ออสเตรเลียพบซากเรือญี่ปุ่นที่เรือรบสหรัฐฯ โจมตีสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2

BBC กว่า 80 ปี ที่พิกัดของซากเรือมอนเตวิดีโอ มารุ เป็นปริศนา

นักสำรวจใต้ทะเล ค้นพบซากเรือขนส่งสัญชาติญี่ปุ่น ซึ่งบรรทุกทหารออสเตรเลียและพลเรือน 1,000 คน หลังจากถูกโจมตีจนอับปางในน่านน้ำฟิลิปปินส์ตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2

เรือของญี่ปุ่นลำนี้มีชื่อว่า “มอนเตวิดีโอ มารุ” อัปปางลงในเดือน ก.ค. ปี 1942 การอัปปางของเรือญี่ปุ่นครั้งนั้น เป็นภัยพิบัติทางทะเลที่ร้ายแรงที่สุดของออสเตรเลีย ซึ่งถูกตอร์ปิโดสหรัฐฯ โจมตี โดยหารู้ไม่ว่าเรือลำนี้ บรรทุกนักโทษที่ถูกต้อนเกณฑ์มาจากปาปัวนิวกินี

ประเมินว่ามีชาวออสเตรเลียประมาณ 979 คน เสียชีวิต รวมทั้งทหารเรือนอร์เวย์ 33 นาย ลูกเรือและทหารคุ้มกันสัญชาติญี่ปุ่น 20 นาย

มูลนิธิไซเลนต์เวิลด์ องค์กรเอกชนด้านโบราณคดีใต้น้ำของออสเตรเลีย ได้เริ่มภารกิจค้นหาซากเรือลำนี้ร่วมกับบริษัทสำรวจใต้ทะเลของเนเธอร์แลนด์ นักสำรวจใต้ทะเลใช้ยานยนต์ไร้คนขับใต้น้ำ สำรวจพบพิกัดของซากเรือมอนเตวิดีโอ มารุ ได้ที่ความลึก 4,000 เมตร ซึ่งลึกกว่าจุดที่พบซากเรือไททานิค

โรเจอร์ เทิร์นเนอร์ กัปตันทีมค้นหา บอกบีบีซีว่า “นี่คือหลุมฝังศพของสงครามที่ต้องได้รับการปฏิบัติด้วยความเคารพ” อย่างไรก็ตาม เขาบอกด้วยว่า ยานยนต์ไร้คนขับใต้น้ำ เข้าใกล้ซากเรือได้มากที่สุดเพียง 45 เมตร

“มันเป็นช่วงเวลาที่น่าสะเทือนใจเมื่อได้เห็นภาพของเรือ ประตูบนดาดฟ้าเรือที่ชีวิตของบรรดานักโทษถูกขังไว้ระหว่างการเดินทาง”

bbc

ADVERTISMENT
BBC

มูลนิธิไซเลนต์เวิลด์ ระบุว่าด้วยว่า จะไม่มีการเข้าไปแตะต้องซากเรือ และจะไม่มีการเคลื่อนย้ายซากชิ้นส่วนของมนุษย์หรือวัตถุใด ๆ

นายแอนโทนี อัลบาเนซี นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย กล่าวว่า เป็นช่วงเวลาอันยาวนาน แต่ในที่สุดสถานที่พำนักของจิตวิญญาณที่สูญหายบนเรือมอนเตวิดีโอ มารุ ก็ถูกพบ “พวกเราหวังว่าข่าวในวันนี้จะช่วยปลอบโยนบุคคลอันเป็นที่รัก ซึ่งเฝ้าติดตามมาอย่างยาวนาน”

เรือมอนเตวิดีโอ มารุ ถูกโจมตีด้วยตอร์ปิโดจากเรือรบยูเอสเอส สเตอร์เจียน ของสหรัฐฯ และจมลงอย่างรวดเร็ว กัปตันเทิร์นเนอร์ ให้สัมภาษณ์จากเรือที่ออกสำรวจว่า สันนิษฐานว่า เรือมอนเตวิดีโอ มารุ เอียงลงอย่างรวดเร็วภายใน 6 นาที และจมลงใต้คลื่นทะเลใน 11 นาที โดยที่มีเรือชูชีพทันออกจากเรือเพียง 3 ลำ บรรทุกลูกเรือและทหารคุ้มกันชาวญี่ปุ่น 102 นาย ไปขึ้นฝั่งที่ฟิลิปปินส์

