
นักเรียนชั้นประถมศึกษาวัย 9-12 ปี จากโรงเรียนเซนต์บราเธอร์อองเดรในกรุงออตตาวาของประเทศแคนาดา ร่วมกันออกแบบการทดลองทางวิทยาศาสตร์ที่ทำให้ค้นพบว่า ยาแก้แพ้ “เอพิเพ็น” (EpiPen) จะมีความเป็นพิษรุนแรงหากถูกนำไปใช้ในห้วงอวกาศ
เอพิเพ็น (EpiPen) คือชื่อการค้าของยาเอพิเนฟรีน (Epinephrine) ซึ่งก็คือฮอร์โมนอะดรีนาลีนที่บรรจุในกระบอกฉีดรูปทรงคล้ายปากกา โดยจะใช้ฉีดเข้าร่างกายเพื่อรักษาอาการแพ้รุนแรงในกรณีฉุกเฉิน
- บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เริ่มใช้ 1 เม.ย.66 รับเงินคนละกี่บาทต่อเดือน เช็กที่นี่
- กรมอุตุนิยมวิทยาเตือน 28 จังหวัด พายุฤดูร้อนถล่ม-ฟ้าผ่า-ลูกเห็บตก
- โปรดเกล้าฯ ให้ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา กลับเข้าดำรงตำแหน่ง รอง ผบ.ตร.
- เมนซาพบ “อัจฉริยะจิ๋ว” ฝึกอ่านออกเสียงด้วยตนเองตั้งแต่ 2 ขวบ
- เด็กอัจฉริยะวัย 13 ปี เรียนจบป.ตรีสาขาฟิสิกส์ที่สหรัฐฯ
- เด็กหญิง 8 ขวบจากบราซิล ขึ้นแท่นนักดาราศาสตร์อายุน้อยที่สุดในโลก
การทดลองดังกล่าวซึ่งได้รับการสนับสนุนจากองค์การนาซาของสหรัฐฯ เกิดจากการตั้งคำถามของเด็ก ๆ ในชั้นเรียนโครงการส่งเสริมผู้มีความเป็นเลิศทางปัญญา (Program for Gifted Learners – PGL) ว่ารังสีคอสมิกในห้วงอวกาศจะส่งผลให้ยาเอพิเพ็นที่เด็กจำนวนไม่น้อยใช้กันอยู่ ต้องกลายสภาพหรือเสื่อมประสิทธิภาพในการรักษาไปหรือไม่
มีการทดลองยิงจรวดและปล่อยบอลลูนลมร้อน เพื่อนำยาเอพิเพ็นส่งขึ้นสู่ห้วงอวกาศ โดยยาจะถูกบรรจุในกล่องทรงลูกบาศก์ขนาดเล็กตามโครงการ Cubes in Space ซึ่งเปิดโอกาสให้เด็กนักเรียนจากทั่วโลกทำการทดลองทางวิทยาศาสตร์ที่ความสูงเหนือชั้นบรรยากาศโลกได้
ด้วยความช่วยเหลือจากบุคลากรของคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยออตตาวา ตัวอย่างยาเอพิเพ็นที่ถูกส่งขึ้นสู่ห้วงอวกาศและกลับลงมายังพื้นโลก ได้รับการวิเคราะห์ทางเคมีจนพบว่า ยาเอพิเพ็นที่สัมผัสกับรังสีอันตรายในห้วงอวกาศแล้ว จะไม่สามารถใช้รักษาอาการแพ้สารต่าง ๆ ได้อีกต่อไป

ศาสตราจารย์พอล เมเยอร์ จากคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยออตตาวา เผยถึงผลการทดลองว่า “เราพบสัญญาณของความเปลี่ยนแปลงบางอย่างที่บ่งชี้ว่า ยาเอพิเนฟรีนในเอพิเพ็นได้ทำปฏิกิริยากับรังสีในห้วงอวกาศจนเกิดการสลายตัว ทำให้ยามีความบริสุทธิ์เหลืออยู่เพียง 87% เท่านั้น”
“ส่วนยาอีก 13% ได้กลายสภาพเป็นสารอันตราย ซึ่งก็คืออนุพันธ์ของกรดเบนโซอิก (benzoic acid derivatives) ที่มีความเป็นพิษต่อร่างกายมนุษย์ในระดับสูงอย่างยิ่ง”
“อันที่จริงเราสามารถพูดได้ว่า ไม่มียาเอพิเนฟรีนที่มีประสิทธิภาพในการรักษาหลงเหลืออยู่เลย หลังจากที่มันสัมผัสกับรังสีในห้วงอวกาศแล้ว” ศ. เมเยอร์กล่าว
เด็กหญิงฮันนาห์ ทอมสัน นักเรียนชั้นประถมศึกษาผู้หนึ่งที่ร่วมออกแบบการทดลองดังกล่าวบอกว่า “มันเจ๋งมากเลย…แม้กระทั่งนาซาก็ยังไม่เคยรู้ถึงเรื่องนี้มาก่อน”
บรรดานักเรียนที่ร่วมกันออกแบบการทดลองในครั้งนี้ จะนำเสนอผลการทดลองต่อนาซาอย่างเป็นทางการในเดือนมิถุนายน แต่ในระหว่างนี้พวกเขากำลังออกแบบแคปซูลที่จะใช้เก็บรักษายาเอพิเพ็นให้พ้นจากรังสีคอสมิก ซึ่งจะไม่ทำให้ยากลายเป็นพิษในห้วงอวกาศอีก
หมายเหตุ : ข่าว บีบีซี ไทย ที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ประชาชาติธุรกิจ เป็นความร่วมมือของสององค์กรข่าว