หลังตะลุยเล่นน้ำสงกรานต์อย่างสนุกสนาน หากใครไม่ได้เตรียมรับมือกับการป้องกันสิวไว้ก่อน แถมยังออกไปเล่นสงกรานต์แบบโดนน้ำจากสารพัดแหล่ง จัดเต็มทั้งแป้ง ดินสอพอง และน้ำอบ ท่ามกลางอากาศร้อนอบอ้าว อาจทำให้เกิด “สิวผด” และ “สิวอักเสบ” ตามมา เนื่องจาก “ผิว” ต้องเผชิญกับสิ่งสกปรกและสิ่งกระตุ้นให้เกิดการระคายเคืองที่อาจปนมากับน้ำจากแหล่งน้ำต่าง ๆ รวมถึงอากาศร้อนที่อาจทำให้ผิวไหม้ ส่งผลให้ผิวอ่อนแอ จึงทำให้เกิดการระคายเคือง ซึ่งอาจแสดงออกมาในรูปผิวแดง ผดผื่น หรืออาจลามไปจนเป็นสิวผด และสิวอักเสบได้ ซึ่งอาจเกิดอาการได้ตั้งแต่เป็นน้อย ๆ จนถึงกลายเป็น “สิวอักเสบเห่อทั่วใบหน้า” ได้ในที่สุด
แต่ยังไม่สายจนเกินไป สำหรับผู้ที่มีปัญหา “สิวเห่อ” หลังเล่นน้ำสงกรานต์เพียงแต่ต้องรู้จักวิธีการแก้ไขปัญหาสิวอย่างเข้าใจและถูกต้อง โดย ดร.ภญ.จิรวรรณ โอพรสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ
บริษัท แอล.เอ.เดอร์มาเทค จำกัด ผู้นำด้านการผลิต-วิจัยและพัฒนา เครื่องสำอางและเวชสำอางที่ได้รับรองมาตรฐาน ISO 22716/ COSMETICS GMP ระดับสากล ได้แนะนำเคล็ดลับในการฟื้นฟูผิวเป็นสิว ให้กลับมาเป็นผิวสวยอีกครั้งด้วยเทคนิคง่ายๆใกล้ตัว ดังนี้
1. งดการสครับผิว เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่เหมาะสม
หลังจากเผชิญแสงแดดร้อนแรงและมลภาวะต่าง ๆในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ผิวอาจจะคล้ำ ดูไม่แข็งแรงหรือเป็นสิว ทำให้หลายๆคนอยากสครับผิวหน้าเพื่อขจัดเซลล์ผิวที่หมองคล้ำและหัวสิวให้หลุดออกไป แต่ในความเป็นจริงเม็ดสครับจากโฟมล้างหน้าที่ขัดถูบนผิวจะยิ่งทำให้ผิวหน้าถูกซ้ำเติมทำร้ายผิวให้อ่อนแอลง โดยเมื่อผิวหนังชั้นบนถูกขัดถู ขจัดออกไป ผิวด้านล่างที่ยังแข็งแรงไม่เต็มที่ไม่พร้อมกับการรับมือกับสภาวะแวดล้อมภายนอกต้องมาออกทำหน้าที่ปกป้องสิ่งแปลกปลอมเข้าร่างกายแทน เซลล์ผิวที่ยังอ่อนแอเมื่อต้องสัมผัสกับสภาพแวดล้อมที่รุนแรงของฤดูร้อนทำให้ไม่สามารถต้านทานได้ ทำให้มีโอกาสผิวเสียและเสี่ยงต่อการเกิดสิวยิ่งขึ้น ดังนั้นสำหรับผู้ที่เป็นสิวควรใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่อ่อนโยนต่อผิว ไม่มีส่วนผสมของเม็ดสครับรุนแรง ไม่มีส่วนผสมของสารชำระล้างที่รุนแรงอย่าง Sodium lauryl sulfate (SLS) โดยควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่ได้รับการรับรองแล้วว่าไม่ก่อให้เกิดคอมีโดนหรือ สิวอุดตัน “Non- Comedogenic” และ ไม่ควรถูหน้าแรงเพราะจะทำให้เกิดการระคายเคือง และอย่าบีบหรือแกะสิวเพราะจะทำให้สิวอักเสบมากยิ่งขึ้นและทิ้งรอยแผลเป็นได้
2. ปกป้องผิวจากแสงแดด
เมื่อผิวยังอ่อนแอจากการถูกทำร้าย จำเป็นที่จะต้องใส่ใจเรื่องการปกป้องดูแลผิวเป็นพิเศษ การปกป้องผิวจากแสงแดดจะสามารถช่วยลดการซ้ำเติมผิวเสีย ช่วยบรรเทาอาการเจ็บแสบบริเวณใบหน้า และช่วยลดภาวะแทรกซ้อนจากผิวเสีย นอกจากนั้นการประคับประคองดูแลผิวในช่วงนี้ยังทำให้ลดโอกาสเสี่ยงจากการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากมลภาวะ และเชื้อโรค ซึ่งเป็นสาเหตุของการแพ้ระคายเคือง จนทำให้ผิวหน้าเกิดผดผื่น หรือ เกิดการติดเชื้อได้
การปกป้องผิวจากแสงแดด ทำได้โดย ใส่หมวก กางร่ม หรือใช้ผ้าคลุม นอกจากนั้นให้อยู่ในที่ร่มหลีกเลี่ยงการถูกแสงแดดโดยตรง การเลือกใช้ครีมกันแดดที่ทำมีสารก่อการระคายเคืองน้อยช่วยได้บ้างแต่วิธีที่ดีที่สุดคือการหลบเลี่ยงจากแสงแดดที่เป็นสาเหตุที่จะซ้ำเติมผิว
3. งดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มี ส่วนผสมของ AHA หรือ BHA
