วันเลือกตั้งทั่วไปครั้งสำคัญของประเทศไทย จะปิดหีบเริ่มนับคะแนนตั้งแต่ 17.00 น. เป็นต้นไป ในการเลือกตั้งครั้งก่อนปี 2562 มีการพูดถึง “การโกงเลือกตั้ง” อย่างแพร่หลาย บีบีซีไทยจึงขอนำบทความนี้มาให้อ่านอีกครั้งว่า เราจะจับสัญญาณที่อาจบ่งบอกว่ามีการโกงเลือกตั้งได้อย่างไรบ้าง
เอลิซาเบธ บลันท์ ผู้สื่อข่าวบีบีซีและผู้สังเกตการณ์การเลือกตั้งหลายครั้งในทวีปแอฟริกา รวบรวม 6 สัญญาณที่อาจบ่งบอกได้ว่ามีการโกงการเลือกตั้ง
- สมชัย เลิศสุทธิวงค์ ซีอีโอ “เอไอเอส” สละโสดในวัย 62 ปี
- มอเตอร์โชว์ 2024 เริ่มแล้ว
- ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขึ้นเครื่องหมาย CB หุ้น JKN เริ่มพรุ่งนี้
จำนวนผู้ใช้สิทธิมากเกินไป
ตัวเลขผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกที่ดีตัวหนึ่ง เพราะในการเลือกตั้งที่โปร่งใส คุณไม่มีทางที่จะได้เห็นผู้มีสิทธิลงคะแนนมาใช้สิทธิ 98% หรือ 99%
- ผลการเลือกตั้ง 2562 : นักวิเคราะห์ชี้ต่างชาติชะลอการลงทุน ผลเลือกตั้งล่าช้า ได้รัฐบาลผสม เสถียรภาพน้อย
- เลือกตั้ง 2562 : กกต. ชู กม. คอมพิวเตอร์ฯ สกัดข่าว “โกงเลือกตั้ง” ด้าน อียู เรียกร้องเร่งสอบความผิดปกติ
- เลือกตั้ง 2562: คนไทยในนิวซีแลนด์ “เสียใจ” หลัง กกต. ลงมติให้บัตรเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรกว่า 1,500 ใบเป็นบัตรบัตรที่นำมานับคะแนนไม่ได้
บลันท์ ยกตัวอย่างการเลือกตั้งในประเทศกาบอง ซึ่งกฎหมายกำหนดให้ประชาชนทุกคนต้องไปเลือกตั้ง แต่ในทางปฏิบัติ ไม่ได้มีการคุมเข้มขนาดนั้น แม้กระทั่งในออสเตรเลียที่ประชาชนอาจถูกปรับหากไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งซึ่งทำได้ทั้งทางไปรษณีย์หรือผ่านเว็บไซต์ แต่ถึงอย่างนั้นจำนวนผู้มาใช้สิทธิสูงสุดก็อยู่แค่ 90-95%
สาเหตุหลักที่จำนวนผู้ไปใช้สิทธิไม่มีทางที่จะครบ 100% ก็เพราะมีความเป็นไปได้ยากมากที่บัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งจะเป็นปัจจุบัน 100% เพราะถึงแม้ไม่มีใครเจ็บป่วยหรือต้องเดินทางในช่วงเลือกตั้ง แต่ในความเป็นจริงแล้ว ยังมีคนเสียชีวิตทุกวัน และเมื่อมีการอัพเดทรายชื่อผู้ลงทะเบียนใช้สิทธิ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งรายใหม่ต่างก็กระตือรือร้นที่จะเพิ่มรายชื่อตัวเองเข้าไปอยู่ในบัญชีรายชื่อ
ในทางตรงกันข้าม ไม่มีใครกระตือรือร้นมากพอที่จะถอดรายชื่อผู้เสียชีวิตออกจากบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง และยิ่งเวลาผ่านไป จำนวนผู้ที่ไม่มีตัวตนเหล่านั้นก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
บลันท์เคยรายงานข่าวเลือกตั้งในพื้นที่บริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำไนเจอร์ของไนจีเรีย ซึ่งพบว่าสถานที่บางแห่งมีผู้มาใช้สิทธิกว่า 120%