ิbbc

BBC

ข้อมูลจากการค้นหาของมูลนิธิไซเลนต์เวิลด์ ระบุว่า มีผู้เสียชีวิต 1,089 ราย จาก 14 ชาติ และยากที่จะสืบหาญาติของผู้เสียชีวิตทั้งหมดได้ อย่างไรก็ตาม ทายาทสามารถเข้าไปลงทะเบียนกับหน่วยงานกลาโหมของออสเตรเลีย เพื่อติดตามความคืบหน้าและการร่วมงานรำลึกถึงผู้เสียชีวิต

ปฏิบัติการครั้งนี้ เริ่มต้นเมื่อวันที่ 6 เม.ย. ที่ผ่านมาในเขตทะเลจีนใต้ ห่างจากเกาะลูซอนของฟิลิปปินส์ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ 110 กิโลเมตร โดยใช้เวลาระบุพิกัดที่เรืออับปางในอีก 12 วันต่อมา

อย่างไรก็ตาม หลังจากเจอพิกัดแล้ว ยังต้องใช้เวลาอีกหลายวันตรวจพิสูจน์ซากเรือโดยผู้เชี่ยวชาญด้านโบราณคดีใต้น้ำ นักอนุรักษ์ และผู้เชี่ยวชาญด้านอื่น ๆ รวมทั้งอดีตนายทหารเรืออีกด้วย โดยขั้นตอนมีตั้งแต่ การตรวจสอบซากลำเรือ ห้องท้องเรือ เสากระโดงหน้าเรือ ท้ายเรือ เพื่อดูว่าตรงกับภาพร่างของเรือมอนเตวิดีโอ มารุ หรือไม่

bbc

BBC

สำหรับเบื้องหลังการค้นหา กัปตันโรเจอร์ เทิร์นเนอร์ บอกกับบีบีซีว่า พวกเขาปลาบปลื้มใจอย่างที่สุด

“เราทุ่มเวลาหลายปีในการสอบสวนเรื่องนี้ และยิ่งกว่านั้น มีญาติ ๆ ของผู้สูญหายมีจำนวนนับพันคน แต่มี 2 คน ที่ร่วมลงเรือสำรวจไปกับเราด้วย พวกเขาใช้เวลาทั้งชีวิตค้นหาข้อมูลเรื่องนี้ และออกค้นหาในที่ต่าง ๆ หลายที่เท่าที่พวกเขาจะทำได้”

กัปตันเทิร์นเนอร์ กล่าวด้วยว่า คนในเมืองราบวลของปาปัว นิว กินี เมืองที่ถูกญี่ปุ่นยึดครองในปี 1942 ยังคงมีความรู้สึกอย่างมากในทุกวันนี้ต่อโศกนาฏกรรมของเรือมอนเตวิดีโอ มารุ

อย่างไรก็ตาม แม้มีความรู้สึกดีใจที่ภารกิจสำเร็จ แต่พวกเขาก็เศร้าใจกับจำนวนของผู้เสียชีวิตบนเรือ จอห์น มัลเลน ผอ. มูลนิธิไซเลนต์เวิลด์บอกกับสำนักข่าวเอบีซีของออสเตรเลียว่า “เรากำลังเฝ้ามองไปที่หลุมศพของคนกว่า 1,000 คน”

“พวกเราสูญเสียชาวออสเตรเลียมากเกือบสองเท่า กับที่สูญเสียจากสงครามเวียดนาม มันจึงสำคัญอย่างมากต่อครอบครัวและทายาท” เขากล่าว

หมายเหตุ : ข่าว บีบีซีไทย ที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ประชาชาติธุรกิจ เป็นความร่วมมือของสององค์กรข่าว