“The Story of light” จงฮยอน..ยังอยู่กับ SHINee และ 10 ปีกับการเดินทางของแสง

W.K.언니 ([email protected])

การจากไปของคิมจงฮยอน หนึ่งในเมมเบอร์ของวงชายนี่ (SHINee) ในช่วงปลายปี 60 ที่ผ่านมา  ทำให้ SHINee เป็นที่จับตาว่าเส้นทางที่เหลือของเมมเบอร์ทั้ง 4 คนคือ อนยู คีย์ มินโฮและมิน จะเป็นอย่างไร และแล้วในที่สุดพวกเขาก็ยืนหยัดต่อไปด้วยการคัมแบ็กกับอัลบั้มที่ 6 “The Story of Light” กับ 15 เพลงในสไตล์ป็อบ บัลลาด และอาร์แอนด์บี ที่เต็มไปด้วยพลัง พิสูจน์ให้เห็นว่า แม้จะต้องผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากพวกเขายังเป็นบอยแบนด์ที่โดดเด่นเสมอ

เอสเอ็ม เอ็นเตอร์เทนเมนท์ (SM.Entertainment) บีบหัวใจเหล่าชายนี่เวิล์ด (ชื่อแฟนคลับวง SHINee) ที่ใช้วิธีทยอยปล่อยเพลงออกเป็น 3 Episode เริ่มที่ Ep.1 ที่มีเพลงโปรโมตอย่างเพลง Good Evening  แต่ที่โดดเด่นไม่แพ้เพลงโปรโมตคือเพลง You & I สไตล์แนวเออร์เบิน อาร์แอนด์บี ที่บอกเล่าเรื่องราวความรักในวัยเด็ก และเพลง All day All night  แทรคแรกเพลงให้อารมณ์สนุกไลน์ประสานในท่อนฮุกก็กำลังดี เสียงของอนยูเป็นเอกลักษณ์และทรงพลัง

จากนั้นตามมาด้วย Ep.2 ที่มีเพลง I Want you” ดนตรีป็อปที่ผสมผสานกันกับดนตรี ทรอปิคอล เฮ้าส์ ที่เปิดด้วยเสียงร้องของแทมิน  แต่เพลงนี้ก็สนุกเป็นสไตล์เฉพาะของ SHINee จริงๆ ชอบการใช้เสียงของคีย์ในเพลงนี้ เบสในเพลงนี้กระแทกหูอย่างจัง โดยเฉพาะเสียงร้องของแทมินที่ระเบิดอินเนอร์ของตัวเองในช่วงเกือบสุดท้าย ที่คนฟังรู้สึกได้ว่าคนร้องรู้สึกอย่างไร

และตามมาด้วยสุดท้ายกับ Ep.3 ที่เปิดตัวด้วยเพลง Our Page แนวอาร์แอนด์บี ซึ่งเมมเบอร์ทั้ง 4 คนร่วมกันแต่งเนื้อร้องเพื่อระลึกถึง คิมจงฮยอน เพลงนี้เต็มตื้นไปด้วยความคิดถึง และเหมือนเป็นสัญญาว่า เมมเบอร์ที่เหลือจะช่วยกันเติมเต็มไปด้วยกันจนถึงปลายทาง

ใน Ep 3 ถือเป็นจุด “พีค” ของความรู้สึกของทั้งคนฟังและคนร้อง !!

โดยเพลงนี้ถูกถ่ายทอดออกมาเป็นมิวสิควีดีโอ ที่ขย่มต่อมน้ำตาแตกของชายนี่เวิล์ด รวมถึงผู้เขียนด้วยเช่นกัน มิวสิควีดีโอถ่ายทอดชีวิตของเมมเบอร์ทั้ง 4 คน อนยูที่นั่งทำดนตรี แทมินและคีย์ ที่ยังคงฝึกฝนการเต้นให้ดียิ่งขึ้น ยิ่งขึ้นไปอีก.. ในขณะที่มินโฮก็เต็มที่ในฐานะนักแสดง ภาพในมิวสิควีดีโอเหมือนจะบอกว่า ทุกคนยังคงก้าวเดินต่อไป แต่เมื่อคิดถึงกันก็ให้มองบนท้องฟ้า ก็อาจจะเห็นดวงดาวสีเพิลล์อควา ในซีนที่พวกเขาเดินขึ้นบนเวที โดยยังคงเว้นที่ว่างของคิมจงฮยอนเอาไว้ เสมือนพวกเขาบอกว่า คิมจงฮยอน ยังอยู่ในความทรงจำเสมอ…

