จีนถูกกล่าวหาตั้งสถานีตำรวจผิดกฎหมายในเนเธอร์แลนด์

Plaque outside the Chinese embassy in the Hague

ที่มาของภาพ, Getty Images

รัฐบาลจีนถูกกล่าวหาว่าตั้ง “สถานีตำรวจ” อย่างลับ ๆ อย่างน้อย 2 แห่งในประเทศเนเธอร์แลนด์

สื่อเนเธอร์แลนด์พบหลักฐานการตั้ง “สถานีบริการในต่างแดน” ของจีนซึ่งอ้างว่ามีหน้าที่ให้บริการด้านการทูต ทว่าในความเป็นจริงกลับถูกใช้ในปฏิบัติการปิดปากกลุ่มชาวจีนผู้เห็นต่างในยุโรป

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศเนเธอร์แลนด์ระบุว่า การตั้งสถานีตำรวจอย่างไม่เป็นทางการนอกประเทศลักษณะนี้เป็นเรื่องผิดกฎหมาย

ด้านสถานทูตจีนอ้างว่าไม่ทราบว่ามีสถานีตำรวจลักษณะนี้อยู่

การสอบสวนเรื่องนี้มีขึ้นหลังจากมีรายงานเรื่อง Chinese Transnational Policing Gone Wild ของ Safeguard Defenders องค์กรเพื่อสิทธิมนุษยชนในสเปน

รายงานฉบับนี้ระบุว่า สำนักงานความมั่นคงสาธารณะจาก 2 มณฑลของจีน ได้ตั้ง “ศูนย์บริการตำรวจในต่างแดน” จำนวน 54 หน่วยใน 5 ทวีป 21 ประเทศ ส่วนใหญ่อยู่ในยุโรป ซึ่งรวมถึง 9 หน่วยในสเปน, 4 หน่วยในอิตาลี, 2 หน่วยในกรุงลอนดอน และ 1 หน่วยในเมืองกลาสโกว์ ของสกอตแลนด์

จีนได้เปิดศูนย์เหล่านี้อย่างโจ่งแจ้ง โดยระบุว่ามีหน้าที่จัดการปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ และดำเนินงานด้านฝ่ายปกครอง เช่น การต่อใบขับขี่ อย่างไรก็ตาม Safeguard Defenders ระบุว่า ในความเป็นจริงศูนย์เหล่านี้ดำเนิน “ปฏิบัติการจูงใจ” โดยมีเป้าหมายเพื่อข่มขู่ผู้ต้องสงสัยว่าพูดต่อต้านรัฐบาลจีนให้เดินทางกลับประเทศ

คุกคามผู้เห็นต่าง

RTL News รายการข่าวในเยอรมนี และ Follow the Money เว็บไซต์ข่าวเชิงสืบสวน นำเสนอเรื่องราวของ นายหวัง จิ่งอวี๋ ผู้เห็นต่างชาวจีนที่เล่าว่าเขาถูกตำรวจจีนคุกคามในเนเธอร์แลนด์

นายหวังเล่าว่า เมื่อช่วงต้นปีนี้เขาได้รับโทรศัพท์จากบุคคลที่อ้างเป็นเจ้าหน้าที่จากศูนย์บริการตำรวจในต่างแดน โดยในระหว่างการสนทนา เจ้าหน้าที่พยายามเกลี้ยกล่อมให้เขากลับจีนเพื่อ “สะสางปัญหาของผม และให้คิดถึงพ่อแม่”

นายหวังบอกว่า นับตั้งแต่นั้นเขาต้องเผชิญการข่มขู่คุกคามอย่างเป็นระบบ ซึ่งเขาเชื่อว่าเป็นฝีมือของเจ้าหน้าที่รัฐบาลจีน

ด้านสถานทูตจีนชี้แจงกับ RTL News ว่าไม่ทราบว่ามีสถานีตำรวจที่ปฏิบัติการลักษณะนี้อยู่

ผิดกฎหมาย

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศเนเธอร์แลนด์ ระบุว่า การตั้งสถานีตำรวจลักษณะนี้ในเนเธอร์แลนด์เป็นเรื่องผิดกฎหมาย พร้อมให้คำมั่นจะ “เข้าไปตรวจสอบการทำงานของหน่วยงานนี้ และจะดำเนินมาตรการที่เหมาะสมต่อไป”

บริการต่าง ๆ เช่น การต่ออายุหนังสือเดินทาง หรือการขอวีซ่ามักทำโดยสถานทูตหรือสถานกงสุล ซึ่งหน่วยงานเหล่านี้ต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ทางการทูตที่กำหนดไว้ในอนุสัญญากรุงเวียนนา ซึ่งทั้งจีนและเนเธอร์แลนด์เป็นผู้ร่วมลงนาม

การที่จีนตั้งหน่วยงานด้านตำรวจในต่างแดนเช่นที่ถูกกล่าวหาครั้งนี้ อาจถือเป็นการละเมิดอธิปไตยทางดินแดนของประเทศเจ้าบ้าน เพราะหลีกเลี่ยงอำนาจศาลและการคุ้มครองภายใต้กฎหมายของประเทศนั้น ๆ

 Safeguard Defenders ระบุว่า การกระทำดังกล่าวของจีนเป็น “ปัญหา” เพราะมุ่งเป้าต่อผู้ต้องสงสัยเป็นฝ่ายต่อต้านรัฐบาล โดยที่ไม่มีการเชื่อมโยงบุคคลเหล่านี้เข้ากับอาชญากรรมอย่างชัดเจน หรือปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และกระบวนการของประเทศเจ้าบ้าน

จีนได้บังคับใช้กฎหมายต่อต้านการหลอกลวงทางโทรคมนาคมและออนไลน์ เมื่อ 2 ก.ย. พร้อมอ้างการใช้อำนาจศาลนอกอาณาเขตต่อคนสัญชาติจีนทุกคนในต่างแดนที่ต้องสงสัยว่ากระทำความผิดตามที่บัญญัติไว้ในกฎหมายฉบับนี้

ในทางทฤษฎีจึงหมายความว่า กฎหมายฉบับนี้บวกกับการทำงานของหน่วยตำรวจจีนในต่างแดน จะทำให้กลุ่มผู้เห็นต่างไม่มีที่จะหลบหนีจากเงื้อมมือทางการจีนได้

ตอนนี้แรงกดดันจึงตกอยู่กับรัฐบาลเนเธอร์แลนด์ที่ต้องรับประกันว่าผู้วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลจีนที่ได้รับสิทธิลี้ภัยในประเทศจะได้รับการคุ้มครอง และกฎหมายเนเธอร์แลนด์นั้นมีความศักดิ์สิทธิ์

…….

ข่าว BBCไทย ที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ ประชาชาติธุรกิจ เป็นความร่วมมือของสององค์กรข่าว