คอลัมน์ คุยกับหมอพิณ โดย พญ.พิณนภางค์ ศรีพหล
สวัสดีค่ะ สัปดาห์ก่อนเราคุยเรื่องยาคุมแบบ ฉุกเฉิน กันไปแล้ว สัปดาห์นี้เราจะมาคุยเกี่ยวกับการคุมกำเนิดแบบไม่ฉุกเฉินกันนะคะ
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- พบรอยร้าวบ่อฝังกลบกากแคดเมียมของ เบาด์ แอนด์ บียอนด์
- เปิดไทม์ไลน์ลูกค้าซิตี้แบงก์ต้องรู้! ก่อนโอนย้ายบัญชีมาเป็น “ยูโอบี” 21 เม.ย.นี้
หมอเขียนในสัปดาห์ที่แล้วว่ายาคุมฉุกเฉินมีฮอร์โมนระดับสูง ถ้าจะทานทุกครั้งหลังมีเพศสัมพันธ์ อาจทำให้เกิดเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด และเพิ่มความเสี่ยงในการตั้งครรภ์นอกมดลูกด้วย
ดังนั้น ในกรณีที่ต้องการมีเพศสัมพันธ์ต่อเนื่องและยังไม่พร้อมตั้งครรภ์ หมอขอแนะนำให้คุมกำเนิด
วิธีอื่นดีกว่าค่ะ มีหลายวิธีเลย ไม่ว่าจะทานยาแบบรายเดือน ฉีดยาคุม แปะยา ฝังยา หรือสวมถุงยางอนามัย
วันนี้เราจะมาลงรายละเอียดเกี่ยวกับยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวมกันนะคะ ตามร้านขายยามีหลายยี่ห้อมากมาย เราจะรับประทานแบบไหนดี
ก่อนอื่นต้องถามตัวเองก่อนว่า
1.เรามีข้อควรระวังในการรับประทานยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวมหรือไม่
– อายุมากกว่า 35 ปี และสูบบุหรี่
– อยู่ในช่วงให้นมบุตร
-เลือดออกทางช่องคลอดผิดปกติแบบไม่ทราบสาเหตุ
– มีโรคประจำตัว ได้แก่ ความดันโลหิตสูงแบบควบคุมได้ไม่ดี มีประวัติลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำอุดกั้น มีประวัติโรคอัมพาต หรือโรคหัวใจ เป็นไมเกรน โรคเบาหวานที่มีภาวะแทรกซ้อนทางไต ตา เส้นประสาท โรคตับ
ถ้ามีข้อควรระวังดังกล่าว หรือไม่แน่ใจ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนคุมกำเนิดนะคะ ถ้าไม่มีก็สามารถทานได้ค่ะ
2.แต่ละชนิดในท้องตลาด 21 เม็ดบ้าง 28 เม็ดบ้าง มันต่างกันอย่างไร
ยาคุมชนิดฮอร์โมนรวม ฮอร์โมนรวมที่ว่า คือ ฮอร์โมนเอสโตรเจน และโปรเจสตินค่ะ
โดยตัวหลัก ๆ เอสโตรเจน ในแต่ละยี่ห้อจะมีปริมาณยาต่างกัน
ส่วนตัวโปรเจสติน จะมีหลากหลายชนิด ซึ่งตัวนี้จะเป็นตัวที่ต่างกันในด้านผลข้างเคียง
ถ้าเป็นชนิด 28 เม็ด คือให้ทานทุกวัน วันละเม็ด โดยเม็ดท้ายแผง เป็นเม็ดแป้ง มีไว้เพื่อกันลืมเท่านั้น
ส่วนถ้าเป็นเวอร์ชั่น 21 เม็ด ต้องทาน 21 เม็ด โดยหยุด 7 วันค่อยเริ่มแผงใหม่ค่ะ
3.เริ่มวันไหนดี
ถ้าจะหวังผลคุมกำเนิดในแผงแรก ควรทานภายใน 5 วันแรก โดยนับวันที่ประจำเดือนมาวันแรกเป็น
วันที่ 1 ถ้าไม่ได้เริ่มใน 5 วันนี้ ในช่วงแผงแรก ควรคุมกำเนิดวิธีอื่นร่วมด้วย เช่น การใช้ถุงยางอนามัยค่ะ
4.ข้อดี
ประสิทธิภาพดี มีโอกาสตั้งครรภ์ 1 ใน 100 ราย หากใช้แบบถูกต้องเป๊ะ ๆ แต่ในโลกแห่งความจริง ทานบ้าง
ลืมบ้าง อาจมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 9 รายใน 100 ราย
ส่วน หากตั้งการจะตั้งครรภ์ สามารถหยุดยา และปล่อยให้ตั้งครรภ์ได้เลย (แค่ลืมก็ท้องได้แล้ว) และถ้าหากเผลอทานไปในระยะตั้งครรภ์เริ่มแรก ก็ไม่ทำให้ทารกมีความผิดปกติ หรือแท้งบุตรได้ค่ะ
ข้อดีอื่น ๆ ได้แก่
– ลดมะเร็ง : ลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งรังไข่ มะเร็งในเยื่อบุโพรงมดลูก
– ประจำเดือนดี๊ดี : ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม สามารถลดการปวดประจำเดือน ลดปริมาณเลือดประจำเดือนได้ด้วย บางชนิดสามารถลดอาการก่อนมีประจำเดือนได้ การทานยาคุมจะทำให้ประจำเดือนมาสม่ำเสมอ แบบคาดเดาได้ สามารถเลื่อนประจำเดือนได้ด้วย (เช่น ถ้าทานแบบ 21 เม็ด ถ้าหมดแผง
ยังไม่อยากมีประจำเดือนก็เริ่มแผงใหม่ได้เลยค่ะ ส่วนแบบ 28 เม็ด ก็แค่ไม่ทานเม็ดแป้ง แล้วเริ่มแผงใหม่ได้เลย)
– รักษาถุงน้ำรังไข่บางชนิด
– บางชนิดทานแล้วหน้าใส
– ลดการผลิตฮอร์โมนเพศชายในโรคถุงน้ำรังไข่หลายใบ
พูดถึงข้อดีมาเยอะแล้ว ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม อาจมีผลข้างเคียง เช่น ปวดศีรษะ คลื่นไส้ เจ็บ
เต้านม ความดันโลหิตสูง เลือดออกกระปริดกระปรอย
ได้ค่ะ และยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม ไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ค่ะ
ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวมเป็นตัวเลือกคุมกำเนิดที่ดีค่ะ สะดวก หาซื้อง่าย ข้อดีมากมาย ผลข้างเคียงน้อย ขอแค่ไม่ลืมทานก็พอ สวัสดีค่ะ