แฟนบอลชาวอิหร่านจำนวนมากคว่ำบาตรการแข่งขันฟุตบอลโลกที่กาตาร์ เพราะผิดหวังกับทีมชาติอิหร่านที่เอนเอียงเข้าข้างฝ่ายรัฐบาล
แฟนบอลเหล่านี้รู้สึกว่าฟุตบอลทีมชาติอิหร่านยังทำไม่มากพอในการสนับสนุนการประท้วงและวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลที่พวกเขามองว่าได้เข่นฆ่าประชาชนไปหลายร้อยชีวิต
แต่กลุ่มแฟนบอลชาวอิหร่านที่อาศัยอยู่ต่างแดนได้ตัดสินใจเดินทางไปชมการแข่งขันฟุตบอลโลกที่กาตาร์ เพื่อให้เปลวไฟการประท้วงได้ลุกโชติช่วงในสนามการแข่งขันแห่งนี้ต่อไป
- กาตาร์สกัดแฟนบอลหญิงประท้วงรัฐบาลอิหร่านในสนามฟุตบอลโลก
- คู่มือทำความเข้าใจง่าย ๆ เกิดอะไรขึ้นที่อิหร่าน
- ฟุตบอลโลกกาตาร์คือการแข่งขันที่จุดประเด็นการเมืองมากที่สุด ?
“ฉันดีใจที่ได้อยู่ที่นี่ และได้ทำสิ่งนี้ เพราะฉันได้เห็นความกลัวในแววตาของพวกเขา” ทารา (นามสมมุติ) แฟนบอลหญิงชาวอิหร่านกล่าว
เธอบอกกับบีบีซีว่า สนามแข่งบอลโลกครั้งนี้เต็มไปด้วยกลุ่มผู้สนับสนุนรัฐบาลอิหร่านซึ่งเดินทางมาเชียร์ทีมชาติที่ไปฟาดแข้งที่นี่
อามีร์ (นามสมมุติ) เป็นอีกคนที่เดินทางไปยังกรุงโดฮาพร้อมกับรานา (นามสมมุติ) ภรรยาของเขา
“ผมคิดว่ารัฐบาลอิหร่านไม่ต้องการให้ฝ่ายต่อต้านเดินทางมาชมมหกรรมบอลโลกครั้งนี้ เพื่อที่จะมีแต่คนที่สนับสนุนพวกเขาอยู่ที่นี่ [สนามแข่ง]” เขาบอก
ด้านรานาเสริมว่า “นี่ควรจะเป็นทริปฮันนีมูนของพวกเรา”
ทว่าการเข้าชมการแข่งขันครั้งนี้กลับกระตุ้นให้เธอเกิดความรู้สึกที่ขัดแย้งในใจ
“ฉันรู้สึกเหมือนฉันกำลังไว้ทุกข์ พี่น้องร่วมชาติของฉันล้มตาย แม้ฉันจะตื่นเต้นกับการมาที่นี่ และฉันสนุกไปกับเกมการแข่งขัน แต่ฉันก็ไม่มีความสุข” เธออธิบาย
“พวกเขาทำให้ทีมอยู่ฝั่งตรงข้ามเรา”
อิหร่านตกอยู่ในความวุ่นวายจากการประท้วงที่ขยายวงไปทั่วประเทศตั้งแต่เดือน ก.ย. ภายหลังหญิงสาววัย 22 ปีที่ชื่อ มาห์ซา อามินี เสียชีวิตในขณะที่ถูกควบคุมตัวโดยเจ้าหน้าที่ซึ่งรู้จักกันในนาม “ตำรวจศีลธรรม” เพราะถูกกล่าวหาว่าทำผิดกฎการสวมผ้าคลุมศีรษะที่เรียกว่าฮิญาบ
ชาวอิหร่านจำนวนมากต่างเฝ้าสงสัยว่าฟุตบอลทีมชาติอิหร่าน ซึ่งมีชื่อเล่นว่า “ทีมเมลลี” (Team Melli) จะยืนอยู่ฝ่ายผู้ประท้วงหรือฝ่ายรัฐบาล
ก่อนจะออกเดินทางไปแข่งขันที่กาตาร์ ทีมเมลลีได้เข้าพบกับประธานาธิบดีอิบราฮิม ไรซี และภาพดังกล่าวที่เผยแพร่ไปในโลกโซเชียลมีเดียได้สร้างความไม่พอใจให้ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลอิหร่านที่พากันตำหนิและเรียกร้องให้คว่ำบาตรทีม
“ทีมเมลลีเป็นของประชาชน ประชาชนผู้ไม่มีสิทธิมีเสียง” ทาราบอก “ทีมเมลลีเป็นสิ่งเดียวที่เชื่อมเราทุกคนไว้ด้วยกัน…แต่พวกเขา (รัฐบาล) ทำให้ทีมอยู่ฝั่งตรงข้ามเรา”
ในการแข่งขันนัดแรกทุกคนต่างลุ้นระลึก
รานาบอกว่า “อยากให้อิหร่านชนะ แต่ขณะเดียวกันก็รู้สึกว่านี่ไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง”
