- เฮเลนา วิลกินสัน, เจเรมี บริตตัน และเบธาน เบลล์
- บีบีซี นิวส์
อะไรทำให้ผู้หญิงคนหนึ่งลงมือสังหารเพื่อน ตัดศีรษะ แล้วยัดศพใส่กระเป๋าเดินทางไว้นาน 2 สัปดาห์ ก่อนเอาศพไปทิ้งในป่าที่อยู่ห่างออกไปกว่า 300 กม. เพื่ออำพรางคดี
สำหรับ เจมมา มิตเชลล์ คำตอบง่าย ๆ คือ “ความโลภ”
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- ยูโอบี ย้ำลูกค้าบัตรเครดิตซิตี้ ยังใช้งานได้ปกติ แจงสิ่งควรรู้หลังโอนพอร์ต
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
“มิตเชลล์คือฆาตกรอำมหิต แรงจูงใจในการก่อเหตุคือเงิน ข้อเท็จจริงของการกระทำอันไร้จิตใจของคดีนี้ช่างน่าตกตะลึง” สารวัตรสืบสวน จิม อีสต์วูด แห่งสำนักงานตำรวจนครบาลลอนดอน กล่าว
นี่คือเรื่องราวของมิตรภาพที่เริ่มต้นขึ้นที่โบสถ์คริสต์แห่งหนึ่ง และจบลงด้วยความตายของหญิงคนหนึ่ง ส่วนอีกคนถูกศาลพิพากษาจำคุกตลอดชีวิต โดยให้รับโทษจองจำไม่ต่ำกว่า 34 ปี
คดีนี้ถูกเปิดโปงขึ้นในช่วงบ่ายวันหนึ่งของฤดูร้อนปี 2021 เมื่อนักท่องเที่ยวครอบครัวหนึ่งไปพบกับภาพอันน่าสยดสยองของศพไร้ศีรษะในป่าที่เมืองตากอากาศชายทะเลในมณฑลเดวอน
เหยื่อรายนี้คือ มี คุน ชอง ชาวมาเลเซียวัย 67 ปีที่รู้จักในนาม “เดโบราห์” ซึ่งหายตัวไปเป็นเวลา 16 วัน
ศพไร้ศีรษะของเดโบราห์ถูกพบบริเวณป่าเมืองซอลคัมบ์ ห่างจากบ้านพักของเธอทางตอนเหนือของกรุงลอนดอนไปกว่า 300 กม.
ศีรษะของเธอถูกพบบริเวณใกล้เคียงในอีกไม่กี่วันถัดมา
ที่มาของภาพ, Chong family
หนึ่งปีต่อมา การพิจารณาคดีฆาตกรรมเดโบราห์ที่ศาลอาญากลางแห่งอังกฤษและเวลส์ หรือที่เรียกกันว่า “โอลด์ เบลีย์” (Old Bailey) ได้เปิดเผยรายละเอียดอันน่ากลัวที่น้อยคนนักจะลืมได้ลง
ดีนนา เฮียร์ อัยการอาวุโสได้สรุปคดีนี้ในห้องพิจารณาคดีที่ 12 เอาไว้อย่างกระชับและชัดเจนว่า
“เจมมา มิตเชลล์ ทำร้ายและฆ่าผู้ตาย จากนั้นนำศพไปเมืองซอลคัมบ์โดยยัดไว้ในกระเป๋าเดินทางสีน้ำเงินขนาดใหญ่ เพื่อทิ้งศพ”
แรงจูงใจ
ในการพิจารณาคดีที่กินเวลา 2 สัปดาห์ เจมมา มิตเชลล์ วัย 38 ปี นั่งฟังอยู่หลังคอกกระจก ในขณะที่ครอบครัวของเดโบราห์ ชมการพิจารณาคดีผ่านระบบวิดีโอลิงก์จากมาเลเซีย
อัยการอาวุโส เฮียร์ กล่าวต่อคณะลูกขุนว่า คดีนี้มีแรงจูงใจก่อเหตุที่ชัดเจนนั่นคือ “เงิน”
ที่มาของภาพ, Julia Quenzler
มิตเชลล์มาจากครอบครัวฐานะดี ได้รับการศึกษาในโรงเรียนเอกชน โดยที่มารดาเคยทำงานในกระทรวงการต่างประเทศสหราชอาณาจักร
เธอมีอสังหาริมทรัพย์ในออสเตรเลีย ซึ่งเป็นสถานที่เกิดของเธอ และบ้านของครอบครัวในกรุงลอนดอนก็อยู่ในย่านที่อสังหาริมทรัพย์มีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 1 ล้านปอนด์
ข้อความสนทนาระหว่างเดโบราห์และมิตเชลล์บ่งชี้ว่าเธอเชื่อว่าบ้านพักในปัจจุบันของมิตเชลล์มีมูลค่าถึง 4 ล้านปอนด์
