อิมราน ข่าน : อดีตนักคริกเก็ตผู้ผันตัวเป็นนายกฯ ปากีสถาน แล้วถูกกองทัพเขี่ยลง

 

Imran Khan

ที่มาของภาพ, Getty Images

อิมราน ข่าน เป็นอดีตกัปตันทีมชาติคริกเก็ตของปากีสถานที่โด่งดังไปทั่วโลก ก่อนผันตัวมาเป็นนักการเมืองที่ได้ครองตำแหน่งผู้นำประเทศ และเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ถูกขับออกจากตำแหน่งจากการลงมติไม่ไว้วางใจในสภา

เขาได้รับเลือกตั้งเมื่อ ก.ค. 2018 จากคำมั่นที่จะปราบการทุจริตและแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ทว่าคำสัญญาเหล่านั้นกลับไม่เป็นจริงในขณะที่ประเทศมุสลิมที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกนั้นเผชิญกับวิกฤติการเงิน

หลังได้รับเลือกตั้งไม่ถึง 4 ปี เขาก็ถูกขับออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีโดยศัตรูทางการเมืองในรัฐสภา ขณะที่เศรษฐกิจกำลังตกต่ำ รายงานหลายแห่งระบุว่าตัวเขากลายเป็นบุคคลที่กองทัพที่ทรงอำนาจทางการเมืองมานานไม่โปรดปรานแล้ว

ในวัย 70 ปี นายข่านไม่แสดงท่าทีใดใดว่าต้องการที่จะยุติงานการเมือง กลับใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการพยายามเรียกระดมผู้สนับสนุนที่ไม่พอใจต่อการขับเขาออกจากตำแหน่ง เขายังมีคนให้การสนับสนุนอยู่จำนวนมาก ในคืนที่เขาถูกขับออกจากตำแหน่งผู้ประท้วงนับหมื่นในหลายเมืองทั่วประเทศออกมาตามท้องถนน

เมื่อ 3 พ.ย. เขาถูกยิงได้รับบาดเจ็บที่น่อง ขณะนำการเคลื่อนพลจากเมืองวาซีราบัดทางฝั่งตะวันออกของประเทศ ทีมงานของเขาบอกว่าเป็นความพยายามที่จะปลิดชีวิตเขา แต่ตำรวจยังไม่ยืนยันว่าเขาคือเป้าหมายของมือปืน

Opposition supporters celebrate outside the Supreme Court building after a court verdict in Islamabad on 7 April 2022

ที่มาของภาพ, Getty Images

เมื่อเดือน ต.ค. คณะกรรมการการเลือกตั้งก็ประกาศถอนสิทธิการดำรงตำแหน่งทางการเมืองของนายข่าน กล่าวหาเขาาว่าแจ้งรายการบัญชีทรัพย์สินไม่ถูกต้อง ไม่ระบุรายละเอียดของขวัญที่ได้รับจากแขกต่างประเทศที่มาเยือน รวมถึงรายได้จากการขายของที่ระลึกเหล่านั้น ที่รวมถึงนาฬิกาโรเล็กซ์ แหวน และกระดุมข้อมือเสื้อ

นายข่านบอกว่าคำวินิจฉัยนั้นเป็นเรื่องการเมือง แล้วเริ่มระดมพลผู้สนับสนุนนับพันคน ออกเดินเท้าทางไกล หรือ “ลองมาร์ช” เข้าสู่กรุงอิสลามาบัด เพื่อกดดันรัฐบาลให้จัดการเลือกตั้งก่อนกำหนด เขาตั้งเป้าที่จะเคลื่อนขบวนถึงนครหลวงในวันที่ 11 พ.ย.

“สถาบันอยู่ตรงข้ามกับเรา” ข่านกล่าวกับบีบีซีเมื่อวันอังคาร สถาบันที่เขาพูดถึง คือ คำที่ใช้ในบ่อยในการเมืองปากีสถานที่หมายถึง กองทัพ

ผู้นำการเปลี่ยนแปลง หมดอำนาจหลังทะเลาะกับกองทัพ

ก่อนหน้า นายข่านเคยตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกของประเทศที่สามารถดำรงตำแหน่งได้ครบสมัย 5 ปีในประเทศที่มีประวัติศาสตร์ที่เต็มไปด้วยการรัฐประหารและการแทรกแซงของกองทัพ

เขาได้รับเลือกตั้งให้เป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อ ก.ค. 2018 เป็นเลือดใหม่ที่เข้ามาแก้ไขปัญหาทุจริตและแก้เศรษฐกิจ เขาได้รับเสียงสนับสนุนจำนวนมากจากสาธารณชน เช่นเดียวกับการหนุนหลังอย่างลับ ๆ จากกองทัพ

