8 ปี ประยุทธ์ : การข่าวยังไม่พบสิ่งผิดปกติ หลังประธานศาลรัฐธรรมนูญประกาศพื้นที่ควบคุมวัน “ชี้ชะตา” นายกฯ

นักกิจกรรมการเมืองและประชาชนหลายกลุ่มเกาะติดการอ่านคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญคดี “นายกฯ 8 ปี” ขณะที่ประธานศาลรัฐธรรมนูญออกประกาศพื้นที่ควบคุม ห้ามผ่านเข้าออกจนถึง 3 ต.ค. เวลา 06.00 น.

พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม มีกำหนดการเดินทางเข้าทำงานภายในกระทรวงกลาโหม ในช่วงเช้าวันนี้ (30 ก.ย.) เพื่อร่วมพิธีอำลาตำแหน่งและรับ-ส่งหน้าที่ของปลัดกระทรวงกลาโหม ท่ามกลางการเกาะติดสถานการณ์ของสื่อมวลชนหลายสำนักในวันชี้ชะตาทางการเมืองของนายกฯ คนที่ 29

จากนั้นคาดว่า พล.อ. ประยุทธ์จะกลับเข้าบ้านพักภายในกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ (ร.1 รอ.) เพื่อลุ้นคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ

วันนี้ (30 ก.ย.) ศาลรัฐธรรมนูญนัดประชุมเพื่อแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือ และลงมติ ก่อนออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัยให้คู่กรณีฟังในเวลา 15.00 น. ภายหลังรับคำร้องของ ส.ส. ฝ่ายค้านที่ยื่นผ่านประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าความเป็นรัฐมนตรีของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา สิ้นสุดลง เนื่องจากดำรงตำแหน่งครบกำหนดเวลา ตามมาตรา 170 วรรคสาม และมาตรา 158 วรรคสี่ ของรัฐธรรมนูญ 2560

สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญได้จัดเตรียมสถานที่รองรับสื่อมวลชนที่มารายงานข่าว และแจ้งว่า จะถ่ายทอดสดการอ่านคำวินิจฉัยจากห้องพิจารณาลงมายังห้องสื่อมวลชนที่ลานชั้น 2 ของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ (อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์) อีกทั้งจะถ่ายทอดผ่านยูทิวบ์ของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ประชาชนได้ติดตามการอ่านคำวินิจฉัยคดีนี้โดยไม่ต้องเดินทางมาที่ศาลรัฐธรรมนูญ

กห.

ที่มาของภาพ, Thai News Pix

นายวรวิทย์ กังศศิเทียม ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ลงนามประกาศศาลรัฐธรรมนูญ เรื่อง อาณาบริเวณหรือพื้นที่ที่กำหนดให้ศาลรัฐธรรมนูญและสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติงาน รักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อย

เนื้อหาตอนหนึ่งระบุว่า “หน่วยงานความมั่นคงได้แจ้งต่อสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญว่าจะมีสถานการณ์ที่มีสิ่งบอกเหตุ หรือข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่าอาจจะมีเหตุการณ์ความไม่ปลอดภัยและความไม่สงบเรียบร้อยเกิดขึ้น” เพื่อให้กระบวนการพิจารณาของศาลเป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงออกประกาศซึ่งมีสาระสำคัญ ดังนี้

  • กำหนดให้อาณาบริเวณหรือพื้นที่ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ (อาคารเอ) ตามแนวเขตแผนที่ท้ายประกาศนี้ เป็นพื้นที่ชั้นนอกในการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อย บุคคลและยานพาหนะที่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาในพื้นที่ต้องผ่านการตรวจของเจ้าหน้าที่หน่วยงาน
  • กำหนดให้พื้นที่ภายในที่ทำการศาลรัฐธรรมนูญและพื้นที่ศาลรัฐธรรมนูญตามแนวเขตท้ายประกาศนี้เป็นพื้นที่ควบคุม ห้ามผู้ใดเข้ามาในพื้นที่ควบคุม เว้นแต่ผู้ที่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาปฏิบัติงาน หรือมาติดต่อราชการ และต้องผ่านการตรวจตัวบุคคลและสิ่งของที่นำมาตามวิธีการของหน่วยงานซึ่งมีหน้าที่รักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อย

ประกาศฉบับนี้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 29 ก.ย. เวลา 19.00 น. ถึง 3 ต.ค. เวลา 06.00 น.