อย่างไรก็ตาม บ้านหลังนี้มีสภาพทรุดโทรมและต้องได้รับการบูรณะ อัยการอาวุโส เฮียร์ ระบุว่า ห้องต่าง ๆ เต็มไปด้วยข้าวของ และแทบจะเข้าไปใช้งานไม่ได้ ดูเหมือนเป็นบ้านของผู้ป่วยโรคชอบเก็บสะสมสิ่งของ
ข้อมูลจากการพิจารณาคดีเปิดเผยว่า เดโบราห์ เสนอเงิน 200,000 ปอนด์ ให้มิตเชลล์ใช้ซ่อมแซมบ้าน แต่เกิดเปลี่ยนใจในเวลาต่อมา ก่อนที่เธอจะหายตัวไปไม่นานหลังจากนั้น
ที่มาของภาพ, Jonathan Goldberg
หญิงทั้งสองมองว่าตัวเองเป็นชาวคริสต์ที่ยึดมั่นในศาสนา และรู้จักกันที่โบสถ์ช่วงประมาณเดือน ส.ค. ปี 2020
อย่างไรก็ตาม ไม่แน่ชัดว่าทั้งคู่หันมาสนิทสนมกันได้อย่างไร แต่เดโบราห์เป็นผู้มีปัญหาด้านสุขภาพจิต ขณะที่มิตเชลล์ซึ่งเป็นนักกายภาพบำบัดที่ศึกษาทางด้านการจัดกระดูกได้ให้คำแนะนำเรื่องสุขภาพและการเยียวยาทางจิตวิญญาณแก่เดโบราห์
เดโบราห์เป็นที่รู้จักในฐานะผู้มีจิตใจโอบอ้อมอารี เป็นมิตรกับคนไร้บ้าน และเปิดประตูรับคนที่ต้องการความช่วยเหลือ
ในสายตาคนภายนอก หญิงทั้งสองดูเหมือนจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน แต่เมื่อมีการพบศพของเดโบราห์ และตำรวจเริ่มการสืบสวนคดี ความจริงอันดำมืดก็ถูกเปิดเผยออกมา
ที่มาของภาพ, PA Media
สารวัตร อีสต์วูด ระบุว่า มีหลักฐานมากมายที่บ่งชี้ไปยังมิตเชลล์
“กล้องซีซีทีวีเผยให้เห็นภาพมิตเชลล์เดินทางไปและกลับจากบ้านพักของเดโบราห์ในวันที่เธอหายตัวไป และยังมีภาพสำคัญจากซีซีทีวีที่จับภาพขณะมิตเชลล์เดินทางไปและกลับจากมณฑลเดวอน”
นอกจากนี้ ตำรวจยังพบกระเป๋าเดินทางสีน้ำเงินที่มิตเชลล์ลากไปยังบ้านพักของเดโบราห์ก่อนที่จะนำศพกลับไปเก็บไว้ที่บ้านของตัวเอง แล้วนำไปทิ้งที่มณฑลเดวอน
การสืบสวนยังพบว่า มิตเชลล์ เปิดใช้งานหมายเลขโทรศัพท์ที่หยุดใช้งานไปแล้วของเพื่อนบ้านที่เสียชีวิตคนหนึ่ง และนำโทรศัพท์ที่มีหมายเลขดังกล่าวไปใช้ในวันทิ้งศพ
“เราสามารถพิสูจน์ได้ว่ามิตเชลล์ทิ้งโทรศัพท์ของตัวเองไว้ที่บ้าน แล้วใช้โทรศัพท์ของเพื่อนบ้านที่เสียชีวิตในการเดินทางไปและกลับเดวอน” สารวัตร อีสต์วูด บอก
ฆาตกรใจอำมหิต
การเข้าตรวจค้นบ้านพักของมิตเชลล์ทำให้ตำรวจค้นพบแรงจูงใจในการทรยศหักหลังและสังหารโหดเพื่อนครั้งนี้
สารวัตร อีสต์วูด ระบุว่า ตำรวจพบหลักฐานว่ามิตเชลล์ นำเอกสารส่วนตัวและเอกสารการเงินออกมาจากบ้านพักเดโบราห์เมื่อ 11 มิ.ย. ปี 2021 จากนั้นได้ปลอมแปลงพินัยกรรมของเดโบราห์เพื่อให้ตนเองเป็นผู้ได้รับทรัพย์สินของเธอมูลค่ากว่า 700,000 ปอนด์
ในการพิจารณาคดี ทนายความได้กล่าวต่อคณะลูกขุนว่า “มิตเชลล์จงใจใช้เอกสารเหล่านี้เพื่อผลประโยชน์แก่ตนเอง”
ที่มาของภาพ, PA Media
สารวัตร อีสต์วูด ระบุว่าการก่อเหตุอย่างใจเย็นและวางแผนมาเป็นอย่างดีของมิตเชลล์นั้นน่าตกตะลึง และเป็นการกระทำอันชั่วร้ายอย่างแท้จริง
