขัดแย้งนี้ เป็นเรื่องที่น่ากังวล
“ประชาชนในประเทศของผมบอกผมว่า ราคาก๊าซทำให้เราไม่สามารถทำงานต่อไปได้ เราไม่สามารถทำธุรกิจต่อไปได้” นักการเมืองชาวสเปนผู้นี้กล่าว นอกจากนี้ยังระบุว่า เขาได้ยินความกังวลคล้ายกันนี้จากบรรดาผู้นำจากแอฟริกา, อเมริกาใต้ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วย
นายบูร์เรลล์ เรียกร้องให้ประธานาธิบดีปูตินหาทางออกที่พูดคุยกันได้ โดยกล่าวว่า “การเต้นแทงโก จำเป็นต้องมี 2 คน”
“ทุกคนที่ได้ไปเยือนมอสโก ไปเครมลินเพื่อพูดคุยกับปูติน พวกเขาต่างกลับมาด้วยคำตอบเดียวกัน ‘ผม [ปูติน] มีเป้าหมายทางการทหาร และหากผมไม่บรรลุเป้าหมายทางการทหารเหล่านี้ ผมจะต่อสู้ต่อไป’ นี่คือทิศทางที่น่ากังวล แต่เราต้องสนับสนุนยูเครนต่อไป” เขากล่าว
…..
ข่าว บีบีซี ไทย ที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ ประชาชาติธุรกิจ เป็นความร่วมมือของสององค์กรข่าว