
หนังสือพิมพ์ซันเดย์ไทมส์ของอังกฤษ รายงานเมื่อวันที่ 26 มิ.ย. ว่าเจ้าชายแห่งเวลส์ มกุฎราชกุมาร ทรงรับกระเป๋าบรรจุเงินสดมูลค่า 1 ล้านยูโร (ราว 37.4 ล้านบาท) จากเชคฮามัด บิน จัสซิม บิน จาเบอร์ อัล ทานี อดีตนายกรัฐมนตรีของกาตาร์ ซึ่งได้ถวายกระเป๋าบรรจุเงินดังกล่าวด้วยตนเอง
รายงานของซันเดย์ไทมส์ระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวนับเป็นหนึ่งในการรับเงินสดทั้งหมด 3 ครั้ง ของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ โดยมีเชคฮามัด บิน จัสซิม เป็นผู้ถวายเงินทั้งหมด 3 ล้านยูโร ระหว่างปี 2011-2015
รายงานข่าวยังเปิดเผยว่า ครั้งหนึ่งอดีตนายกรัฐมนตรีกาตาร์ได้ใส่เงินลงในกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ แล้วนำไปถวายเจ้าชายแห่งเวลส์ขณะเข้าเฝ้าที่พระตำหนักคลาเรนซ์เฮาส์ด้วยตนเอง ส่วนอีกครั้งหนึ่งได้มีการนำเงินบรรจุไว้ในถุงของห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ฟอร์ตนัม แอนด์ เมสัน
ทางสำนักงานพระตำหนักคลาเรนซ์เฮาส์ของเจ้าชายแห่งเวลส์ ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงเรื่องนี้ว่า “เงินบริจาค” ที่ได้รับจากเชคฮามัด บิน จัสซิม ถูกโอนเข้าบัญชีองค์กรการกุศลแห่งหนึ่งที่ทรงอุปถัมภ์ในทันที และมีการจัดการที่ชอบด้วยกฎหมายติดตามมา โดยไม่มีข้อบ่งชี้ใด ๆ ว่าเงินบริจาคดังกล่าวนั้นผิดกฎหมาย
“เงินบริจาคของเชคฮามัด บิน จัสซิม ถูกบริหารจัดการโดยองค์กรการกุศลในพระราชูปถัมภ์อย่างเหมาะสม โดยทางองค์กรได้แจ้งกับเราว่า มีการดำเนินการทุกอย่างโดยถูกต้องทุกขั้นตอนหลังจากนั้น” สำนักงานพระตำหนักคลาเรนซ์เฮาส์แถลง
องค์กรที่ได้รับเงินดังกล่าวก็คือ “กองทุนโดยเสด็จพระราชกุศลในเจ้าชายแห่งเวลส์” (Prince of Wales’s Charitable Fund) ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตและสร้างชุมชนที่ยั่งยืน โดยจะมอบเงินสนับสนุนแก่โครงการที่เป็นประโยชน์ต่าง ๆ ทั้งในด้านการอนุรักษ์ การศึกษา สุขภาพ และการยอมรับความหลากหลายในสังคม

ที่มาของภาพ, Getty Images
องค์กรดังกล่าวบอกกับผู้สื่อข่าวของซันเดย์ไทมส์ว่า ผู้ดูแลผลประโยชน์ของกองทุนได้พิจารณาแล้ว และเห็นว่าผู้บริจาคได้มอบเงินให้โดยถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนผู้ตรวจสอบบัญชีก็ได้ลงนามอนุมัติให้ทางกองทุนรับเงินบริจาคดังกล่าวได้
ส่วนเชคฮามัด บิน จัสซิม หรือที่รู้จักกันในแวดวงธุรกิจการเงินของอังกฤษด้วยชื่อย่อว่า “HBJ” เคยได้รับฉายาว่า “ชายผู้ซื้อกรุงลอนดอน” เนื่องจากใช้ความมั่งคั่งในฐานะมหาเศรษฐีอันดับต้น ๆ ของกาตาร์ และอิทธิพลในฐานะประธานกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของกาตาร์ (Qatari Investment Authority) เข้ากว้านซื้ออสังหาริมทรัพย์และทรัพย์สินล้ำค่าต่าง ๆ ในกรุงลอนดอนเป็นจำนวนมาก
เขายังอยู่ในรายชื่อมหาเศรษฐีผู้ใช้บริการซุกซ่อนทรัพย์สินเพื่อหลบเลี่ยงภาษีในดินแดนโพ้นทะเล อย่างเช่นปานามา เปเปอร์ส (Panama Papers) และพาราไดซ์ เปเปอร์ส (Paradise Papers) อีกด้วย
ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เงินบริจาคเข้าองค์กรการกุศลของเจ้าชายแห่งเวลส์ถูกเพ่งเล็งตรวจสอบอย่างหนัก หลังมีข้อครหาว่าบางองค์กรได้เสนอจะช่วยให้ผู้บริจาคซึ่งเป็นมหาเศรษฐีชาวซาอุดีอาระเบีย ได้รับสัญชาติอังกฤษและเครื่องราชอิสริยาภรณ์
ตำรวจนครบาลกรุงลอนดอนแถลงเมื่อช่วงต้นปีนี้ว่า กำลังสืบสวนกรณีมูลนิธิเพื่อการศึกษา The Prince’s Foundation ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดพระราชบัญญัติว่าด้วยเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ปี 1925
สื่ออังกฤษรายงานว่านายไมเคิล ฟอว์เซตต์ อดีตมหาดเล็กของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์และประธานผู้บริหารมูลนิธิดังกล่าว ได้ลักลอบติดต่อกับ “คนกลาง” เพื่อจัดการให้นายมาห์ฟูซ มาเร มูบารัก บิน มาห์ฟูซ นักธุรกิจพันล้านชาวซาอุดีอาระเบีย ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้น CBE หลังบริจาคเงินให้ทางมูลนิธิ แต่นายมาห์ฟูซได้ปฏิเสธข้อกล่าวหานี้
อย่างไรก็ตามสำนักงานพระตำหนักคลาเรนซ์เฮาส์ยืนยันว่า เจ้าชายแห่งเวลส์ไม่ทรงมีส่วนรู้เห็นกับเรื่องอื้อฉาวนี้ และในเวลาต่อมาทางตำรวจได้แถลงว่า ไม่พบหลักฐานที่บ่งชี้ว่าคณะกรรมการของมูลนิธิได้ทราบถึงการเรียกรับผลประโยชน์ดังกล่าว
……..
ข่าว BBCไทย ที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ ประชาชาติธุรกิจ เป็นความร่วมมือของสององค์กรข่าว