การพิจารณาคดีมุ่งเป้าไปที่กระเป๋าเดินทางสีน้ำเงินที่มิตเชลล์ลากไปยังบ้านพักในกรุงลอนดอนของเดโบราห์โดยมีเป้าหมายที่จะสังหารและยัดศพเธอเอาไว้ข้างใน
สองสัปดาห์ต่อมา มิตเชลล์ใช้ชื่อปลอมเช่ารถยนต์บรรทุกกระเป๋าใบดังกล่าวมุ่งหน้าไปยังมณฑลเดวอน เพื่อนำศพของเดโบราห์ไปทิ้ง
แต่ในช่วงสองสัปดาห์ที่มิตเชลล์เก็บศพเดโบราห์ไว้ก่อนจะนำไปทิ้งนั้น เธอแสดงให้เห็นว่าเป็นฆาตกรเลือดเย็นผู้ไม่รู้สึกสะทกสะท้านต่อสิ่งที่ได้กระทำลงไป ด้วยการไปออกเดตที่สวนสัตว์ลอนดอนกับคนที่เธอพบในเว็บไซต์หาคู่
ที่มาของภาพ, PA Media
แม้จะวางแผนเป็นอย่างดี แต่มิตเชลล์ต้องเผชิญเหตุการณ์คาดไม่ถึง เพราะรถที่ขับนำศพไปทิ้งนั้นเกิดยางระเบิดขึ้นระหว่างทาง ทำให้เธอต้องโทรเรียกช่างไปช่วยเปลี่ยนยาง
ช่างคนที่ถูกเรียกตัวไปเปิดเผยในเวลาต่อมาว่า ได้ “กลิ่นแปลก ๆ” ออกมาจากรถของมิตเชลล์ และรู้สึกแปลกใจที่เธอให้เขาเอาล้อที่ยางระเบิดไว้ที่เบาะหลัง แทนที่จะเป็นกระโปรงหลังรถ
มิตเชลล์ปฏิเสธให้การใด ๆ ในการพิจารณาคดี โดยนับตั้งแต่ถูกจับกุมเมื่อ 6 ก.ค. ปี 2021 เธอก็ปิดปากสนิทเรื่อยมา
มีความรู้กายวิภาคศาสตร์
ในการพิจารณาคดีมีการเปิดเผยว่า มิตเชลล์สำเร็จการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์จากคิงส์คอลเลจ มหาวิทยาลัยลอนดอน ซึ่งรวมถึงหลักสูตรกายวิภาคศาสตร์ ทำให้เธอมีทักษะในการชำแหละศพมนุษย์
อย่างไรก็ตาม ไม่ชัดเจนว่าเหตุใดเธอจึงลงมือตัดศีรษะเหยื่อ
ที่มาของภาพ, Chong family
มิตเชลล์เคยทำงานเป็นนักกายภาพบำบัดในออสเตรเลีย 7 ปีก่อนที่จะกลับมาอังกฤษในปี 2015 ซึ่งเธออาศัยอยู่กับแม่และพี่น้องผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งเธอมีความสัมพันธ์ไม่ดีนัก
บุคคลเดียวที่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างในวันอันเลวร้ายของเดือน มิ.ย.ปี 2021 คงมีมิตเชลล์เพียงคนเดียว
สารวัตร อีสต์วูด ระบุว่า “เราคงได้แต่สันนิษฐานถึงสิ่งที่มิตเชลล์ทำและแผนการของเธอ”
อย่างไรก็ตาม “น่าเชื่อได้ว่ามิตเชลล์ตัดศีรษะของเดโบราห์ในช่วงเวลานี้” เขาบอก
“ตอนที่ถูกพบ ศพมีสภาพเน่าเปื่อยมากแล้ว มิตเชลล์จึงอาจเริ่มกลัวว่าจะมีคนล่วงรู้เรื่องศพเดโบราห์ อย่างไรก็ตามเราอาจไม่มีวันรู้ได้แน่ชัดว่า นี่ทำให้เธอตัดสินใจเอาศพไปทิ้งหรือไม่ และเหตุใดเธอจึงเลือกเมืองซอลคัมบ์” สารวัตร อีสต์วูด กล่าว
“อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ชัดเจนก็คือ มิตเชลล์ มองว่าโอกาสที่จะได้เงินซึ่งเธอกำลังต้องการอย่างมากนั้นได้หลุดลอยไป จึงตัดสินใจทำร้ายและฆ่าหญิงผู้อ่อนแอ เพื่อผลประโยชน์ของตน ในอาชญากรรมที่แสนเลวร้าย”
……
ข่าว บีบีซี ไทย ที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ ประชาชาติธุรกิจ เป็นความร่วมมือของสององค์กรข่าว