ทว่าเสียงสนับสนุนของประชาชนเริ่มแผ่วลง ท่ามกลางเงินเฟ้อและหนี้ต่างประเทศที่พุ่งสูง ท่ามกลางเสียงครหาว่าเขาบริหารเศรษฐกิจผิดพลาด

ความสัมพันธ์ของเขากับกองทัพก็เปลี่ยนไป ซึ่งนักสังเกตุการณ์ทางการเมืองชี้ว่ามาจากการที่เขาปฏิเสธการแต่งตั้งหัวหน้าหน่วยข่าวกรองคนหนึ่งของกองทัพเมื่อ ต.ค. ปีที่แล้ว

คู่แข่งทางการเมืองของเขาเข้าคว้าโอกาสนี้ทันที นักการเมืองที่เคยภักดีพากันย้ายค่าย จนถึงเดือน มี.ค. ปีนี้ กลุ่มเขาสูญเสียการครองเสียงข้างมากในสภา

ส่วนฝ่ายค้านก็ยื่นญัตติไม่ไว้วางใจ แต่นายข่านก็สกัดแผนนี้โดยประกาศยุบสภาให้มีการเลือกตั้งใหม่ แต่ศาลฎีกาวินิจฉัยคำประกาศดังกล่าวขัดต่อรัฐธรรมนูญ

พอมาถึงเดือน เม.ย. เขาก็ถูกขับออกจากตำแหน่งหลังพ่ายการลงมติไม่ไว้วางใจของพรรคฝ่ายค้านเมื่อ 10 เม.ย. ที่ได้ไปถึง 174 เสียง จากทั้งหมด 342 เสียงในสภา

นายข่านอ้างโดยปราศจากหลักฐานว่าศัตรูทางการเมืองของเขาสมคบคิดกับสหรัฐอเมริกาเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เพราะว่านโยบายของเขาต่อเรื่องอัฟกานิสถาน รัสเซีย และจีน แต่รัฐบาลวอชิงตันออกมาปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2018 หลังได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง นายข่านที่เป็นขวัญใจประชาชนในขณะนั้นได้เสนอวิสัยทัศน์ “ปากีสถานใหม่”

เขาวางตัวเป็นนักปฏิรูปผู้ต่อต้านความยากจนและเคร่งครัดในศาสนาประกาศถึงความฝันที่จะสร้างรัฐอิสลามที่ดูแลประชาชน รวมถึงการปฏิรูปประเทศ ระบบภาษี และระบบราชการ

ทว่า เงินเฟ้อกลับพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และค่าเงินรูปีกลับตกรูด ประเทศเต็มไปด้วยหนี้สินสร้างความโกรธแค้น และเสียงวิจารณ์ว่าเขาบริหารประเทศผิดพลาด

เขาเคยให้คำมั่นว่าาจะไม่ไปขอความช่วยเหลือจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) แต่สุดท้ายก็ต้องไปต่อรองเพื่อขอเงิน 6 พันล้านเหรียญมาช่วยกู้วิกฤตหนี้ของประเทศ

อิมราน ข่านเป็นที่รู้จักดีในต่างประเทศมาเป็นเวลานาน แต่เขาก็ใช้ความพยายามอยู่หลายปีที่จะเปลี่ยนความยอดนิยมนี้ให้กลายเป็นคะแนนเสียง เขาก่อตั้งพรรค PTI หรือ “แนวร่วมเพื่อความยุติธรรม” ในปี 1996 แต่ไม่โดดเด่น จนกระทั่งการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อปี 2013 ที่กลายมาเป็นผู้เล่นสำคัญในระดับชาติ และ 5 ปีต่อมาเขาก็ได้ขึ้นสู่อำนาจ

พรรค PTI ของเขาสามารถเอาชนะคู่แข่งสำคัญจากตระกูลชารีฟ คือ เชห์บาซ ชารีฟ นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน และนาวาซ ชารีฟ อดีตนายกรัฐมนตรีในฐานคะแนนสำคัญ คือ แคว้นปัญจาบ ที่มีสมาชิกเกินครึ่งของจำนวนที่นั่งทั้งหมด 272 ที่นั่งในสภานิติบัญญัติแห่งชาติ

ในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งที่แล้ว อิมราน ข่าน มีภาพลักษณ์ว่าเป็นผู้สมัครที่นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลง เขาสัญญาว่าจะสร้างนักการเมืองรุ่นใหม่มือสะอาด ซึ่งถูกใจผู้ออกเสียงที่เบื่อหน่ายกับระบบการเมืองแบบเก่า

ขณะเดียวกัน เขาก็ถูกมองว่าเป็นผู้สมัครที่เป็นขวัญใจของกองทัพ แม้ทั้งสองฝ่ายปฏิเสธว่าไม่ได้ร่วมมือกันเพื่อสร้างกระแสลบต่อคู่แข่งทางการเมือง

