บีบีซี กับ แกรี ลินิเกอร์ : นโยบายไม่เลือกข้าง vs เสรีภาพในการแสดงความเห็น

PA Media แกรี ลินิเกอร์ ถูกสถานีถอดออกจากรายการโทรทัศน์ยอดนิยม เนื่องจากทำผิดต่อนโยบายขององค์กร เรื่องไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด

ผลลัพธ์ที่ออกมาไม่ใช่สิ่งที่บีบีซีอยากเห็น

หนึ่งในพิธีกรที่มีชื่อเสียงและเป็นที่ชื่นชอบมากที่สุดถูกถอดออกจากรายการ และดูเหมือนว่าจะอยู่ท่ามกลางความขัดแย้ง ที่ทั้งสองฝ่ายยังไม่เห็นทางออกที่ชัดเจน

การยืนกรานในนโยบายไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด (impartiality) เป็นบททดสอบราคาแพงที่บีบีซีกำลังเผชิญ และการทำเช่นนี้ ได้เผยให้เห็นถึงช่องโหว่อื่น ๆ ในกระบวนการปฏิบัติตามนโยบายนี้

อันดับแรก อดีตนักฟุตบอลชื่อดังที่ผลัดกันมาร่วมบรรยายและวิเคราะห์การแข่งขันพรีเมียร์ลีก ได้ถอนตัวจากรายการ Match of the Day หรือ MOTD ที่ออกอากาศทุกคืนวันเสาร์ เพื่อแสดงพลังสนับสนุนแกรี ลินิเกอร์ หลังจากที่เขาถูกบีบีซีถอดออกจากการเป็นพิธีกรหลัก

เอียน ไรท์ และอลัน เชียเรอร์ ประกาศถอนตัวจากรายการในสุดสัปดาห์นี้ โดยเจอร์เมน เจนาส และไมกาห์ ริชาร์ดส์ ยังโพสต์ด้วยว่า หากพวกเขามีคิวต้องเข้าร่วมรายการ พวกเขาก็คงจะปฏิเสธเช่นกัน

นอกจากนี้ อเล็กซ์ สก็อตต์ อดีตนักฟุตบอลหญิงของ อาร์เซนอล และทีมชาติอังกฤษ ยังทวีตบอกเป็นนัยว่าเธอจะไม่มาเป็นพิธีกรของรายการแทนแกรี ลินิเกอร์

มาถึงตอนนี้ MOTD แถลงว่าจะออกอากาศรายการที่เน้นช่วงไฮไลต์ โดยไม่มีถ้อยคำบรรยายของนักวิจารณ์ชั้นนำ ซึ่งเป็นภาวะที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น

Ian Wright and Alan Shearer

Getty Images
อลัน เชียเรอร์ และ เอียน ไรท์ ประกาศถอนตัวจากรายการในสุดสัปดาห์นี้

ใครจะคาดเดาได้ว่านโยบายใหม่ของรัฐบาลเรื่องผู้ลี้ภัย และภาษาซึ่งแกรี่ ลินิเกอร์ ใช้วิจารณ์อย่างหนักในทวีตของเขา จะลงเอยด้วยการลดคุณภาพของรายการฟุตบอลยอดนิยมของบีบีซี ลงเหลือเท่านี้

การไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดเป็นหัวใจของยุทธศาสตร์ของทิม เดวี ผู้อำนวยการใหญ่ ในการขับเคลื่อนองค์กร ดังที่เขาได้ประกาศไว้หลายครั้ง

บางคนโต้แย้งว่าการชูเรื่องการไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดเป็นการตอบสนองต่อแรงกดดันจากรัฐบาลพรรคคอนเซอร์เวทีฟ

แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเดวียืนยันเสมอว่าเขาเชื่ออย่างแท้จริงในเรื่องความไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดเพื่อสร้างความมั่นใจว่า บีบีซี ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจากผู้ชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตมีโทรทัศน์รายปีนั้น เป็นองค์กรสำหรับทุกคน

พนักงานและผู้ประกาศจะถูกขอให้ทิ้งความเห็นส่วนตัวไว้หน้าประตูตึกก่อนเข้ามาทำงาน แต่ก็มีความแตกต่างกันเล็กน้อยในประเด็นนี้สำหรับพนักงานแต่ละประเภท

ในแถลงการณ์เมื่อวันศุกร์ที่ 10 มี.ค. บีบีซีกล่าวว่า “เราไม่เคยพูดว่าแกรีควรเป็นเขตปลอดความคิดเห็น”

Tim Davie

Getty Images
ทิม เดวี ผู้อำนวยการใหญ่ของบีบีซีประกาศไว้หลายครั้งว่า การไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดเป็นหัวใจของยุทธศาสตร์ของบีบีซี ในการขับเคลื่อนองค์กร

แกรี ลินิเกอร์ เป็นพิธีกรกีฬา ไม่ใช่พิธีกรการเมืองหรือนักข่าว แต่หน่วยรับเรื่องร้องเรียนของบีบีซีเคยมีคำวินิจฉัยว่า แม้เขาไม่จำเป็นต้องรักษามาตรฐานความเป็นกลางแบบเดียวกับนักข่าวของบีบีซี แต่เขาต้องมี “ความรับผิดชอบเพิ่มเติม” เนื่องจากชื่อเสียงและบทบาทของเขา