แผนที่

ที่มาของภาพ, สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ

ทหาร-ตำรวจเผยการข่าวไร้สิ่งผิดปกติ

อย่างไรก็ตามฝ่ายความมั่นคงทั้งตำรวจทหารต่างระบุตรงกันว่าการข่าวยังไม่พบสิ่งปกติ

กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) จัดเตรียมกำลังตำรวจควบคุมฝูงชน (คฝ.) ของกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 (บก.น. 2) เอาไว้ 2 กองร้อย เพื่อดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกบริเวณศาลรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ พล.ต.ต. รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ รอง ผบช.น. คาดว่ามีกลุ่มผู้ชุมนุมประมาณ 50-100 คน โดยได้จัดสถานที่ไว้รองรับแล้วเพื่อไม่ให้มีกลุ่มผู้ชุมนุมเข้าไปในเขตพื้นที่ของศาล

รอง ผบช.น. กล่าวด้วยว่า ยังไม่มีการข่าวว่าจะมีความรุนแรงเกิดขึ้นแต่อย่างใด ยืนยันตำรวจจะดูแลจุดต่าง ๆ อย่างเต็มที่เพื่อป้องกันไม่ให้มีเหตุการณ์ก่อให้เกิดความเดือดร้อนกับประชาชน

เช่นเดียวกับ พ.อ. วินธัย สุวารี โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ที่กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติในด้านความมั่นคง และ กอ.รมน. ยังไม่ได้มีภารกิจอะไร ทุกหน่วยงานติดตามอยู่แล้ว ผู้ที่มีหน้าที่หลักยังทำหน้าที่ปกติ

นักกิจกรรมการเมืองเกาะติดวันชี้ชะตา พล.อ. ประยุทธ์

ด้านความเคลื่อนไหวของนักกิจกรรมการเมืองและประชาชนฝ่ายต่อต้าน พล.อ. ประยุทธ์ ได้นัดหมายเกาะติดการอ่านคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญและจัดกิจกรรมดังนี้

  • กลุ่มที่เรียกตัวเองว่า “ราษฎร” และ “แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม” นัดรวมพลที่สกายวอล์ค แยกปทุมวัน เวลา 14.00 น. เพื่อฟังผลชี้ชะตา พล.อ. ประยุทธ์ไปพร้อม ๆ กัน พร้อมระบุว่า “ถ้าประยุทธรอด หลังคำวินิจฉัยออกแล้วเจอกัน” ในเวลา 16.00  น.
  • กลุ่มที่ใช้ชื่อว่า “คณะหลอมรวมประชาชน” นำโดยนายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายนิติธร ล้ำเหลือ นัดชุมนุมที่แยกราชประสงค์ เวลา 17.00 น. ไม่ว่าคำวินิจฉัยศาลจะออกมาเช่นใด โดยใช้ชื่อกิจกรรมว่า  “หยุด 3 ป. หยุดรัฐประหาร นับหนึ่งประเทศไทย”
  • กลุ่มที่ใช้ชื่อว่า “ร่วมพลคนเสื้อแดงต่อต้านเผด็จการ” นำโดยนายภัทรพล ธนเดชพรเลิศ หรือ “ไก่ บิ๊กแมน” และนางสุดสงวน สุธีสร อาจารย์ประจำคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่มีกระแสข่าวว่าจะจัดกิจกรรมในวันนี้ ได้แจ้งแนวร่วมผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ให้ติดตามฟังคำวินิจฉัยของศาลอยู่ที่บ้านใครบ้านมัน โดยไม่ไปที่ศาลรัฐธรรรมนูญ และนัดหมายจัดกิจกรรมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถ.ราชดำเนิน ในวันที่ 2 ต.ค.

….

ข่าว BBCไทย ที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ ประชาชาติธุรกิจ เป็นความร่วมมือของสององค์กรข่าว