แต่การได้เห็นผู้หญิงสวมเสื้อยืด และทาเล็บที่มีข้อความว่า “สตรี ชีวิต และเสรีภาพ” ก็ทำให้กลุ่มผู้ประท้วงในสนามเกิดความฮึกเหิม
“มันเหมือนสโมสรลับ แต่ก็ไม่ลับขนาดนั้น” รานากล่าว “พวกเราส่งเสียงเชียร์กันและกัน”
ทีมชาติอิหร่านปฏิเสธที่จะร้องเพลงชาติในการแข่งขันนัดแรก
แต่แฟนบอลฝ่ายต่อต้านรัฐบาลทำให้คนทั้งโลกได้ยินพวกเขา โดยร้องตะโกนชื่อ “อาลี คาริมี” อดีตนักฟุตบอลที่กล้าวิพากษ์วิจารณ์ทางการอิหร่านอย่างเปิดเผย และเป็นนักเคลื่อนไหวที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดคนหนึ่ง
การแข่งขันนัดที่ 2
แต่บรรยากาศในการแข่งขันนัดที่ 2 ของทีมชาติอิหร่านแตกต่างจากนัดแรกมาก
แม้มีการตรวจความปลอดภัยอย่างเข้มงวดก่อนเข้าสนามแข่ง แต่ทารา อามีร์ และรานา สามารถลักลอบเอาอุปกรณ์ประท้วงเข้าไปได้
“มันน่ากลัวมาก คุณรู้สึกได้ว่ากำลังตกอยู่ท่ามกลางการคุกคาม” ทาราบรรยาย
คนทั้งสามเล่าให้บีบีซีฟังว่า รู้สึกได้ว่ามีฝ่ายสนับสนุนรัฐบาลอิหร่านเข้าไปชมการแข่งขันนัดนี้มากกว่านัดก่อน
“ทันทีที่พวกเราเริ่มตะโกนคำขวัญการประท้วง พวกที่อยู่แถวถัดไปก็เริ่มพูดว่า ‘คนอิหร่านผู้มีเกียรติ คนอิหร่านผู้มีความภาคภูมิใจ’ นี่คือคำขวัญที่พวกเขาใช้ในการปิดปากพวกเรา” ทาราเล่า
ผู้ประท้วงทั้งสามเล่าต่อว่าเห็นคนในสนามบางคนส่งสัญญาณบอกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้ยึดอุปกรณ์ประท้วงจากแฟนบอลในสนาม
เมื่อถามถึงความรู้สึกตอนที่ทีมชาติอิหร่านยิงประตูลูกแรกได้ในการดวลแข้งกับทีมชาติเวลส์
ทาราบอกว่า “พวกเราไม่ได้เชียร์กันมากมาย เพื่อน 3 คนและฉันโอบกอดกันและร้องไห้”
ไม่ปลอดภัย
กาตาร์และอิหร่านมีความสัมพันธ์ทางการทูตที่ดีต่อกันมายาวนานหลายปี
ในปี 2017 อิหร่านเป็นเพียงไม่กี่ประเทศในภูมิภาคที่สนับสนุนกาตาร์ในขณะที่ชาติอาหรับอื่น ๆ เช่น ซาอุดีอาระเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ประกาศตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับกาตาร์ โดยกล่าวหาว่าเป็นประเทศที่ทำลายเสถียรภาพในภูมิภาค ด้วยการสนับสนุนกลุ่มที่เรียกตัวเองว่ารัฐอิสลาม หรือไอเอส
ด้วยเหตุนี้ แฟนบอลชาวอิหร่านที่เป็นฝ่ายต่อต้านรัฐบาลจึงรู้สึกไม่ค่อยปลอดภัยในการแสดงความคิดเห็นของพวกเขาในศึกบอลโลกที่กาตาร์
ทาราบอกว่า “ฉันไม่รู้สึกปลอดภัยที่นี่ รู้สึกเหมือนมีพวกทางการอิหร่านจำนวนมากคอยตามคุกคาม”
แม้จะมีความเสี่ยง แต่ทารา รานา และอามีร์ ยังคงเข้าชมการแข่งขันนัดที่ 3 เพราะการมาที่นี่คือภารกิจของพวกเขา
“ฉันได้ยินว่าผู้สื่อข่าวบางคนไม่ได้รับการออกวีซ่ามาที่นี่ ดังนั้นพวกเราจึงมีความสำคัญมากขึ้น” รานากล่าว
“ตอนนี้พวกเราคือผู้สื่อข่าว” ทาราบอก
………..
ข่าว BBCไทย ที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ ประชาชาติธุรกิจ เป็นความร่วมมือของสององค์กรข่าว