นักสังเกตการณ์ทางการเมืองจำนวนมากเห็นพ้องว่าปัญหาใหญ่ที่สุดของอิมราน ข่าน ก็คือ เขาสูญเสียการสนับสนุนจากคนในกองทัพที่มีบทบาทสำคัญต่อการบริหารประเทศมาตั้งแต่ปากีสถานได้รับเอกราชในปี 1947

ผู้นำผู้นำพลเรือนในอดีตหลายคนที่พยายามแก้ปัญหารากเหง้าของประเทศ มักต้องเอาตัวไปปะทะกับ “สถาบัน”

ข่าน ผู้นำผู้นำพรรคพีดีไอพบว่าเขาไร้พันธมิตรทางการเมือง แม้ว่าพยายามที่จะทำการเมืองให้สะอาด โดยการกำจัดการเมืองแบบสืบสกุล แต่เขาก็ถูกกล่าวหาว่าสกัดคู่แข่งโดยสั่งจำคุกในข้อหาทุจริต ทำให้บรรดาศัตรูของเขาาหันมารวมตัวกันเพื่อกำจัดเขา

Pakistan's army Chief of Staff Gen Qamar Javed Bajwa (left) at a military parade in Islamabad. Photo: 23 March 2022

ที่มาของภาพ, Reuters

กลายเป็นนักวิจารณ์ปากกล้า

เขาไม่ยอมจากไปอย่างเงียบ ๆ

เขาออกมารณรงค์ต่อต้านกองทัพและรัฐบาล จัดปราศรัยด้วยถ้อยคำรุนแรงเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งใหม่

เมื่อเดือน ก.ค. พรรคพีทีไอของเขาก็สร้างความประหลาดใจให้กับคู่แข่งโดยได้รับเสียงข้างมากในสภานิติบัญญัติของแคว้นปัญจาบ มีชัยเหนือพรรคพีเอ็มแอล-เอ็น ของนายกรัฐมนตรี ชารีฟ ซึ่งคุมเสียงข้างมากในสภาระดับชาติ

หลายคนมองว่าพรรคของนายข่านจะคว้าเสียงข้างมากในสภาระดับประเทศด้วย หากมีการเลือกตั้งทั่วไประดับประเทศเร็วกว่ากำหนดเดิม

ขบวนของเขาประกอบด้วยมอเตอร์ไซค์แถวยาว รวมทั้งรถบรรทุกที่ปราศรัยฝูงชนอยู่บนหลังคารถขณะที่เขาเคลื่อนพลออกจากแคว้นปัญจาบ ซึ่งเป็นแคว้นที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ

“ในรอบ 6 เดือน ผมเห็นกับตาถึงการปฏิวัติที่กำลังจะเกิดในประเทศ” นายข่านทวีต

“คำถามเดียวที่เรามีก็คือ มันจะเกิดขึ้นอย่างละมุนละม่อมผ่านคูหาเลือกตั้งหรือจะเป็นอย่างทำลายล้างผ่านการนองเลือด”

Imran Khan in the 92 World Cup, 27 March 1992

ที่มาของภาพ, Fairfax via Getty Images

จากหนุ่มเพลย์บอย สู่นักปฏิรูปผู้เคร่งครัดหลักศาสนา

อิมราน ข่านเกิดเมื่อปี 1962 มีพ่อเป็นวิศวกรโยธา มีพี่สาว-น้องสาวอีก 4 คน เติบโต และเรียนหนังสือในย่านชนชั้นสูงในเมืองละฮอร์ ต่อมาเขาได้ไปเรียนที่มหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด

ทักษะด้านการเล่นคริกเก็ตของเขาโดดเด่นขึ้นมาเรื่อย ๆ จนได้แสดงฝีมือโดดเด่นในเวทีโลก เป็นเวลา 2 ทศวรรษ แล้วขึ้นสู่จุดสูงสุดเมื่อพาปากีสถานคว้าแชมป์โลกให้ในปี 1992

ในช่วงหนุ่ม ๆ เขาได้ฉายาว่าเพลย์บอยจากการตระเวนเที่ยวไนต์คลับในลอนดอน แต่เขาปฏิเสธว่าไม่เคยดื่มแอลกอฮอล์

หลังจากทีมปากีสถานคว้าแชมป์โลก เขาหันหลังให้วงการแล้วไปจัดกิจกรรมระดมทุนได้หลายล้านดอลลาร์ให้แก่โรงพยาบาลรักษามะเร็งแห่งหนึ่งเพื่อเป็นอนุสรณ์แก่แม่ของเขา

