บิล เกตส์ เผยเลือกใช้เงินซื้อวัคซีน ดีกว่าใช้เดินทางไปดาวอังคาร

 

บิล เกตส์

BBC

มหาเศรษฐี บิล เกตส์ เผยว่าเขาเลือกใช้จ่ายเงินซื้อวัคซีนให้คนยากไร้ใช้ต่อสู้โรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ มากกว่าการเอาไปใช้เดินทางสู่ดาวอังคาร ซึ่งเขาคิดว่าไม่ใช่การใช้เงินที่เป็นประโยชน์นัก

ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟท์ให้สัมภาษณ์พิเศษกับบีบีซีว่า “มันค่อนข้างแพงทีเดียวในการเดินทางไปดาวอังคาร คุณสามารถเอาเงินไปซื้อวัคซีนป้องกันโรคหัด และช่วยรักษาชีวิตคนได้ในราคา 1,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อ 1 ชีวิต”

“ดังนั้นมันจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้คุณคิดว่า-ไม่ต้องไปดาวอังคาร”

มหาเศรษฐีชื่อดัง อีลอน มัสก์ บอกว่าอยากไปตั้งอาณานิคมบนดาวอังคาร ขณะที่เจฟฟ์ เบซอส ก็เข้าร่วม “การแข่งขันสู่อวกาศ” ด้วย

สเปซเอ็กซ์ บริษัทผลิตจรวจที่ก่อตั้งขึ้นโดยนายมัสก์ในปี 2002 มีเป้าหมายสำคัญในการส่งมนุษย์ไปดาวอังคาร และเข้าไปตั้งถิ่นฐานบนดาวเคราะห์สีแดงดวงนี้

ส่วนนายเบซอส ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์แอมะซอน ก็ตั้งบริษัทบลูออริจิน และเคยเดินทางท่องอวกาศมาแล้วในปี 2021 ขณะที่เซอร์ ริชาร์ด แบรนสัน มหาเศรษฐีชาวอังกฤษก็เคยเดินทางขึ้นสู่อวกาศไปกับจรวดเวอร์จินกาแล็กติก

นายเกตส์เชื่อว่า เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ จะนำความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่มาสู่มนุษยชาติ

“มันจะช่วยเราในการศึกษาเรื่องต่าง ๆ ด้านการแพทย์และวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่แค่หุ่นยนต์ แต่ยังช่วยเราในเรื่องการอ่านและการเขียนด้วย” เขากล่าว

“อันที่จริง มีความก้าวหน้ามากกว่าในแง่ของหุ่นยนต์ แต่พวกมันจะช่วยให้เรามีประสิทธิภาพสูงขึ้น”

“ปิศาจชั่วร้าย”

ในบทสัมภาษณ์นี้ นายเกตส์ยังพูดถึงความประหลาดใจที่ตัวเองถูกโยงไปสู่ทฤษฎีสมคบคิดต่าง ๆ ในช่วงการระบาดของโควิด-19

“ผมคาดไม่ถึงเลย” เขาพูดถึงการที่มีผู้กล่าวหาว่าเขาได้รับผลประโยชน์จากการระบาดของโควิด หรือเป็นผู้อยู่เบื้องหลังโรคระบาดนี้

“ในช่วงเกิดโรคระบาดใหญ่ มีข้อความหลายสิบล้านข้อความที่บอกว่าผมจงใจให้เกิดโรคระบาด หรือผมติดตามสอดส่งผู้คน มันเป็นเรื่องจริงที่ผมมีส่วนเรื่องวัคซีน แต่ผมเกี่ยวข้องกับวัคซีนที่ช่วยปกป้องชีวิตผู้คน”

“ข้อความเหล่านี้ทำให้ข้อเท็จจริงกลับตาลปัตร ผมเดาว่าผู้คนพยายามมองหา “ปิศาจชั่วร้าย” ที่แอบอยู่หลังผ้าม่าน…การให้ร้ายมันง่ายกว่าการทำความเข้าใจเรื่องทางชีวิวิทยามาก”

นอกจากนี้ ผู้ร่วมก่อตั้งไมโครซอฟท์ยังเปิดใจเรื่องที่เขาเคยพบกับนายเจฟฟรีย์ เอปสตีน อดีตผู้กระทำผิดคดีทางเพศ เช่นเดียวกับมหาเศรษฐีใจบุญคนอื่น ๆ

“ตอนนี้ผมระวังตัวมากขึ้นกว่าแต่ก่อน ผมจะตรวจสอบมากขึ้น ผมอาจทำผิดพลาดซ้ำอีก เพราะผมต้องออกพบปะผู้คน และไม่พยายามปลีกตัวจากสังคม”

“ตามมาตรฐานของย่าผม ผมคือคนบ้า”

นายเกตส์ ซึ่งใช้เวลาส่วนใหญ่ในชีวิตในฐานะบุคคลร่ำรวยที่สุดในโลก ได้บริจาคเงินหลายหมื่นล้านปอนด์เพื่อการกุศล ซึ่งบ่อยครั้งมักมุ่งเป้าพัฒนาธารณสุขโลก โดยเฉพาะโครงการเกี่ยวกับเด็กและเยาวชน

ปัจจุบันเขาแบ่งเวลาระหว่างการทำงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กับการขจัดปัญหาทุพโภชนาการ และโรคภัยต่าง ๆ เช่น โปลิโอ และมาลาเรีย

เมื่อถูกถามว่าเขาเป็นคนมัธยัสถ์ในชีวิตส่วนตัวหรือไม่ นายเกตส์ตอบว่า “ผมไม่ได้มีตู้เสื้อผ้ามหึมา ผมไม่ได้สวมเครื่องประดับ เวลาแกะของขวัญผมไม่ได้เก็บกระดาษห่อมาพับไว้ใช้ซ้ำอีก ย่าของผมไม่เคยทิ้งถุงกระดาษหรือเชือกจากห่อสิ้นค้าเลยในชีวิตท่าน ดังนั้น ตามมาตรฐานของท่าน ผมคือคนบ้า”

นายเกตส์ หย่าขาดจาก เมลินดา ภรรยา เมื่อเดือน พ.ค. 2021 และเมื่อถามว่าเขาอยากพบเจอกับความรักอีกครั้งหรือไม่ เจ้าตัวตอบว่า “แน่นอนครับ ผมไม่ใช่หุ่นยนต์”

ข่าว บีบีซี ไทย ที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ ประชาชาติธุรกิจ เป็นความร่วมมือของสององค์กรข่าว