
งานวิจัยในสหราชอาณาจักรพบหลักฐานบ่งชี้ว่า การให้เด็กอายุระหว่าง 4-6 เดือน กินเนยถั่วชนิดบดละเอียดในประมาณเล็กน้อย สามารถลดโอกาสเกิดภาวะภูมิแพ้ถั่วลิสงลงได้ถึง 77%
ทีมนักวิทยาศาสตร์ชี้ว่านี่คือโอกาสสำคัญช่วงที่เด็กเริ่มหย่านมในการลดความเสี่ยงการเกิดอาการแพ้ถั่ว ซึ่งในบางรายอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต
- บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 1 มิ.ย.นี้ ใครมีสิทธิรับวงเงินค่าซื้อสินค้า 900 บาท
- “เหล้า-เบียร์” เจ๊กอั้ก ! ร่างกฎหมายใหม่ คุมเข้ม-สุดโหด
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 1 มิ.ย. ย้อนหลัง 10 ปี
ภูมิแพ้อาหารเกิดขึ้นได้อย่างไร
ภาวะแพ้อาหารเกิดจากการที่ระบบภูมิคุ้มกันเข้าใจผิดคิดว่าอาหารบางอย่างมีอันตรายต่อร่างกายของเรา
สำหรับบางคน แม้จะรับประทานถั่วลิสงไปเพียงเล็กน้อยก็อาจเกิดอาการแพ้รุนแรงที่เป็นอันตรายถึงชีวิตได้
อาการภูมิแพ้ถั่วลิสงเป็นสิ่งที่พบเห็นได้บ่อยขึ้นในปัจจุบัน ส่งผลให้โรงเรียนบางแห่งห้ามใช้ถั่วเป็นส่วนผสมในอาหารที่ปรุงให้แก่เด็กนักเรียน
ก่อนหน้านี้มีมักมีคำแนะนำให้เด็กอ่อนหลีกเลี่ยงอาหารที่อาจกระตุ้นให้เกิดภาวะภูมิแพ้ บางกรณีมีข้อแนะนำให้ผู้ปกครองหลีกเลี่ยงการให้บุตรหลานกินถั่วลิสงจนกว่าจะอายุ 3 ขวบ
อย่างไรก็ตาม หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ในช่วง 15 ปีที่ผ่านมาได้หักล้างความเชื่อดังกล่าว ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าการเริ่มกินถั่วลิสงในขณะที่ระบบภูมิคุ้มกันกำลังพัฒนา จะทำให้ร่างกายได้เรียนรู้ว่าอาหารชนิดนี้ไม่ใช่สิ่งแปลกปลอมที่เป็นอันตราย และจะช่วยลดการเกิดอาการแพ้ได้
นี่ยังหมายความว่า ร่างกายจะได้สัมผัสกับถั่วลิสงในท้อง แล้วจะยอมรับและจำแนกว่านี่คืออาหาร มากกว่าการสัมผัสผ่านทางผิวหนัง ซึ่งอาจทำให้ร่างกายคิดว่าถั่วคือสิ่งแปลกปลอมที่อันตราย

ในอิสราเอลซึ่งผู้คนนิยมทานขนมที่มีส่วนผสมของถั่วลิสงตั้งแต่เด็ก มีอัตราการเกิดภาวะแพ้ถั่วต่ำกว่าหลายประเทศ
ผลงานวิจัยชิ้นอื่น ๆ ก็พบหลักฐานบ่งชี้ว่า การให้เด็กหัดกินอาหารที่เชื่อมโยงกับอาการแพ้ เช่น ไข่ นม และแป้งสาลี ตั้งแต่ยังเล็กจะช่วยลดความเสี่ยงแพ้อาหารเหล่านี้ได้
ข้อแนะนำจากนักวิทยาศาสตร์
งานวิจัยล่าสุดที่ตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Allergy and Clinical Immunology เป็นของทีมนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเซาแธมป์ตัน, คิงส์คอลเลจลอนดอน และ National Institute for Health and Care Research หน่วยงานวิจัยของสำนักบริการสุขภาพแห่งชาติของสหราชอาณาจักร (National Health Service หรือ NHS)
พวกเขาได้คำนวณช่วงเวลาเหมาะสมที่สุดในการเริ่มให้ทารกกินเนยถั่วคือระหว่าง 4-6 เดือน ซึ่งจะช่วยลดโอกาสเกิดภูมิแพ้ถั่วได้ถึง 77%
นี่เทียบเท่ากับการป้องกันไม่ให้เกิดอาการแพ้ถั่วได้ปีละประมาณ 10,000 รายจากทั้งหมด 13,000 ราย
การให้เด็กหัดกินอาหารที่มีส่วนประกอบของถั่วล่าช้าจนกระทั่งเด็กอายุ 1 ขวบ จะลดโอกาสเกิดภูมิแพ้ถั่วได้ 33%
ส่วนเด็กที่มีอาการผื่นผิวหนังอักเสบ ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงของการเกิดภาวะภูมิแพ้นั้น ทีมนักวิจัยแนะนำให้เริ่มกินเนยถั่วตอนอายุ 4 เดือน ตราบใดที่เด็กมีความพร้อม
โดยผู้ปกครองควรเริ่มด้วยการให้เด็กกินผักและผลไม้ปริมาณเล็กน้อยก่อน จากนั้นเมื่อเด็กเริ่มกินอาหารได้ก็สามารถให้รับประทานเนยถั่วชนิดบดละเอียดราว 3 ช้อนชาต่อสัปดาห์ และให้ต่อเนื่องกันเป็นเวลาหลายปี และเนื่องจากเนยถั่วอาจมีลักษณะค่อนข้างแห้ง พ่อแม่อาจใช้วิธีผสมกับน้ำนมแม่ได้

ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า ไม่ควรให้เด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบกินถั่วหรือถั่วลิสงแบบสับหรือทั้งเม็ดเนื่องจากมีความเสี่ยงให้เกิดอาหารติดคอได้
คำแนะนำปัจจุบันของ NHS ระบุว่าสามารถให้เด็กหัดรับประทานถั่วลิสง (แบบบดป่น หรือเป็นเนยถั่ว) ได้ตั้งแต่อายุ 6 เดือน
สัญญาณบ่งชี้ว่าทารกพร้อมทานอาหารคือ
- สามารถตั้งคอและนั่งได้เองอย่างมั่นคง
- มีสายตา มือ และปากสอดประสานกัน ทำให้เด็กสามารถมองดูอาหาร แล้วหยิบเข้าปากได้
- สามารถกลืนอาหารได้ ไม่ใช่คายออกมา
หมายเหตุ : ข่าว บีบีซีไทย ที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ประชาชาติธุรกิจ เป็นความร่วมมือของสององค์กรข่าว