หลังจากเผชิญกับแสงแดดจัดจนมีอาการแสบร้อนที่ผิวและยิ่งกำลังเผชิญกับปัญหาสิวอักเสบอยู่นั้น ควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของจาก กรดอัลฟาไฮดรอกซี (Alpha Hydroxy Acids) หรือ AHA และกรดบีต้าไฮดรอกซี (Beta Hydroxy Acids ) หรือ BHA หรือรู้จักกันดีภายใต้ชื่อ กรดซาลิกไซลิก (Salicylic Acids) แม้ว่าสารทั้งสองชนิดจะช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าหรือเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดออกจากชั้นหนังกำพร้า เพื่อลดการเกิดสิวอุดตัน และ เผยผิวใหม่ แต่ยังไม่ควรใช้กับผิวที่เพิ่งผ่านมรสุมผิวไหม้แดด
ผดผื่น หรือสิวอักเสบ ในช่วงเวลานี้จึงยังไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว หรือ ลอกผิว อาการที่พบบ่อย ๆ จากการใช้กกรดในการลอกผิวคือ เกิดการระคายเคือง อักเสบ แห้งลอก และมีรอยแดงนอกจากนั้นผิวที่บางลงจะทำให้ไวต่อแสงมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
4. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ช่วยคืนความชุ่มชื้นและสมานผิวเป็นสิว
การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวในช่วงที่ผิวเสียเช่นนี้คือหัวใจสำคัญทีเดียวสำหรับการดูแลผิวช่วงที่ผิวอ่อนแอ ผิวที่อ่อนแอโดยมากจะมีลักษณะแห้งแตก ไวต่อสิ่งกระตุ้นมากกว่าผิวปรกติ การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์จะต้องเน้นผลิตภัณฑ์ที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวและไม่ทำร้ายผิว โดยเลือกผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เน้นให้ความชุ่มชื้น และปราศจากแอลกอฮอลล์ เช่น ผลิตภัณฑ์จาก “เจลว่านหางจระเข้” ที่ว่านหางจระเข้จะช่วยสมานแผล หรือ ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมสกัดจาก “เปลือกมังคุด” ที่มีส่วนช่วยลดสิวอักเสบ และสมานแผลและช่วยบำรุงผิว สารสกัดจาก “อลันโทอิน” บำรุงผิวและเป็นสมุนไพรที่ใช้กันมานานที่มีส่วนช่วยลดการระคายเคือง ทำให้เซลผิวอ่อนนุ่มขึ้นซึ่งจะช่วยให้เซลผิวค่อย ๆ ผลัดออกอย่างอ่อนโยน เป็นต้น สำหรับแนวทางการเลือกผลิตภัณฑ์ดูแลผิวในช่วงนี้อาจเลือกจากผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติเป็นหลัก ผ่านการทดสอบการระคายเคืองจากแพทย์ผิวหนัง มีโรงงานผลิตที่ได้มาตรฐาน มีมาตรฐานการผลิตรองรับก็จะช่วยให้มั่นใจกว่า
5. ทานผักและผลไม้หรือทานวิตามินเสริมเพื่อช่วยฟื้นฟูผิวเป็นสิวให้หายเร็วยิ่งขึ้น
หากต้องการให้ผิวหายจากการถูกทำร้ายหรือผดผื่น หรือสิว และ ผิวกลับมาสวยใสเหมือนเคย นอกจากจะดูแลผิวพรรณจากภายนอกแล้ว การดูแลผิวพรรณจากภายในด้วยจะช่วยให้ผิวพรรณฟื้นฟูเร็วขึ้น โดยผู้ที่มีปัญหาสิว ควรทานผลไม้ที่ช่วยมีสารต้านอนุมูลอิสระเพราะนอกจากจะช่วยลดการเกิดสิวแล้ว ยังช่วยบำรุงผิวพรรณให้กลับมาแข็งแรง ผิวพรรณสดใสอีกครั้ง เช่น มะเขือเทศ แตงโม แอปเปิล ส้ม และสัปปะรด ซึ่งเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินซี และ เบต้าแคโรทีน ที่สามารถช่วยซ่อมแซมผิวเป็นสิวให้กลับมาสดใสอีกครั้งแถมยังทานดับร้อนไปพลางๆ หรือจะเลือกทานเป็นวิตามินซีเสริมก็ช่วยได้เช่นกัน
นอกจาก 5 วิธี สยบ “สิวเห่อ” หลังสงกรานต์ นี้แล้ว อย่าลืมผ่อนคลายความตึงเครียดจากปัญหาสิว และ พักผ่อนให้เพียงพอจะช่วยฟื้นฟูปัญหาสิวเห่อหลังสงกรานต์ได้ เพราะการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอจะช่วยให้ฮอร์โมนในร่างกายทำงานเป็นปกติ หากฮอร์โมนทำงานแปรปรวนก็จะทำให้ไปกระตุ้นต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากเกินไป และก่อให้เกิดการอุดตันในรูขุมขนที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิวได้ อย่างไรก็ตามหากอาการ “ผดผื่น” หรือ “สิวอักเสบ” ไม่ยุบ ภายใน 2 สัปดาห์ และยังมีอาการลุกลาม และมีสิวผุดขึ้นใหม่บริเวณเดิมซ้ำซากให้ปรึกษาแพทย์และหรือเภสัชกรเพื่อพิจารณาการรักษาโดยการใช้ยาต่อไป