ใน Ep. 3 ยังมีเพลงที่ทำดนตรีเก๋ๆ ให้ฟังกันได้ยาวๆ อย่างเพลง Tonight และเพลง Retro ดนตรีในเพลงนี้ดึงดูดมาก โดยเฉพาะการประสานเสียงเป็นหนึ่งเดียวของพวกเขา ถัดมาคือเพลง I Say และตามมาด้วยเพลงที่พิเศษสุดอย่าง Lock You Down ที่มีเสียงร้องของคิมจงฮยอน ซึ่งเพลงนี้ทำไว้ก่อนที่เขาจะจากไป ให้ความรู้สึกว่า เหมือนเขายังไม่ได้จากไป เสียงของจงฮยอนเติมเต็มและเป็นสีสันให้กับเพลงได้ตลอด…

เพลงในอัลบั้มที่ 6 The Story of Light ทั้ง 3 Ep.ต่างก็ทยอยขึ้นชาร์จเพลงของเกาหลีอย่างต่อเนื่อง และในขณะนี้เมมเบอร์ทั้ง 4 คน ก็อยู่ในระหว่างขึ้นเวทีเพื่อโปรโมตอัลบั้ม และในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาถือว่าครบรอบ 10 ปีที่พวกเขาเดบิวต์ในฐานะบอยแบนด์วง SHINee  ไม่ว่าวัน เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนพวกเขาก็ยังได้รับการตอบรับที่ดีจากชายนี่เวิล์ดทั่วโลก และจำนวนชายนี่เวิล์ดก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ต้องยกเครดิตให้เอสเอ็ม เอ็นเตอร์เทนเมนท์ที่วางคอนเซ็ปต์ของชายนี่ให้เต็มไปด้วยความสดใส แม้พวกเขาจะเดบิวต์มาแล้ว 10 ปี แต่กลับสดใสเปล่งประกายได้ในทุกเวที ในฐานะบอยแบนด์ที่ครบเครื่องทั้งเสียงร้องและการเต้น

ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาจากก้าวแรกคือ อัลบั้ม The SHINee World ตามมาด้วยอัลบั้ม Lucifer อัลบั้ม Dream Girl – The Misconcepttions of you อัลบั้ม Why So Serious – The Misconcepttions of Me อัลบั้ม Odd อัลบั้ม 1 Of 1 และอัลบั้มล่าสุด The Story of Light ในทุกอัลบั้มการันตีด้วยยอดขาย ความนิยม และคอนเสิร์ตที่เกิดขึ้นทั้งในเกาหลีและในต่างประเทศ รวมถึงประเทศไทย

โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับ คอนเสิร์ตครั้งล่าสุดในไทยของ SHINee  ครบทั้ง 5 คน ใน SHINee  CONCERT “ SHINee World v’ In Bangkok” เมื่อ 24 มิ.ย. 60 ที่ผ่านมา ยังคงอยู่ในความทรงจำว่ าเป็นคอนเสิร์ตที่อบอุ่น เพราะแสง คือ SHINee ที่ได้มาพบกับเงา คือ ชายนี่เวิล์ด หลังจากที่ไม่ได้พบกันนานถึง 1 ปี 9 เดือน ทุกคนเต็มที่กับทุกโชว์ เปอร์ฟอร์แมนซ์ทุกซีนก็ดีงาม ยังจำได้ว่า อนยูบ่นว่าเมืองไทยร้อน  แทมินโซโล่เดียวในเพลง Goodbye ได้อย่างน่าประทับใจ พวกเขายังเอ่ยปากชมชายนี่เวิล์ดที่ร้องตามได้ทุกเพลง และจงฮยอน ที่บอกว่า เขาเองก็รอที่จะเจอกับทุกคนในวันนี้…

ขอยกคำพูดของจงฮยอนที่พูดไว้ในรายการวิทยุที่ว่า “การเติบโตมักมาพร้อมกับความเจ็บปวดอยู่เสมอ” เมื่อได้ฟังเพลงในอัลบั้ม The Story of Light ครบทั้งหมดแล้ว รู้สึกได้ว่า SHINee ผ่านจุดนั้นมาแล้ว พวกเขากลับมาแข็งแรง สดใสและมีพลัง พร้อมก้าวสู่ปีที่ 11 ในวงการเคป็อปที่เต็มไปด้วยการแข่งขันแล้ว..