ถุงน้ำรังไข่…ต้องผ่าตัดรึเปล่าคะ

สวัสดีค่ะ สาว ๆ เวลาไปตรวจร่างกายประจำปี ตรวจภายใน อัลตราซาวนด์ บางครั้งคุณหมอจะแจ้งว่า คุณมี “ซีสต์ที่รังไข่” หรือถุงน้ำรังไข่ สาว ๆ หลายท่านรู้สึกตกใจและกังวลขึ้นมา

ดังนั้นวันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับถุงน้ำรังไข่กันนะคะ

+ถุงน้ำรังไข่ คืออะไร…

มันก็คือ ถุง หรือกระเปาะที่มีน้ำอยู่ข้างใน ซึ่งอาจจะแปะอยู่บนผิวรังไข่หรืออยู่ในรังไข่นั่นเองค่ะ นอกจากน้ำแล้ว ถุงน้ำอาจจะบรรจุเลือด หรือมีเนื้อเยื่อบางอย่างอยู่ในถุงน้ำได้เช่นกันค่ะ

ถุงน้ำรังไข่พบได้บ่อยค่ะ ส่วนใหญ่ไม่ใช่มะเร็ง และส่วนใหญ่มักจะหายได้เอง โดยไม่ต้องรักษาอะไรเลย แต่อ๊ะ ๆ เน้นว่า ส่วนใหญ่นะคะ ไม่ใช่ทั้งหมด ดังนั้น ควรให้คุณหมอเป็นคนแนะนำนะคะ

+ถุงน้ำรังไข่ แบ่งออกเป็น

Functional cyst : คือถุงน้ำที่เกิดจากการทำงานตามรอบเดือนของรังไข่ เป็นชนิดที่พบเจอได้บ่อยที่สุดค่ะ สามารถหายได้เองโดยไม่ต้องใช้ยารักษาใด ๆ

Teratoma : เป็นถุงน้ำที่บรรจุไปด้วยเซลล์

ที่สามารถกลายร่างเป็นเซลล์ชนิดต่าง ๆ

ได้ อย่างผม ขน ฟัน สมอง กระดูกอ่อน ซึ่งคนไข้มักจะตกใจว่า ผม ขน ฟัน มาอยู่ในรังไข่ดิฉันได้อย่างไร ไม่ได้มีใครเสก ผม ขน ฟัน เข้ารังไข่มานะคะ มันเป็นแค่ความผิดปกติของเซลล์ค่ะ ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ใช่มะเร็งค่ะ มีส่วนน้อยมาก ๆ ที่เป็นเซลล์มะเร็ง

Cystadenoma : เป็นถุงน้ำรังไข่ชนิดหนึ่งที่สามารถขยายขนาดได้ใหญ่โตมาก แต่ส่วนใหญ่ไม่ใช่มะเร็งเช่นกันค่ะ

Endometrioma : หรือที่รู้จักกันอีกชื่อว่า “ช็อกโกแลตซีสต์” เป็นถุงน้ำที่ภายในบรรจุเลือดเก่า ๆ ที่เกิดจากเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ ไปเจริญในรังไข่นั่นเองค่ะ

+อาการของถุงน้ำรังไข่

ถุงน้ำรังไข่ส่วนใหญ่ไม่มีอาการค่ะ มักจะเป็นการตรวจเจอโดยบังเอิญ ไม่ว่าจะจากตรวจภายในหรืออัลตราซาวนด์ แต่ถ้าถุงน้ำรังไข่มีขนาดใหญ่ อาจมีอาการเจ็บ ปวด หน่วงได้ และถ้าถุงน้ำมีขนาดโตพอที่จะบิดขั้ว อาจจะมีอาการเจ็บปวดขึ้นมาเฉียบพลันขณะมีกิจกรรมบางอย่างได้ เช่นเพื่อนของหมอคนหนึ่งเคยมีถุงน้ำรังไข่บิดขั้วขณะ CPR คนไข้ค่ะ (1 และ 2 และ 3…โอ้ยยยย) หรือถ้าถุงน้ำรังไข่มีปริ แตก รั่วหรือมีเลือดออก ก็สามารถมีอาการปวดเฉียบพลันขึ้นมาได้เช่นกันค่ะ

+ถ้ามีถุงน้ำรังไข่ ต้องผ่าตัดหรือไม่

การรักษา ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยค่ะ ไม่ว่าจะด้วยตัวโรค ว่ามีความเป็นไปได้ที่จะเป็นมะเร็งหรือไม่ หรือถ้าทิ้งไว้แล้วโอกาสโตขึ้น โอกาสมีภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ตามมาเช่นมีโอกาสบิดขั้วหรือไม่ ขึ้นอยู่กับอาการของโรค ไม่ว่าจะด้วยเรื่องของความต้องการมีบุตร ต้องพิจารณากันเป็นราย ๆ ไปว่าจะติดตามการรักษา หรือจะต้องผ่าตัดค่ะ หากไม่มีอาการอะไร ขนาดไม่โตมาก ดูแล้วไม่เหมือนมะเร็ง การรักษาจะเป็นการติดตามการรักษาค่ะ คือ คุณหมอก็จะนัดดูอาการและอัลตราซาวนด์ดูเป็นระยะ ๆ ว่าถุงน้ำมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ อาจจะทุก 3 เดือน 6 เดือน หรือ 1 ปี

ส่วนถ้าถุงน้ำรังไข่มีขนาดใหญ่ มีความคล้ายมะเร็ง หรือผู้ป่วยมีอาการผิดปกติ ส่วนใหญ่ก็จะแนะนำเป็นการผ่าตัดค่ะ การผ่าตัดก็ขึ้นอยู่กับอายุ ความต้องการมีบุตรในอนาคต การผ่าตัดก็มีได้ทั้งผ่าตัดเปิดหน้าท้อง ผ่าตัดส่องกล้อง จะตัดรังไข่ออกทั้งข้างพร้อมท่อนำไข่ หรือเลาะเฉพาะถุงน้ำรังไข่ออกอย่างเดียวก็ได้เช่นกันค่ะ

วันนี้คุณผู้อ่านคงรู้จักกับ “ถุงน้ำรังไข่” มากขึ้นแล้วนะคะ สวัสดีค่ะ