นักวิทยาศาสตร์คนดังของจีนเปิดเผยว่า ประชากรจีน 8 ใน 10 คนของจีนแผ่นดินใหญ่ ล้วนเคยติดเชื้อโควิด-19 มาแล้ว
หวู ซุนโหยว หัวหน้านักระบาดวิทยาของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของจีน เปิดเผยเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงเริ่มเทศกาลตรุษจีน ว่า ปัจจุบัน “การแพร่ระบาดของโควิดทำให้ประชาชนกว่า 80% ติดเชื้อเป็นที่เรียบร้อย”
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- กีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เสียชีวิต อายุ 56 ปี
คำกล่าวของเขาเกิดขึ้นในช่วงที่เกิดความกังวลถึงการที่ชาวจีนจำนวนมหาศาลจะเดินทางกลับภูมิลำเนา และท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศในช่วงเทศกาลตรุษจีน และอาจทำให้โควิดแพร่ระบาดไปมากขึ้นอีก
อย่างไรก็ดี หวู โพสต์ในบัญชีสังคมออนไลน์ส่วนตัวว่า สถานการณ์ที่วิตกกันนั้น ไม่น่าเป็นไปได้ เพราะประชากรส่วนใหญ่ของประเทศล้วนเคยติดโรคโควิด-19 มาแล้ว
“แม้ประชาชนจำนวนมากจะเดินทางในช่วงเทศกาลตรุษจีน และอาจทำให้การระบาดขยายวงกว้างขึ้น… แต่การระบาดระลอกปัจจุบัน ได้ทำให้ประชาชนกว่า 80% ติดโควิดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว” หวู ระบุ
- เที่ยวแบบ VVIP : ปมจ้างตำรวจไทยนำขบวน นทท. จีน สะท้อนภาพปราบโกงล้มเหลวหรือไม่
- “ทัวร์ศูนย์เหรียญ” จะกลับมาภูเก็ตไหม หลังจีนเปิดประเทศ
- ภาพเศรษฐกิจไทยจะเป็นอย่างไร หลังนักท่องเที่ยวจีนแห่กลับมา
“ในอีก 2-3 เดือน โอกาสที่โควิดจะพุ่งกลับมาสูงขึ้นอีก หรือเกิดโควิดระบาดระลอกสองนั้น มีน้อยมาก”
กระทรวงคมนาคมของจีนคาดการณ์ว่า จะมีประชาชนเดินทางมากกว่า 2 พันล้านคน ในช่วงเทศกาลตรุษจีนนาน 40 วัน ซึ่งปีนี้ถือเป็นปีแรกที่ประชาชนจะเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวได้ โดยไม่มีมาตรการควบคุมโรคโควิด-19
สถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีของรัฐบาลจีนรายงานเมื่อวานนี้ (22 ม.ค.) ว่า ประชาชนเดินทางในในช่วงหนึ่งวันก่อนเข้าสู่ตรุษจีนมากถึง 26 ล้านคน ซึ่งถือว่าสูงขึ้นมาก แต่ยังถือว่าน้อยกว่าช่วงก่อนโควิดในปี 2019 กว่าครึ่ง โดยแบ่งเป็นการเดินทางด้วยรถไฟ 4.1 ล้านคน และทางอากาศ 756,000 คน ที่เหลือเป็นการเดินทางถนนกว่า 20 ล้านคน
ก่อนหน้านี้ ผลการวิจัยของสถาบันพัฒนาแห่งชาติ มหาวิทยาลัยกรุงปักกิ่ง ระบุว่า ประชากรกว่า 900 ล้านคน หรือกว่า 64% ของประชากร “มีแนวโน้มสูง” ที่จะติดโควิดแล้ว จนถึงวันที่ 11 ม.ค. 2023
ทางมหาวิทยาลัยยังระบุว่า สถานการณ์ระบาดของโควิดในจีนได้ถึงจุดพีคไปแล้วเมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 2022 หรือ 13 วัน หลังจีนผ่อนปรนมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ส่งผลให้จนถึงปลายปี 2022 การแพร่ระบาดของโรคโควิดได้ขยายตัวไปทั่วประเทศเป็นที่เรียบร้อย
ระหว่างวันที่ 13-19 ม.ค. รัฐบาลจีนรายงานผู้เสียชีวิตจากโควิดเกือบ 13,000 คน ขณะที่ช่วงเดือน ธ.ค. เดือนเดียว มีผู้เสียชีวิตในโรงพยาบาลเกือบ 60,000 คน อย่างไรก็ดี ตัวเลขเหล่านี้ ยังไม่รวมประชาชนที่เสียชีวิตที่บ้าน ทำให้องค์การสหประชาชาติ และรัฐบาลหลายประเทศเชื่อว่า ผู้เสียชีวิตที่แท้จริงของจีน จะสูงกว่านี้อีกมาก
แอร์ฟินิตี บริษัทประเมินด้านสาธารณสุขอิสระ ได้ประเมินว่า ผู้เสียชีวิตจากโควิดที่แท้จริงในจีน จะพุ่งถึงจุดสูงสุด คือ 36,000 คนต่อวัน ในช่วงเทศกาลตรุษจีน ไม่เพียงเท่านั้น ยังระบุว่า จีนมีผู้เสียชีวิตจากโรคโควิดแล้วกว่า 600,000 คน นับแต่รัฐบาลจีนยกเลิกนโยบายโควิดเป็นศูนย์
และนี่คือผลการคาดการณ์สถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ในจีนของ แอร์ฟินิตี ที่จะเกิดในช่วงเทศกาลตรุษจีน
- ผู้ติดเชื้อรายวัน: 4.8 ล้านคน (ระหว่างวันที่ 13-27 ม.ค.)
