
ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน เดินทางออกนอกประเทศเป็นครั้งแรก นับแต่สงครามปะทุขึ้นเมื่อเดือน ก.พ. 2565 และประเทศแรกที่เขาเลือกเดินทางเยือน คือ สหรัฐอเมริกา
ตลอด 10 เดือนที่ผ่านมา เซเลนสกีขึ้นปราศรัยต่อรัฐบาลและรัฐสภาของหลายประเทศมานับครั้งไม่ถ้วน แต่ล้วนเป็นการปราศรัยผ่านระบบเทเลคอนฟีเรนซ์ ด้วยภาพลักษณ์ผู้นำยูเครนนั่งอยู่ลำพัง ในห้องไร้หน้าต่าง และชุดสีเขียวมะกอกแบบทหาร ปราศรัยโดยไม่มีสคริปต์พูด
- เจาะลึกพฤติกรรม “Silver Age” สูงวัย ไม่เท่ากับ คนแก่
- เปิดพอร์ตห้างเซ็นทรัล-โรบินสัน 75 สาขา ในมือซีอีโอใหม่ “ณัฐธีรา บุญศรี”
- LINE ชี้แจงหลังทำข้อมูลผู้ใช้รั่วกว่า 4 แสนรายการ
ตอนนี้ เซเลนสกีเดินทางออกนอกยูเครนเป็นครั้งแรก สู่กรุงวอชิงตัน ดีซี และแม้เขาจะแต่งกายในชุดสีเขียวแบบทหารอย่างเดิม แต่เขาขึ้นปราศรัยต่อหน้าสมาชิกสภาคองเกรสของสหรัฐฯ ศูนย์กลางแห่งอำนาจ
ก่อนที่รัสเซียจะส่งทหารบุกยูเครน รัสเซียพยายามชักจูงชาวยูเครนให้เชื่อว่า สหรัฐฯ กำลังใช้ยูเครนเป็นหมากทางการเมืองโลก และท้ายสุด อเมริกาจะทอดทิ้งพวกเขา เหมือนกับที่ทำกับอัฟกานิสถาน
แต่ 10 เดือนที่ผ่านมา สหรัฐฯ มอบความช่วยเหลือให้ยูเครน คิดเป็นมูลค่ากว่า 65,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2,254,200 ล้านบาท) และเราได้เห็นภาพประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ และนายเซเลนสกี นั่งหารือกันในห้องรูปไข่ที่ทำเนียบขาว ด้วยท่าทียิ้มแย้มแจ่มใสและเป็นกันเอง
- ทำไมคนไต้หวันจึงยอมพลีชีพปกป้องยูเครน
- รัสเซีย ยูเครน : 300 วัน สงครามในยูเครน เกิดอะไรขึ้นบ้าง
- รัสเซีย ยูเครน : ประธานาธิบดีเซเลนสกี ระบุว่า รัสเซียอาจโจมตียูเครนอย่างหนักมากขึ้นอีก
ภาพเหล่านี้ เป็นการแสดงเชิงสัญลักษณ์ที่พิสูจน์ว่า คำกล่าวอ้างของรัสเซียนั้นไม่เป็นความจริง และสหรัฐฯ ยังไม่ทอดทิ้งยูเครน
พลังแห่งเอกภาพ
“ปีที่ผ่านมา เกิดความทุกข์ทรมานมหาศาล ชาวยูเครนต้องล้มตาย” ไบเดน กล่าวระหว่างการแถลงข่าวร่วมที่ทำเนียบขาว “แต่ผมอยากให้คุณรู้ไว้นะ ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ว่า ชาวอเมริกันยืนหยัดเคียงข้างคุณในทุกก้าวย่าง และเราจะอยู่กับคุณ”
นี่เป็นคำกล่าวที่ทรงพลัง แต่ในความเป็นจริงนั้น สถานการณ์ซับซ้อนกว่านั้น
เพราะพันธมิตรของสหรัฐฯ กำลังเผชิญกับฤดูหนาวที่ยาวนาน แต่ราคาพลังงานกลับพุ่งสูง ไม่นับผลพวงของสงครามต่อเศรษฐกิจ
ส่วนเสียงสนับสนุนของชาวอเมริกัน ต่อการส่งความช่วยเหลือไปยูเครนนั้น แม้จะยังถือว่าสูง แต่ก็บั่นทอนลดลงไปมาก เมื่อเทียบกับช่วงแรกของสงคราม
ผลสำรวจความคิดเห็นเมื่อไม่นานมานี้ แสดงให้เห้นว่า ชาวอเมริกันกว่า 1 ใน 3 ไม่สนับสนุนการที่สหรัฐฯ จะส่งความช่วยเหลือไปยูเครน และกว่าครึ่งต้องการให้ยูเครนเจรจาสันติภาพกับรัสเซีย “ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้”
การพบกันครั้งสำคัญระหว่างผู้นำสหรัฐฯ และผู้นำยูเครนในกรุงวอชิงตัน ดีซี เป็นการแสดงให้ประชาชนชาวยูเครนและอเมริกัน รวมถึงพันธมิตรชาติตะวันตก รวมถึงประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย และทั้งโลกว่า สหรัฐฯ ยังสนับสนุนยูเครนอย่างมุ่งมั่นและแข็งขัน
