กองทัพยูเครนกล่าวหารัสเซียทิ้งระเบิดฟอสฟอรัสบนเกาะงูในทะเลดำ หลังถอนทหารออกจากเกาะ อ้างเสร็จสิ้นปฏิบัติการบนเกาะแล้ว แต่การทิ้งระเบิดต้องห้ามนี้ก่อให้เกิดคำถามว่า รัสเซียทิ้งระเบิดลงบนเกาะที่ปลอดมนุษย์ทำไม
กองทัพยูเครนออกแถลงการณ์ พร้อมเผยแพร่คลิปวิดีโอการทิ้งระเบิดบนเกาะงู ซึ่งเป็นเกาะขนาดเล็กในทะเลดำของยูเครน ซึ่งปัจจุบัน ไม่มีทหารและประชาชนหลงเหลืออยู่บนเกาะ ภายหลังการถอนทหารออกไปของกองทัพรัสเซีย
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
ตามแถลงการณ์ระบุว่า กองทัพอากาศรัสเซียได้ส่งเครื่องบินรบรุ่น ซู-30 เพื่อทิ้งระเบิดฟอสฟอรัส ติดต่อกัน 2 ระลอก บนเกาะงู (Snake Island) ในช่วงเย็นวันที่ 1 กรกฎาคม ตามเวลาท้องถิ่น
ระเบิดฟอสฟอรัสมีคุณลักษณะไวไฟและดับได้ยาก แม้อานุภาพการระเบิดอาจไม่ร้ายแรง แต่ก่อให้เกิดการลุกไหม้ที่ยาวนาน ทำให้หายใจลำบาก ผู้เสียชีวิตจากระเบิดฟอสฟอรัส มักทรมานจากอาการหายใจไม่ออก และแผลไฟไหม้ร้ายแรง อนุสัญญาเจนีวาจึงกำหนดห้ามไม่ให้ใช้อาวุธเชื้อเพลิงดังกล่าวโจมตีพลเรือน
เหตุผลที่กองทัพยูเครนเชื่อว่าเป็นระเบิดฟอสฟอรัส เพราะสังเกตเห็นควันสีขาวพวยพุ่งออกมาเป็นทางยาว ซึ่งเป็นคุณลักษณะเฉพาะของระเบิดชนิดนี้
แถลงการณ์ของกองทัพยูเครนเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วัน หลังกองทัพรัสเซียได้ถอนทหารออกจากเกาะงู โดยอธิบายว่า “เป็นการส่งสัญญาณในทางดีว่ากองกำลังรัสเซียได้เสร็จสิ้นปฏิบัติการบนเกาะงู และได้ถอนกำลังรักษาการณ์ออกจากที่นั่นแล้ว” และเพื่อชี้ให้ประชาคมโลกเห็นว่า สหพันธรัฐรัสเซียไม่ได้ต้องการหยุดยั้งความพยายามของสหประชาชาติที่ต้องการสร้างระเบียงมนุษยธรรมเพื่อให้สามารถขนส่งผลิตผลทางการเกษตรออกจากยูเครน
ขณะที่ฝั่งยูเครนโต้กลับว่าการถอนทัพของทหารรัสเซีย เป็นผลจากความพยายามผลักดันกองกำลังรัสเซียออกไปของทางยูเครนเอง โดยใช้ทั้งขีปนาวุธและปืนใหญ่ระดมถล่มในช่วงข้ามคืน
เกาะงูอยู่ตรงไหน–สำคัญอย่างไร?
เกาะงูอยู่ห่างจากชายฝั่งยูเครนราว 35 กิโลเมตร เป็นพื้นที่ทางการทหาร และด่านหน้าเหนือชายแดน เพื่อรับมือภัยคุกคามของรัสเซีย มาตั้งแต่ก่อนสงครามจะเริ่มขึ้นเสียอีก
เกาะงูมีอีกชื่อว่า “เกาซมินี” มีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์อย่างมากแม้จะมีขนาดเล็ก เพราะเป็นตัวอ้างอิงและกำหนดอาณาเขตทางทะเลของยูเครนด้วย
ในช่วงแรกของสงครามที่เริ่มต้นเมื่อเดือน ก.พ.2565 สื่อสังคมออนไลน์ของยูเครนเผยแพร่เรื่องราวที่ทหาร 13 คน บนเกาะงูพลีชีพต้านทานการโจมตีจากเรือรบรัสเซีย โดยกองทัพเรือยูเครนแถลงในขณะนั้นว่า วีรบุรุษเหล่านี้และทหารคนอื่น ๆ บนเกาะงูยังคงมีชีวิตอยู่และสบายดี รวมถึงทหารยูเครนคนที่ปฏิเสธจะยอมจำนนและตะโกนบอกให้เรือรบรัสเซีย “ไปตายซะ“
กองทัพเรือยูเครนระบุในตอนนั้นว่า กองกำลังรักษาชายแดนและหน่วยนาวิกโยธินบนเกาะงู 82 นาย ต่อสู้อย่างเต็มกำลังความสามารถจนกระสุนหมด แต่ก็ไม่อาจจะต้านทานเรือรบรัสเซียซึ่งยิงทำลายประภาคาร หอคอย เสาอากาศสื่อสาร และโครงสร้างพื้นฐานทางทหารต่าง ๆ บนเกาะจนพังราบคาบ ทำให้กองกำลังยูเครนจำต้องวางอาวุธและยอมจำนนต่อฝ่ายรัสเซีย
กองกำลังรัสเซียได้เข้าควบคุมตัวทหารยูเครนบนเกาะงู รวมทั้งเรือกู้ภัยของพลเรือนยูเครนที่พาหมอและนักบวชมาให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมแก่ทหารบนเกาะด้วย ซึ่งฝ่ายยูเครนประณามว่าเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ อย่างไรก็ตาม คาดว่ากองกำลังรัสเซียจะปล่อยตัวคนเหล่านี้กลับภูมิลำเนาในไม่ช้า
รัสเซียทิ้งระเบิดไม่หยุด
รัฐบาลยูเครนรายงานอีกว่า กองทัพรัสเซียได้ยิงขีปนาวุธโจมตีภูมิภาคโอเดสซา ทางตอนใต้ของยูเครน ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 21 คน ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 1 คน
ช่วงไม่กี่วันมานี้ รัสเซียได้ยิงขีปนาวุธหลายสิบลูกโจมตีเมืองต่าง ๆ ของยูเครนอย่างต่อเนื่อง โดยโฆษกรัฐบาลรัสเซียปฏิเสธว่าไม่ได้พุ่งเป้าโจมตีพลเรือน แต่คำบอกเล่าของชาวยูเครนในพื้นที่กลับแตกต่างออกไป
“เราได้ยินเสียงระเบิด 3 คน แล้วศูนย์สันทนาการของเราก็ไม่มีอะไรเหลือเลย” ยูเลีย บอนดาร์ ชาวยูเครนวัย 60 ปี ในหมู่บ้านเล็กแห่งหนึ่งในโอเดสซา บอกกับบีบีซี
“เราเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ไม่คิดเลยว่าต้องมาเจออะไรแบบนี้“
……..
ข่าว BBCไทย ที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ ประชาชาติธุรกิจ เป็นความร่วมมือของสององค์กรข่าว