- ผู้เสียชีวิตรายวัน: 36,000 คนต่อวัน (ภายในวันที่ 26 ม.ค.)
- ผู้ติดเชื้อสะสมนับแต่วันที่ 1 ธ.ค. 2022 : 99.5 ล้านคน (ข้อมูล ณ วันที่ 17 ม.ค. 2023)
- ผู้เสียชีวิตสะสมนับแต่วันที่ 1 ธ.ค. 2022 : 708,000 คน
ไทยเตรียมรับกรุ๊ปทัวร์จีน
ทว่า สถานการณ์โควิดในจีนที่ยังถือว่าน่าวิตก ไม่ได้ทำให้รัฐบาลจีนชะลอแผน เพื่อตอบสนองความต้องการเดินทางท่องเที่ยวในต่างประเทศของชาวจีนในช่วงตรุษจีน เพราะล่าสุด ได้อนุมัติให้กรุ๊ปทัวร์นำชาวจีนเดินทางไปต่างประเทศได้แล้ว 20 ประเทศแรก รวมถึงไทย
เมื่อวันที่ 20 ม.ค. กระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว สาธารณรัฐประชาชนจีน ได้ออกประกาศเกี่ยวกับการอนุญาตให้บริษัทนำเที่ยวเริ่มดำเนินการนำร่องการท่องเที่ยวแบบหมู่คณะ หรือ กรุ๊ปทัวร์ สำหรับชาวจีนไปยังประเทศที่เกี่ยวข้องได้ตั้งแต่วันที่ 6 ก.พ. เป็นต้นไป
บริษัทตัวแทนท่องเที่ยวระดับประเทศและบริษัทท่องเที่ยวออนไลน์ (OTA) สามารถเตรียมการสำหรับการเผยแพร่ผลิตภัณฑ์ การประชาสัมพันธ์และการส่งเสริมการขาย เพื่อให้บริการกรุ๊ปทัวร์ขาออก รวมทั้งตั๋วเครื่องบินและโรงแรม
สำหรับ 20 ประเทศที่จีนเปิดให้กรุ๊ปทัวร์เดินทางท่องเที่ยวได้แล้ว ประกอบด้วย ไทย, อินโดนีเซีย, กัมพูชา, มัลดีฟส์, ศรีลังกา, ฟิลิปปินส์, มาเลเซีย, สิงคโปร์, ลาว, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, อียิปต์, เคนยา, แอฟริกาใต้, รัสเซีย, สวิตเซอร์แลนด์, ฮังการี, นิวซีแลนด์, ฟิจิ, คิวบา, และ อาร์เจนตินา
การอนุมัติกรุ๊ปทัวร์นี้ มีจุดประสงค์เพื่อส่งเสริมการฟื้นตัวและการพัฒนาของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว พร้อมทั้งแนะนำบริษัทนำเที่ยวให้ปฏิบัติตามข้อกำหนดการป้องกันการแพร่ระบาดอย่างเคร่งครัดของรัฐบาลจีนและประเทศปลายทาง
จากประกาศดังกล่าว จะส่งผลให้การเดินทางของนักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทยจะเป็นการทยอยการเดินทางเข้าไทยในแบบกรุ๊ปทัวร์ได้แล้ว จากก่อนหน้าที่เป็นกลุ่มที่เดินทางท่องเที่ยวด้วยตัวเองเป็นส่วนใหญ่
ขณะที่ประเทศคู่แข่งด้านการท่องเที่ยวของไทยในตลาดจีน อย่าง เกาหลีใต้, ญี่ปุ่น, และ เวียดนาม ยังไม่อยู่ในบัญชีรายชื่อที่จีนอนุญาตให้กรุ๊ปทัวร์เดินทางท่องเที่ยวได้ในประกาศนี้
ข่าว BBCไทย ที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ ประชาชาติธุรกิจ เป็นความร่วมมือของสององค์กรข่าว