กิจกรรมนี้พาเขาเข้าสู่แวดวงของเศรษฐีผู้ใจบุญก่อนที่จะผันตัวไปสู่การเมือง

เมื่อปี 1995 ในวัย 43 ปีเขาแต่งงานกับเจมมินา โกลด์สมิทธิ์ ทายาทสาววัย 21 ปีของ เซอร์ เจมส์ โกลด์สมิทธิ์ มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดคนหนึ่งของโลก ชาวอังกฤษ ทั้งคู่มีบุตรชายด้วยกัน 2 คน แต่ชีวิตสมรสก็จบลงในปี 2004

นายข่านแต่งงานอีกครั้งในปี 2015 กับ รีฮัม ข่าน อดีตผู้รายงานพยากรณ์อากาศของบีบีซี แต่ชีวิตคู่ก็จบลงในเวลาไม่ถึงปี เธอบอกว่าสาเหตุมาจากผู้สนับสนุนเขาที่คอยกลั่นแกล้งเธอ

นายข่านแต่งงานเป็นครั้งที่ 3 กับสตรีนาม บุชรา วัตโต ที่มีลูกติดมาจากสามีคนก่อน เธอได้รับการขนานนามว่าเป็นที่ปรึกษาทางจิตวิญญาณให้แก่เขา ผู้สังเกตการณ์ทางการเมืองหลายคนบอกว่าคู่นี้เหมาะสมเป็นอย่างยิ่งที่จะแสดงให้สาธารณชนเห็นถึงการอุทิศตนของเขาต่ออิสลาม

Diana, Princess of Wales, is welcomed to Lahore by Imran and Jemima Khan in April 1996

ที่มาของภาพ, Getty Images

“ตาลีบัน ข่าน”

ในฐานะนักการเมือง นายข่านพยามแสดงให้เห็นทางสาธารณะว่าเค้าชื่นชมแนวคิดเสรีนิยมขณะเดียวกันเค้าก็พยายามแสดงให้เห็นเรื่องค่านิยมของอิสลาม ความรู้สึกต่อต้านโลกตะวันตก

ภายใต้รัฐบาลของเขา กลุ่มอิสลามที่นิยมความรุนแรงมีเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และพวกตีความศาสนาแบบสุดโต่งก็มีความเข้มแข็งขึ้น

เขาถูกวิจารณ์ว่าให้ความเห็นอกเห็นใจต่อกลุ่มตาลีบัน และได้รับสมญานามจากคู่แข่งทางการเมืองว่าเป็น “ตาลีบัน ข่าน”

เมื่อปี 2020 เขาถูกตรา มีเสียงต่อว่าอย่างรุนแรง หลังจากที่เขาเรียก โอซามา บิน ลาเดน ว่าเป็น “ผู้พลีชีพเพื่อศาสนา”

แม้ปากีสถานเป็นพันธมิตรที่ยาวนานของโลกตะวันตก แต่มักไม่ให้ความร่วมมือเท่าไรในสงครามต่อต้านการก่อการร้าย อีกทั้งยังกระชับสัมพันธ์กับจีนให้เข้มแข็งขึ้น ในการลงมติในที่ประชุมใหญ่ของสหประชาชาติเพื่อประณามรัสเซียที่ไปรุกรานยูเครน ปากีสถานกลับงดออกเสียง นอกจากนี้ ความสัมพันธ์ที่ตรึงเครียดกับอินเดีย ที่เป็นอริกันมานาน ก็ไม่ได้รับการพัฒนาใหดีขึ้น ในสมัยที่นายข่านเป็นนายกฯ

อย่างไรก็ตาม นายข่านสามารถชูความสำเร็จภายใต้การบริหารงานของเขาได้

ปากีสถานมีสถิติการบริหารจัดการวิกฤตโควิดได้ดีที่สุดในเอเชียใต้ มีความก้าวหน้ามากในการดำเนินโครงการขจัดความยากจน

การดำเนินการเรื่องระบบหลักประกันสุขภาพในสองมณฑลใหญ่นับเป็นความสำเร็จที่ชัดเจนมาก ที่อาจช่วยเขาได้มากในการเลือกตั้งทั่วไปที่กำหนดไว้ ปลายปี 2023 หรือ อาจเร็วกว่านั้น

นายข่านยืนยันว่าประชาชนยืนอยู่ข้างเขาขณะเป็นผู้นำการเดินขวนประท้วงเข้าไปยังกรุงอิสลามาบัด แล้วถูกลอบยิง

โปรดเปิดการใช้งาน JavaScript หรือบราวเซอร์ต่างออกไป เพื่ดูเนื้อหานี้

……

ข่าว บีบีซี ไทย ที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ ประชาชาติธุรกิจ เป็นความร่วมมือของสององค์กรข่าว