ตลอดการแถลงข่าวร่วม นายไบเดน และเซเลนสกี พยายามอธิบายว่าความช่วยเหลือของอเมริกันต่อยูเครน มีจุดประสงค์ที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระบุว่า การโจมตียูเครนของรัสเซีย เป็นการโจมตี “เสรีภาพและประชาธิปไตย และหลักอธิปไตยและบูรณภาพดินแดน” ซึ่งเป็นเหตุผลเพียงพอที่สหรัฐฯ ควรตอบโต้
ด้านนายเซเลนสกี ใช้ถ้อยคำเชิงจริงจังและขบขันบ้าง ระหว่างสนทนากับนายไบเดน และกล่าวต่อชาวอเมริกัน โดยเน้นการใช้ภาษาอังกฤษ เพื่อสื่อสารตรงถึงผู้ฟัง และเรียกการสนับสนุนยูเครนของสหรัฐฯ ว่าเป็น “การลงทุน” เพื่อสร้างเสริมความมั่นคงโลกให้เข้มแข็ง ซึ่งถือว่าเป็นการเลือกใช้คำที่น่าสนใจ และเป็นคำเดียวกันนี้ ก็กล่าวซ้ำอีกครั้งในสภาคองเกรส
ความหมายคือ ความช่วยเหลือของสหรัฐฯ ไม่ใช่ “การกุศล” แต่เป็นเงินที่ใช้เพื่อวัตถุประสงค์ยิ่งใหญ่ และจะได้รับผลตอบแทนกลับมาในอนาคต
หวังซื้อใจนักการเมืองสหรัฐฯ
อนาคตของ “การลงทุน” ของอเมริกันต่อยูเครน ไม่ได้อยู่ในเงื้อมมือของนายไบเดนเพียงคนเดียว เพราะแม้การพบปะกันระหว่างนายเซเลนสกีและประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ทำเนียบขาว จะเป็นโอกาสถ่ายภาพเชิงสัญลักษณ์ที่ทรงพลัง แต่งานที่แท้จริงของนายเซเลนสกี คือ การปราศรัยต่อสภาคองเกรส ต่อเหล่านักการเมืองที่เป็นผู้กุมบังเหียนเงินสนับสนุนทางทหารและเศรษฐกิจของสหรัฐฯ
ตลอดปีที่ผ่านมา สภาคองเกรสอนุมัติเงินราว 67,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในรูปแบบการช่วยเหลือทางเศรษฐกิจและทางทหารให้กับยูเครน และในแผนงบประมาณปี 2023 ของสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะผ่านร่างกฎหมายในสัปดาห์นี้ รัฐบาลสหรัฐฯ เสนอมอบความช่วยเหลือให้ยูเครนอีก 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
การรับประกันเงินช่วยเหลือให้ยูเครนสำหรับปี 2023 ถือว่าเป็นความท้าทายทั้งต่อนายไบเดนและเซเลนสกี
เพราะเมื่อเดือน พ.ค. 2022 สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรครีพับลิกัน 57 คน และวุฒิสมาชิก 11 ที่นั่ง ลงคะแนนคัดค้านการให้เงินช่วยเหลือดังกล่าว ไม่เพียงเท่านั้น ผลสำรวจความคิดเห็นชี้ว่า เสียงสนับสนุนการให้เงินช่วยเหลือยูเครนต่อจากฟากฝั่งผู้สนับสนุนพรรครีพับลิกันได้ลดลงอย่างมาก
ผลสำรวจเมื่อเดือน พ.ย. 2022 พบว่า ผู้สนับสนุนรีพับลิกันกว่าครึ่งยังสนับสนุนการส่งความช่วยเหลือไปยูเครน แต่ก็ถือว่าลดลงจาก 80% เมื่อเดือน มี.ค. 2022
นักการเมืองรีพับลิกันที่หาเสียงเลือกตั้งกลางเทอมเมื่อเดือนที่แล้ว แสดงความเห็นเชิงถกถามต่อการที่สหรัฐฯ ต้องทุ่มเงินมหาศาลให้กับประเทศที่แสนห่างไกล แทนที่จะเสริมความแข็งแกร่งให้พรมแดน และต่อสู้อาชญากรรมในประเทศตัวเอง
การเลือกตั้งกลางเทอม ทำให้สภาผู้แทนราษฎร มีสมาชิกใหม่ 86 คน และวุฒิสภามีสภาชิกใหม่ 7 คน ดังนั้น คำปราศรัยของนายเซเลนสกี อาจมองได้ว่าเป็นการนำเสนอและจูงใจนักการเมืองเหล่านี้ เพื่อระดมเสียงสนับสนุน ให้ผ่านร่างงบประมาณสนับสนุนยูเครน
“เรามียุทโธปกรณ์ แต่นั่นมันเพียงพอหรือ ไม่เลย” เซเลนสกี กล่าว “การจะทำให้กองทัพรัสเซียถอนทัพออกไป เราต้องการปืนและกระสุนมากกว่านี้อีก”
ประธานาธิบดียูเครนปิดการปราศรัย โดยมอบธงชาติยูเครนที่เหล่าทหารผู้พิทักษ์เมืองด่านหน้าของยูเครน ร่วมกันลงชื่อ ให้กับสภาคองเกรสสหรัฐฯ
………
ข่าว BBCไทย ที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ ประชาชาติธุรกิจ เป็นความร่วมมือของสององค์กรข่าว