สวัสดีค่ะ ช่วงนี้มีข่าวโรคพิษสุนัขบ้าระบาดกัน หลายพื้นที่ในประเทศไทยนะคะ โรคพิษสุนัขบ้า อันตรายถึงชีวิต ติดแล้วตาย และปัจจุบัน ยังไม่มียาที่สามารถรักษาโรคพิษสุนัขบ้าได้ แต่เราสามารถป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าได้ค่ะ
ดังนั้น วันนี้เราจะมาคุยกันเกี่ยวกับโรคพิษสุนัขบ้ากันค่ะ
- เรือสิงคโปร์ชนสะพานในสหรัฐ มีประวัติไม่ดีมาก่อน เรารู้อะไรแล้วบ้างตอนนี้ ?
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 1 เมษายน ย้อนหลัง 10 ปี
- หุ้นกู้ออกใหม่ 12 บริษัทแห่ขายเดือน เม.ย.นี้ จ่ายดอกเบี้ยสูงสุด 7.40%
โรคพิษสุนัขบ้า…มากับน้ำลาย
โรคพิษสุนัขบ้า มาจากเชื้อไวรัส rabies ที่มักติดต่อทางการ “กัด” จากสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ติดเชื้อไวรัสนี้เข้าไป หรืออาจจะโดน “เลีย” ในบริเวณที่เป็นแผลค่ะ ซึ่งไม่ใช่แค่ “สุนัข” เหมือนตามชื่อโรคนะคะ แมว หนู ค้างคาว ลิง ชะนี แร็กคูน ก็สามารถ ทำให้เกิดโรคพิษสุนัขบ้าได้เช่นกันค่ะ
โรคพิษสุนัขบ้า…ถึงตาย…เชียวรึ
ใช่ค่ะ หากโดนกัดแล้วไม่ได้รับการรักษา แล้วเกิดติดเชื้อขึ้นมา…ถึงตายนะคะ โดยเชื้อจะส่งผ่านทางน้ำลาย สู่แผลที่โดนกัด และวิ่งเข้าไปทำลายสมองและระบบประสาทค่ะ
โดยอาการเริ่มแรก จะรู้สึกเหมื่อนป่วย ๆ ทั่ว ๆ ไปค่ะ มีไข้ ปวดศีรษะ ร่างกายอ่อนแรง รู้สึกคัน ๆ ที่แผล ต่อมาจะมีอาการกระสับกระส่าย นอนไม่หลับ สับสน ตื่นเต้นง่าย มีกล้ามเนื้ออ่อนแรง เห็นภาพหลอน น้ำลายออกมาก กลืนลำบาก กลัวน้ำ…และเสียชีวิตในที่สุด
วิธีป้องกันไม่ให้เป็นโรคพิษสุนัขบ้า
– ระวังสัตว์
เริ่มจากสัตว์ที่บ้านท่านค่ะ หากมีสัตว์เลี้ยงแสนรักอยู่บ้าน อย่าลืมพามันไปฉีดยาป้องกันพิษสุนัขบ้านะคะ เพราะถ้ามันโดนกัดขึ้นมา…มันก็ตายเหมือนกัน และไม่ควรปล่อยสัตว์เลี้ยงออกไปเริงร่านอกบ้านโดยไม่มีสายจูง เพราะอาจโดนสัตว์ที่ติดเชื้อกัดเอาได้ค่ะ
– ระวังเรา ถ้าโดนกัด
ถ้าเราโดนสัตว์กัด ล้างแผลด้วยน้ำสะอาดปริมาณมากและสบู่ค่ะ ล้างเข้าไป เพื่อลดปริมาณเชื้อ หลังจากนั้น รีบไปปรึกษาแพทย์ เพื่อพิจารณาฉีดวัคซีน ควรจะขังสัตว์ที่มากัดไว้เพื่อดูอาการเป็นเวลา 10 วัน ด้วยนะคะ
วันนี้คงพอรู้จักกับโรคและวิธีป้องกันโรคพิษสุนัขบ้ากันแล้วนะคะ สวัสดีค่ะ