“คนแถวนี้มีสุขภาพดีมาก และมีความเป็นพลเมืองสูง” เจ้าหน้าที่ระดับท้องถิ่นบอก
แต่การออกมาของผู้ใช้สิทธิเกิน 100% ในพื้นที่หนึ่งหรือหน่วยเลือกตั้งหนึ่งถือเป็นสัญญาณอันตราย และเป็นเหตุผลหนึ่งที่จะกำหนดให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ
จำนวนผู้ใช้สิทธิมากในบางพื้นที่
แม้ว่าจำนวนผู้ใช้สิทธิจะอยู่ในเกณฑ์ที่พอจะเป็นไปได้ แต่หากจำนวนดังกล่าวแตกต่างจากที่อื่น ๆ อย่างสุดโต่ง ก็ถือว่าเป็นสัญญาณบ่งชี้เช่นกัน
จะมีเหตุผลอะไรที่ทำให้พื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง หรือหน่วยเลือกตั้งหนึ่ง มีจำนวนผู้ใช้สิทธิถึง 90% ในขณะที่พื้นที่อื่นมีผู้ใช้สิทธิไม่ถึง 70%
จะต้องมีความไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้นแน่นอน โดยเฉพาะหากจำนวนผู้ใช้สิทธิที่มากนั้น อยู่ในพื้นที่ที่สนับสนุนผู้สมัครคนในคนหนึ่งหรือพรรคการเมืองพรรคใดพรรคหนึ่ง
มีบัตรเสียเป็นจำนวนมาก
นอกจากนี้มีวิธีอื่นที่ดูโจ่งแจ้งน้อยกว่า ซึ่งฝ่ายที่โกงการเลือกตั้งสามารถทำเพื่อเพิ่มหรือลดคะแนนเสียงได้
เรื่องของบัตรเสียก็ต้องจับตาเพราะโดยปกติแล้วจำนวนบัตรเสียจะไม่เกิน 5% แม้กระทั่งในประเทศที่มีจำนวนผู้อ่านออก เขียนได้ต่ำ
การที่มีบัตรเสียเป็นจำนวนมากอาจหมายความว่าเจ้าหน้าที่ใช้ดุลยพินิจในการประกาศบัตรเสียโดยอ้างความผิดพลาดที่เล็กน้อยมากเพื่อที่จะลดคะแนนคู่แข่งขัน แม้ผู้ลงคะแนนมีเจตนาชัดเจนว่าจะเลือกใคร
จำนวนผู้ใช้สิทธิมากกว่าจำนวนบัตรเลือกตั้ง
เมื่อการเลือกตั้งเสร็จสิ้นลง ก่อนที่จะเปิดหีบเลือกตั้งนั้นเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้ง จะต้องดำเนินขั้นตอนที่ ซับซ้อนพอสมควรซึ่งเป็นกระบวนการในการพิสูจน์จำนวนบัตรเลือกตั้ง
โดยหลังเสร็จสิ้นกระบวนการนับจำนวนบัตรเลือกตั้งที่ได้รับในตอนเช้าแล้ว ก็ต้องนับว่ามีบัตรที่เหลือทั้งหมดกี่ใบ และมีกี่ใบที่ถูกฉีกหรือเป็นบัตรเสียและต้องนำออกจากกองของบัตรดี
ผลลัพธ์จากการคำนวณดังกล่าวจะระบุว่า มีบัตรกี่ใบที่ควรจะอยู่ในหีบ ซึ่งควรจะตรงกับตัวเลขรายชื่อของคนที่มาใช้สิทธิเลือกตั้ง
เมื่อเปิดหีบแล้ว ภารกิจแรกที่ต้องทำคือนับจำนวนบัตรที่อยู่ข้างใน ซึ่งจะทำก่อนการนับคะแนนเสียงของผู้สมัครแต่ละคน
ถ้ามีความแตกต่างกัน แสดงว่ามีอะไรบางอย่างที่ผิดพลาด และหากมีจำนวนบัตรในหีบมากกว่าที่เจ้าหน้าประจำหน่วยมอบให้กับผู้ที่ลงคะแนน ก็มีความเป็นไปได้สูงที่จะมีคนบางคนได้เติมบัตรลงไปในหีบ
และนั่นเป็นเหตุผลที่ดีพอที่จะประกาศว่าการเลือกตั้งนั้นเป็นโมฆะ และจัดการเลือกตั้งใหม่
ผลคะแนนที่ไม่ตรงกัน
โทรศัพท์มือถือช่วยทำให้การเลือกตั้งโปร่งใสขึ้นอย่างมาก
กลายเป็นข้อปฏิบัติมาตรฐานไปแล้วที่จะอนุญาตให้ตัวแทนพรรคการเมือง ผู้สังเกตการณ์การเลือกตั้ง และบางครั้งแม้กระทั่งผู้ใช้สิทธิเลือกตั้ง มาร่วมสังเกตการณ์การนับคะแนนและใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพผลลัพธ์