“เราคาดหวังให้บุคคลเหล่านี้หลีกเลี่ยงการเลือกข้างประเด็นทางการเมือง หรือประเด็นทางการเมืองที่มีข้อโต้เถียงกัน และระมัดระวังเมื่อกล่าวถึงประเด็นนโยบายสาธารณะ” คำวินิจฉัยว่าไว้

หลังวินิจฉัยว่า “กิจกรรมบนโซเชียลมีเดียล่าสุดของแกรี ลินิเกอร์เป็นการฝ่าฝืนแนวปฏิบัติของเรา” และตัดสินใจถอดเขาออกจากรายการ บีบีซีเปิดช่องให้ถูกวิจารณ์ว่าจับประเด็นผิดในการถกเถียงเรื่องเสรีภาพในการพูด

นี่เป็นอีกเรื่องที่น่าปวดหัว นอกเหนือจากชะตากรรมของรายการ Match of the Day

นักวิจารณ์ถามว่า เรากำลังต้องการบอกแบบนี้ใช่ไหมว่า คนที่ไม่ใช่นักข่าว แต่ปรากฏตัวทางบีบีซีในบทบาทอื่น ไม่สามารถทวีตความคิดเห็นเกี่ยวกับการเมืองในฐานะส่วนตัวได้หรือ พวกเขาถามต่อว่า แล้วมันจะจบลงที่ไหน

เราจะห้ามไม่ให้พิธีกรเกมโชว์มีความเห็นต่อนโยบายของรัฐบาลเลยหรือ หรือถ้าเป็นนักแสดงในละครยอดนิยม หรือ ถ้าเป็นดาวตลกละ

ที่น่าสงสัยยิ่งกว่านั้นก็คือ พวกเขาถามว่าจริง ๆ แล้ว นี่เป็นเรื่องของคนที่มีความเห็นต่างจากรัฐบาล ในขณะนั้นหรือไม่

และในขณะที่มาตรฐานของบีบีซีเรื่องสิทธิเสรีภาพในการพูดกำลังถูกตั้งคำถาม บีบีซียังถูกกล่าวหาว่าสองมาตรฐาน ยอมก้มหัวให้แรงกดดันทางการเมืองในขณะนี้ ในยามที่ประธานกรรมการขององค์กร ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับพรรคคอนเซอร์เวทีฟ ยังคงดำรงอยู่ในตำแหน่งท่ามกลางเสียงวิจารณ์และเรียกร้องให้ลาออก

ริชาร์ด ชาร์ป ประธานกรรมการบีบีซี ถูกวิจารณ์ว่าช่วยอำนวยความสะดวกในการหาเงินกู้ให้บอริส จอห์นสัน เมื่อเขาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และไม่ได้เปิดเผยเรื่องนี้ว่าอาจเป็นเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน ในขณะที่ชาร์ปอยู่ระหว่างกระบวนการพิจารณาแต่งตั้งให้เขาดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบีบีซี

ก่อนหน้านี้นายชาร์ปยอมรับว่าเรื่องนี้สร้างความอับอายให้กับบีบีซี แต่ยืนยันว่าเขา “ดำเนินการโดยสุจริตเพื่อให้แน่ใจว่าปฏิบัติตามกฎ”

ลูซี พาวเวลล์ รัฐมนตรีเงาด้านวัฒนธรรม จากพรรคฝ่ายค้าน ได้เชื่อมโยงสองกรณีนี้ โดยกล่าวว่า “เสียงเรียกร้องของความไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดนั้นหายไปอย่างสิ้นเชิง เมื่อประธานกรรมการบีบีซีล้มเหลวในการเปิดเผยแง่มุมมิตรภาพที่ใกล้ชิดของเขากับนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น”

แต่บีบีซีก็มีความชอบธรรมในการโต้แย้งว่าไม่มีสิทธิ์พูดในกรณีของประธานกรรมการบีบีซี ชาร์ปเป็นผู้ได้รับการแต่งตั้งจากฝ่ายการเมือง และขณะนี้การแต่งตั้งของเขากำลังถูกสอบสวนโดยคณะกรรมาธิการสำหรับการแต่งตั้งตำแหน่งสาธารณะ

แต่การรับรู้มีความสำคัญ และบีบีซีถูกกล่าวหาจากฝ่ายหนึ่งว่ามาเอาทำขึงขังกับแกรี ลินิเกอร์อย่างหนักจากถ้อยคำต่อต้านรัฐบาลของเขา ในขณะที่เห็นได้ชัดว่ามีประธานในตำแหน่งที่มีปัญหา และเคยให้เงินกับพรรคคอนเซอร์เวทีฟมาในอดีต

ข้อโต้แย้งประการหนึ่งจากฝั่งบีบีซีคือ ริชาร์ด ชาร์ป ในฐานะสมาชิกคนหนึ่งในคณะกรรมการของบีบีซี ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเนื้อหาของกองบรรณาธิการ

หลายคนจะบอกว่าแกรี ลินิเกอร์ ก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับงานของกองบรรณาธิการเช่นกัน เขาไม่มีหน้าที่พูดเรื่องการเมืองออกอากาศ กีฬาเป็นงานของเขา – และในฐานะพิธีกรกีฬา บีบีซีให้ฉายาเขาว่า “ไม่เป็นสองรองใคร” เมื่อ 11 มี.ค

แต่สำหรับล่าสุด เขาไม่ใช่พิธีกรของบีบีซี

หมายเหตุ : ข่าว บีบีซีไทย ที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ประชาชาติธุรกิจ เป็นความร่วมมือของสององค์กรข่าว