พวกเขาจึงมีหลักฐานของผลการเลือกตั้งที่แท้จริงจากพื้นที่นั้น ๆ เผื่อว่าผลลัพธ์ที่คณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศต่อมาจะไม่ตรงกัน
ค่อนข้างชัดเจนว่านักการเมืองที่ขี้โกงต้องใช้เวลาระยะหนึ่งกว่าจะรู้ว่าปัจจุบันนี้ประชาชนย่อมรู้ว่ามีการแก้ไขคะแนน
ที่โตโก ซึ่งเป็นประเทศหนึ่งในภูมิภาคแอฟริกาตะวันตก ตัวแทนพรรคการเมืองท้องถิ่นบอกกับเอลิซาเบธ บลันท์ ว่า พวกเขาสังเกตการณ์การนับคะแนนในปี 2548 ที่มีเจ้าหน้าที่หน่วยเลือกตั้งออกเดินทางไปยังเมืองหลวง โดยนำผลคะแนนที่ผ่านการรับรองแล้วติดตัวไปด้วย ทว่าผลลัพธ์ที่ถูกประกาศทางวิทยุในภายหลัง เป็นตัวเลขที่ไม่ตรงกัน
เหตุการณ์ทำนองเดียวกันยังเกิดขึ้นในจังหวัดคาทังกาในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกเมื่อปี 2554 ที่ผลการเลือกตั้งที่ประกาศในวิทยุไม่เหมือนกับผลลัพธ์ที่ผู้สังเกตการณ์นานาชาติเห็นว่ามีการติดประกาศที่หน้าหน่วยเลือกตั้ง
แต่ความโปร่งใสแบบนี้จะเกิดขึ้นได้ก็ขึ้นอยู่กับว่าการประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการนั้น ได้รวมเอาตัวเลขจากศูนย์นับคะแนนแต่ละแห่งเข้าไว้ด้วยหรือไม่ และนี่เป็นประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้นในการเลือกตั้งในกาบองเมื่อปี 2559
การประกาศผลที่ล่าช้า
ในที่สุดก็มาถึงเหตุผลที่อาจไม่จำเป็นจะต้องเป็นสัญญาณของการเลือกตั้งที่โกง แต่ส่วนมากแล้วจะถูกเชื่อมโยงให้เป็นแบบนั้น
คณะกรรมการการเลือกตั้ง โดยเฉพาะในทวีปแอฟริกา ดูจะใช้เวลานานผิดปกติในการประกาศผลอย่างเป็นทางการ
ที่ทำให้แย่ไปกว่านั้นคือเครือข่ายผู้สังเกตการณ์การเลือกตั้งท้องถิ่นและพรรคการเมืองที่รวบรวมผลลัพธ์ที่ถูกส่งเข้ามาในมือถือ ทำให้พวกเขารู้ผลลัพธ์คร่าว ๆ ก่อนที่กระบวนการอย่างเป็นทางการจะเสร็จสิ้น
แต่นั่นเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลานาน โดยเฉพาะในประเทศที่มีระบบการสื่อสารที่ไม่ดี และในบางประเทศอย่างมาลาวี ในการเลือกตั้งปี 2557 เจ้าหน้าที่เสียเวลาไปกับความพยายามใช้เครื่องมืออุปกรณ์ต่าง ๆ จนทำให้การประกาศผลยิ่งช้าลงไปอีก
ในกรณีของมาลาวีนั้น การนำส่งผลเลือกตั้งต้องใช้วิธีดั้งเดิมคือ บรรจุไว้ในซองจดหมายและขนส่งไปยังเมืองหลวง โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยคุ้มกัน แต่ถึงตอนนั้นก็เริ่มมีการกล่าวหาว่าการเลือกตั้งเป็นไปอย่างไม่โปร่งใสแล้ว
ความล่าช้านั้นถือว่าเป็นอันตรายอย่างแน่นอน และยังช่วยโหมกระพือข่าวลือในเรื่องการตกแต่งผลลัพธ์ก่อนที่จะมีการประกาศออกไป ทั้งยังเพิ่มความตึงเครียด แต่นี่ไม่ใช่หลักฐานของการโกงการเลือกตั้งที่โต้แย้งไม่ได้
หมายเหตุ : ข่าว บีบีซีไทย ที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ประชาชาติธุรกิจ เป็นความร่วมมือของสององค์กรข่าว